พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น: จำเลยต้องรับผิดเมื่อรู้เห็นการกระทำของพวกหรือไม่
จำเลยพาพวกหลายคนไปรับบุตรสาวผู้เสียหายซึ่งเป็นคู่รักของจำเลย ระหว่างพาหนีผู้เสียหายตามไปขัดขวาง พวกของจำเลยใช้ปืนยิงเอาได้รับบาดเจ็บ จำเลยมิได้รู้เห็นในการกระทำของพวกของจำเลย จะถือว่าจำเลยมีเจตนาสมคบกับพวกใช้อาวุธปืนยิ่งผู้เสียยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดใช้ความรุนแรง: จำเลยไม่มีเจตนาให้พวกใช้อาวุธปืนทำร้ายผู้เสียหาย
จำเลยพาพวกหลายคนไปรับบุตรสาวผู้เสียหายซึ่งเป็นคู่รักของจำเลย ระหว่างพาหนีผู้เสียหายตามไปขัดขวาง พวกของจำเลยใช้ปืนยิงเอาได้รับบาดเจ็บ จำเลยมิได้รู้เห็นในการกระทำของพวกของจำเลย จะถือว่าจำเลยมีเจตนาสมคบกับพวกใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยเจตนาฆ่าเมื่อไม่มีเหตุป้องกันตนเอง
จำเลยทำผู้ตายฝ่ายเดียว เพราะผู้ตายส่งเสียงเอะอะในโรงงานที่จำเลยเป็นยามเฝ้า. เป็นทำนองล่วงอำนาจจำเลยเท่านั้น ไม่เป็นป้องกัน
มีดที่จำเลยใช้แทงผู้ตายเป็นมีดปลายแหลมด้ามยาว 3 นิ้วฟุต ตัวมีดยาวประมาณ 5 นิ้วฟุต กว้างประมาณ 1 นิ้วฟุต จำเลยแทงผู้ตายที่หน้าท้องบาดแผลยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ทะลุถึงตับเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
มีดที่จำเลยใช้แทงผู้ตายเป็นมีดปลายแหลมด้ามยาว 3 นิ้วฟุต ตัวมีดยาวประมาณ 5 นิ้วฟุต กว้างประมาณ 1 นิ้วฟุต จำเลยแทงผู้ตายที่หน้าท้องบาดแผลยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ทะลุถึงตับเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยเจตนาฆ่า ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว แม้ผู้ตายจะส่งเสียงเอะอะล่วงอำนาจ
จำเลยทำผู้ตายฝ่ายเดียว เพราะผู้ตายส่งเสียงเอะอะในโรงงานที่จำเลยเป็นยามเฝ้า เป็นทำนองล่วงอำนาจจำเลยเท่านั้นไม่เป็นป้องกัน
มีดที่จำเลยใช้แทงผู้ตายเป็นมีดปลายแหลมด้ามยาว 3 นิ้วฟุต ตัวมีดยาวประมาณ 5 นิ้วฟุต กว้างประมาณ 1 นิ้วฟุต จำเลยแทงผู้ตายที่หน้าท้องบาดแผลยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ทะลุถึงตับเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
มีดที่จำเลยใช้แทงผู้ตายเป็นมีดปลายแหลมด้ามยาว 3 นิ้วฟุต ตัวมีดยาวประมาณ 5 นิ้วฟุต กว้างประมาณ 1 นิ้วฟุต จำเลยแทงผู้ตายที่หน้าท้องบาดแผลยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ทะลุถึงตับเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงปืนเข้าบ้านโดยประมาท และทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ ถือเป็นความผิดอาญา
จำเลยยิงปืนเข้าไปในบ้านผู้เสียหายโดยจำเลยทราบว่ามีคนอยู่ในบ้านนั้นกระสุนปืนอาจจะถูกผู้เสียหายและพวกซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นได้ และกระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงได้ทะลุบ้านผู้เสียหายไปถูกผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านอีกหลังหนึ่งได้รับบาดเจ็บ เช่นนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยิงปืนเข้าบ้านผู้อื่นโดยรู้มีคนอยู่ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ มีความผิดฐานพยายามฆ่าและยิงปืนในเมืองโดยไม่มีเหตุ
จำเลยยิงปืนเข้าไปในบ้านผู้เสียหายโดยจำเลยทราบว่ามีคนอยู่ในบ้านนั้น กระสุนปืนอาจจะถูกผู้เสียหายและพวกซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นได้ และกระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงได้ทะลุบ้านผู้เสียหายไปถูกผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านอีกหลังหนึ่งได้รับบาดเจ็บ เช่นนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตนเกินสมควรแก่เหตุ: การใช้ปืนตอบโต้การทำร้ายร่างกายด้วยมือเปล่า
บ. กับ น. ไม่มีอาวุธ เข้ากลุ้มรุมชกต่อจำเลย จำเลยใช้ปืนยิง น. หนึ่งนัด ขณะที่ น. กอดหลังจำเลย น.ผละออกและซไป จำเลยยิงซ้ำอีก กระสุนปืนถูกบริเวณคอและใต้ราวนมขวา แล้วจำเลยหันไปยิง บ. อีก 2-3 นัด ในระยะกระชั้นชิดติดพันกันนั้นเอง ถูกที่เหนือนมและสีข้าง น. และ บ. ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยดังนี้เป็นการฆ่าคนโดยเจตนาเพื่อป้องกันตนเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตนเกินสมควร: การใช้ปืนตอบโต้การทำร้ายร่างกายด้วยมือเปล่า
บ. กับ น. ไม่มีอาวุธ เข้ากลุ้มรุมชกต่อยจำเลยจำเลยใช้ปืนยิง น. หนึ่งนัดขณะที่ น. กอดหลังจำเลยน. ผละออกและเซไป จำเลยยิงซ้ำอีก กระสุนปืนถูกบริเวณคอและใต้ราวนมขวา แล้วจำเลยหันไปยิง บ. อีก2-3 นัด ในระยะกระชั้นชิดติดพันกันนั้นเองถูกที่เหนือนมและสีข้างน. และ บ. ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยดังนี้ เป็นฆ่าคนโดยเจตนาเพื่อป้องกันตน เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2302/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจำเลยในคดีอาญาพิจารณาจากพยานหลักฐาน, การยอมรับสารภาพ, และเหตุผลในการลดโทษ
การที่จำเลยดื่มสุราจนมึนเมาแล้วก่อเหตุร้ายขึ้นนั้น ไม่ใช่เหตุอันควรปรานีเสมอไป
จำเลยให้การรับว่าได้แทงผู้ตายจริง แต่ต่อสู้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวเช่นนี้ ย่อมถือว่าจำเลยปฏิเสธความผิด โจทก์ต้องนำพยานเข้าสืบจนคดีฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิด ไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันจึงจะลงโทษจำเลยได้ แม้ต่อมาระหว่างสืบพยานโจทก์จำเลยกลับให้การใหม่ยอมรับสารภาพตามฟ้องทุกประการ ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งเสมอไป จะต้องพิเคราะห์ด้วยว่า คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเพียงใดหรือไม่ ถ้าการรับสารภาพของจำเลยพอถือได้ว่าเป็นการจำนนต่อพยานหลักฐานของโจทก์ ก็ไม่เป็นเหตุที่จะปรานีลดโทษให้ถึงกึ่ง
จำเลยให้การรับว่าได้แทงผู้ตายจริง แต่ต่อสู้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวเช่นนี้ ย่อมถือว่าจำเลยปฏิเสธความผิด โจทก์ต้องนำพยานเข้าสืบจนคดีฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิด ไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันจึงจะลงโทษจำเลยได้ แม้ต่อมาระหว่างสืบพยานโจทก์จำเลยกลับให้การใหม่ยอมรับสารภาพตามฟ้องทุกประการ ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งเสมอไป จะต้องพิเคราะห์ด้วยว่า คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเพียงใดหรือไม่ ถ้าการรับสารภาพของจำเลยพอถือได้ว่าเป็นการจำนนต่อพยานหลักฐานของโจทก์ ก็ไม่เป็นเหตุที่จะปรานีลดโทษให้ถึงกึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2302/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจำเลยในคดีอาญาพิจารณาจากเหตุผลการรับสารภาพ, สภาพเมาสุรา และพยานหลักฐาน
การที่จำเลยดื่มสุราจนมึนเมาแล้วก่อเหตุร้ายขึ้นนั้นไม่ใช่เหตุอันควรปรานีเสมอไป
จำเลยให้การรับว่าได้แทงผู้ตายจริง แต่ต่อสู้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวเช่นนี้ ย่อมถือว่าจำเลยปฏิเสธความผิด โจทก์ต้องนำพยานเข้าสืบจนคดีฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิด ไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันจึงจะลงโทษจำเลยได้ แม้ต่อมาระหว่างสืบพยานโจทก์จำเลยกลับให้การใหม่ยอมรับสารภาพตามฟ้องทุกประการ ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งเสมอไปจะต้องพิเคราะห์ด้วยว่า คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเพียงใด หรือไม่ ถ้าการรับสารภาพของจำเลยพอถือได้ว่าเป็นการจำนนต่อพยานหลักฐานของโจทก์ ก็ไม่เป็นเหตุที่จะปรานีลดโทษให้ถึงกึ่ง
จำเลยให้การรับว่าได้แทงผู้ตายจริง แต่ต่อสู้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวเช่นนี้ ย่อมถือว่าจำเลยปฏิเสธความผิด โจทก์ต้องนำพยานเข้าสืบจนคดีฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิด ไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันจึงจะลงโทษจำเลยได้ แม้ต่อมาระหว่างสืบพยานโจทก์จำเลยกลับให้การใหม่ยอมรับสารภาพตามฟ้องทุกประการ ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งเสมอไปจะต้องพิเคราะห์ด้วยว่า คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเพียงใด หรือไม่ ถ้าการรับสารภาพของจำเลยพอถือได้ว่าเป็นการจำนนต่อพยานหลักฐานของโจทก์ ก็ไม่เป็นเหตุที่จะปรานีลดโทษให้ถึงกึ่ง