พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063-1065/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำร้ายร่างกายสาหัสจากการทะเลาะวิวาท เจตนาเพียงทำร้าย ไม่ใช่ฆ่า
ป.กับพวกวิวาทกับ อ. กับพวก พวกของ ป. คนหนึ่งกระชากคอเสื้อ อ. แล้วอีกคนหนึ่งใช้ไม้ตี อ. พวกของ อ. จึงใช้ไม้และตะหลิวเหล็กเข้าช่วยเหลือมิให้ ป. กับพวกทำร้าย อ. ต่อไป จึงเกิดชุลมุนต่อสู้กัน ป. ฉวยได้มีดหั่นเนื้อสุกรที่วางอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุแล้วใช้มีดนั้นฟัน อ. ในระหว่างชุลมุนกันนั้น เป็นบาดแผลสาหัส 4 แผลกะโหลกศีรษะแตกทำให้สมองเสีย แผลที่ไหล่ขวาลึกถึงกระดูก และกระดูกปลายนิ้วก้อยขาดเช่นนี้ ป. กับพวกไม่มีเจตนาฆ่า แต่มีเจตนาเพียงทำร้าย อ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063-1065/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำร้ายร่างกายสาหัสร่วมกัน ชุลมุนต่อสู้ เจตนาทำร้าย ไม่ใช่ฆ่า
ป. กับพวกวิวาทกับ อ. กับพวก พวกของ ป. คนหนึ่งกระชากคอเสื้อ อ. แล้วอีกคนหนึ่งใช้ไม้ตี อ. พวกของ อ. จึงใช้ไม้และตะหลิวเหล็กเข้าช่วยเหลือมิให้ ป. กับพวกทำร้าย อ. ต่อไป จึงเกิดชุลมุนต่อสู้กัน ป. ฉวยได้มีดหั่นเนื้อสุกรที่วางอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุแล้ว ใช้มีดนั้นฟัน อ. ในระหว่างชุลมุนกันนั้นเป็นบาดแผลสาหัส 4 แผลกะโหลกศีรษะแตกทำให้สมองเสีย แผลที่ไหล่ขวาลึกถึงกระดูก และกระดูกปลายนิ้วก้อยขาด เช่นนี้ ป. กับพวกไม่มีเจตนาฆ่า แต่มีเจตนาเพียงทำร้าย อ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ: การใช้มีดซามูไรทำร้ายพี่ชายหลังถูกทำร้ายก่อน
ผู้ตายซึ่งเป็นพี่ชายจำเลย ตบหน้าจำเลยก่อนแล้วตามจำเลยเข้าไปในห้องจะตบตีจำเลยอีก จำเลยจึงคว้ามีดซามูไรยาว 1 คืบทั้งด้าม แทงผู้ตายในขณะนั้น เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048-1049/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการกระทำโดยบันดาลโทสะในคดีอาญา ศาลพิจารณาความสมเหตุสมผลของการป้องกันตัวและเหตุข่มเหง
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจออกตรวจท้องที่ไปพบพวกผู้ตายหลายคนถือไม้และท่อนเหล็กจับกลุ่มกันในเวลาวิกาล จำเลยจึงเข้าไปสอบถามพร้อมกับแจ้งว่าเป็นตำรวจ และเมื่อจำเลยเอื้อมมือจะเอาไม้หรือเหล็กจากพวกผู้ตาย พวกผู้ตายก็เข้ากลุ้มรุมตีจำเลยจนศีรษะแตก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวนี้มิใช่เป็นการที่จำเลยสมัครใจวิวาทกับผู้ตายและพวกจำเลยจึงมีสิทธิป้องกันตัวได้ แต่เมื่อจำเลยถูกผู้ตายกับพวกรุมทำร้ายจนล้มลงแล้ว จำเลยได้ชักปืนออกมา ผู้ตายกับพวกก็วิ่งหนี จำเลยจึงยิงไปทางพวกผู้ตายที่กำลังวิ่งหนี กระสุนถูกผู้ตายเข้าทางด้านหลัง2 แผลถึงแก่ความตายทันทีห่างจากจุดที่เกิดตีกัน 19.90 เมตร เช่นนี้แสดงให้เห็นว่าภยันตรายที่จะเกิดแก่จำเลยได้ผ่านพ้นไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นป้องกัน
การที่จำเลยถูกผู้ตายกับพวกเข้ากลุ้มรุมทำร้ายเอาก่อน ถือได้ว่าจำเลยได้ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจึงยิงผู้ข่มเหงในขณะนั้นถึงตาย เข้าลักษณะการกระทำโดยบันดาลโทสะ
การที่จำเลยถูกผู้ตายกับพวกเข้ากลุ้มรุมทำร้ายเอาก่อน ถือได้ว่าจำเลยได้ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจึงยิงผู้ข่มเหงในขณะนั้นถึงตาย เข้าลักษณะการกระทำโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048-1049/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินเหตุและการกระทำโดยบันดาลโทสะในคดีอาญา
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจออกตรวจท้องที่ไปพบพวกผู้ตายหลายคนถือไม้และท่อนเหล็กจับกลุ่มกันในเวลาวิกาล จำเลย จึงเข้าไปสอบถามพร้อมกับแจ้งว่าเป็นตำรวจ และเมื่อจำเลยเอื้อมมือจะเอาไม้หรือเหล็กจากพวกผู้ตาย พวกผู้ตายก็เข้ากลุ้มรุมตีจำเลยจนศีรษะแตก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวนี้มิใช่เป็นการที่จำเลยสมัครใจวิวาทกับผู้ตายและพวกจำเลยจึงมีสิทธิป้องกันตัวได้ แต่เมื่อจำเลยถูกผู้ตายกับพวกรุมทำร้ายจนล้มลงแล้ว จำเลยได้ชักปืนออกมา ผู้ตายกับพวกก็วิ่งหนี จำเลยจึงยิงไปทางพวกผู้ตายที่กำลังวิ่งหนี กระสุนถูกผู้ตายเข้าทางด้านหลัง 2 แผลถึงแก่ความตายทันทีห่างจากจุดที่เกิดตีกัน 19.90 เมตร เช่นนี้แสดงให้เห็นว่าภยันตรายที่จะเกิดแก่จำเลยได้ผ่านพ้นไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นป้องกัน
การที่จำเลยถูกผู้ตายกับพวกเข้ากลุ้มรุมทำร้ายเอาก่อน ถือได้ว่าจำเลยได้ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจึงยิงผู้ข่มเหงในขณะนั้นถึงตาย เข้าลักษณะการกระทำโดยบันดาลโทสะ
การที่จำเลยถูกผู้ตายกับพวกเข้ากลุ้มรุมทำร้ายเอาก่อน ถือได้ว่าจำเลยได้ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจึงยิงผู้ข่มเหงในขณะนั้นถึงตาย เข้าลักษณะการกระทำโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว หากผู้กระทำเริ่มลงมือทำร้ายก่อน
ผู้ตายพูดโต้ตอบกับจำเลยด้วยเรื่องที่ผู้ตายพาผู้ใหญ่บ้านกับพวกมานับต้นสาคู จำเลยโกรธจึงแทงผู้ตายก่อนแล้วผู้ตายหยิบไม้ตีและเข้ากอดปล้ำกันจนเกิดบาดแผลด้วยกันทั้งสองฝ่าย ผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทง ดังนี้ กรณีหาใช่เป็นการที่จำเลยกระทำโดยป้องกันตัวไม่ เพราะเรื่องเกิดขึ้นโดยจำเลยเริ่มลงมือทำร้ายก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ไม่สามารถอ้างป้องกันตัวได้ หากผู้กระทำเริ่มลงมือทำร้ายก่อน
ผู้ตายพูดโต้ตอบกับจำเลยด้วยเรื่องที่ผู้ตายพาผู้ใหญ่บ้านกับพวกมานับต้นสาคู จำเลยโกรธจึงแทงผู้ตายก่อนแล้วผู้ตายหยิบไม้ตีและเข้ากอดปล้ำกันจนเกิดบาดแผลด้วยกันทั้งสองฝ่าย ผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทง ดังนี้ กรณีหาใช่เป็นการที่จำเลยกระทำโดยป้องกันตัวไม่ เพราะเรื่องเกิดขึ้นโดยจำเลยเริ่มลงมือทำร้ายก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและพยายามฆ่า: การกระทำความผิดร่วมกัน การลดโทษจากคำรับสารภาพ
คืนเกิดเหตุ ตำรวจกับพวกตามหาเรือของเจ้าทรัพย์ที่ถูกคนร้ายชิงไปพบจำเลยทั้งสองอยู่ในเรือลำหนึ่ง ตำรวจซึ่งอยู่ในเครื่องแบบแสดงตัวและบอกให้จำเลยเข้ามาหา จำเลยทั้งสองรู้ว่าเป็นตำรวจแต่ขัดขืน และได้ยิงปืนมาที่เรือตำรวจ 1 นัดกระสุนปืนถูกผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่ขาแล้วจำเลยทั้งสองโดดน้ำหนีพร้อมกัน ดังนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดฐานต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานกับผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2514)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและพยายามฆ่า: การกระทำความผิดร่วมกัน การใช้ดุลยพินิจศาล
คืนเกิดเหตุ ตำรวจกับพวกตามหาเรือของเจ้าทรัพย์ที่ถูกคนร้ายชิงไปพบจำเลยทั้งสองอยู่ในเรือลำหนึ่ง ตำรวจซึ่งอยู่ในเครื่องแบบแสดงตัวและบอกให้จำเลยเข้ามาหา จำเลยทั้งสองรู้ว่าเป็นตำรวจแต่ขัดขืน และได้ยิงปืนมาที่เรือตำรวจ 1 นัดกระสุนปืนถูกผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่ขาแล้วจำเลยทั้งสองโดดน้ำหนีพร้อมกัน ดังนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดฐานต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานกับผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2514)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 978/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันสิทธิเกินสมควร: การแทงผู้บุกรุกจนถึงแก่ความตาย และการรอการลงโทษ
เมื่อมีเหตุอันสมควรทำให้จำเลยสำคัญผิดว่า ผู้ตายเป็นคนร้ายเข้ามาทำร้ายจำเลย จำเลยย่อมกระทำการเพื่อป้องกันสิทธิของตนได้
จำเลยสำคัญผิดว่าผู้ตายเป็นคนร้ายที่ขึ้นไปบนเรือนและเข้าไปทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงเป็นการป้องกันไป 1 ทีถูกที่หน้าอกของผู้ตายเป็นบาดแผลลึกถึงหัวใจ ซึ่งพอจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้แล้ว จำเลยยังวิ่งไล่ตามไปแทงผู้ตายที่พื้นดินหน้าบันไดเรือนอีกหลายครั้งจนผู้ตายถึงแก่ความตายอยู่ตรงนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
จำเลยสำคัญผิดว่าผู้ตายเป็นคนร้ายที่ขึ้นไปบนเรือนและเข้าไปทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงเป็นการป้องกันไป 1 ทีถูกที่หน้าอกของผู้ตายเป็นบาดแผลลึกถึงหัวใจ ซึ่งพอจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้แล้ว จำเลยยังวิ่งไล่ตามไปแทงผู้ตายที่พื้นดินหน้าบันไดเรือนอีกหลายครั้งจนผู้ตายถึงแก่ความตายอยู่ตรงนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ