คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าผู้อื่นด้วยบันดาลโทสะ: การถูกดูหมิ่นต่อหน้าสาธารณชนเป็นเหตุให้บันดาลโทสะได้
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ตายเคยหลอกล่วงเกินจำเลยทางประเวณีมาก่อน แล้วผู้ตายยังด่าว่าใส่ความจำเลยหาว่าจำเลยเป็นคนชั่วช้าในทางประเวณีต่อหน้าสามีของจำเลยอีก เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายไปในขณะนั้น 6 นัดถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นด้วยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แม้ไม่ได้ลงมือแทงเอง แต่รู้เห็นและร่วมวางแผนทำร้าย
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยได้ร่วมมากับพวกของจำเลย รวม 3 คน เข้าชก ต่อย เตะ ผู้เสียหายและผู้ตาย แล้วต่างเลิกรากันไปตอนหนึ่งจนผู้เสียหายกับผู้ตายเดินพ้นจากที่เดิมไปแล้ว 100 เมตรจำเลยกับพวกชุดเดิมก็ย้อนกลับมาทำร้ายผู้เสียหายกับผู้ตายซ้ำอีกโดยพวกของจำเลยคนหนึ่งเป็นคนแทงผู้ตาย แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีข้ามถนนไปด้วยกัน พฤติการณ์ของจำเลยกับพวก ดังนี้น่าเชื่อว่าจำเลยรู้อยู่ว่าพวกของจำเลยคนที่แทงผู้ตายมีมีดปลายแหลมเป็นอาวุธติดตัวอยู่ ได้ปรึกษาหารือกันมาก่อนแล้วจึงได้หวนกลับมาทำร้ายเป็นครั้งที่สอง ดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้เป็นคนแทงทำร้ายผู้ตายจำเลยก็ต้องรับผิดฐานเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แม้ไม่ได้ลงมือแทงเอง หากมีเจตนาและรู้เห็นการกระทำ
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยได้ร่วมมากับพวกของจำเลยรวม 3 คน เข้าชก ต่อย เตะ ผู้เสียหายและผู้ตาย แล้วต่างเลิกรากันไปตอนหนึ่งจนผู้เสียหายกับผู้ตายเดินพ้นจากที่เดิมไปแล้ว 100 เมตร จำเลยกับพวกชุดเดิมก็ย้อนกลับมาทำร้ายผู้เสียหายกับผู้ตายซ้ำอีกโดยพวกของจำเลยคนหนึ่งเป็นคนแทงผู้ตาย แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีข้ามถนนไปด้วยกัน พฤติการณ์ของจำเลยกับพวก ดังนี้น่า เชื่อว่าจำเลยรู้อยู่ว่าพวกของจำเลยคนที่แทงผู้ตายมีมีดปลายแหลมเป็นอาวุธติดตัวอยู่ ได้ปรึกษาหารือกันมาก่อนแล้วจึงได้หวนกลับมาทำร้ายเป็นครั้งที่สอง ดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้เป็นคนแทงทำร้ายผู้ตายจำเลยก็ต้องรับผิดฐานเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า: การกระทำรุนแรงด้วยอาวุธมีดโดยเจตนาเล็งผลถึงตาย
ที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่าง จำเลยและผู้เสียหายมิได้วิวาทกันจำเลยใช้มีดดายหญ้ายาวประมาณ 1 ศอกเศษฟันผู้เสียหาย 2 แผล แผลแรกถูกที่ใบหน้าเป็นแผลยาว 11 เซนติเมตร ผู้เสียหายล้มลงจำเลยยังฟันซ้ำเป็นแผลที่สองถูกที่ศีรษะด้านหลังตัดใบหูซ้ายมาถึงเหนือมุมปากซ้ายบาดแผลยาว 17 เซนติเมตร กระดูกคางหักเช่นนี้ เป็นการเลือกหรือกำหนดได้ว่าจะฟันตรงไหน และจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าอาจทำให้ถึงตายได้จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 297, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 288, 80, 72 จำคุกจำเลย 5 ปี จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 จำคุกจำเลย 2 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า เช่นนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288, 80 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำโดยบันดาลโทสะและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พฤติการณ์ใช้มีดทำร้ายร่างกายผู้เสียหายรุนแรง เล็งเห็นผลถึงตาย ศาลตัดสินความผิดฐานพยายามฆ่า
ที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่าง จำเลยและผู้เสียหายมิได้วิวาทกันจำเลยใช้มีดดายหญ้ายาวประมาณ 1 ศอกเศษฟันผู้เสียหาย 2 แผลแผลแรกถูกที่ใบหน้าเป็นแผลยาว 11 เซนติเมตร ผู้เสียหายล้มลงจำเลยยังฟันซ้ำเป็นแผลที่สองถูกที่ศีรษะด้านหลังตัดใบหูซ้ายมาถึงเหนือมุมปากซ้ายบาดแผลยาว 17 เซนติเมตร กระดูกคางหักเช่นนี้ เป็นการเลือกหรือกำหนดได้ว่าจะฟันตรงไหน และจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าอาจทำให้ถึงตายได้จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,297, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 288, 80,72 จำคุกจำเลย 5 ปี จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 จำคุกจำเลย 2 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า เช่นนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288, 80 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำโดยบันดาลโทสะและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การใช้กำลังตอบโต้การถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย
จำเลยเพียงไปต่อว่าผู้ตายด้วยเรื่องที่ผู้ตายกระทำลวนลามภริยาของจำเลย ผู้ตายกลับใช้มือค้ำคอและบีบคอจำเลยล้มลงจำเลยจึงหยิบมีดโต้ฟันส่ง ๆ ไปหลายทีถูกผู้ตายเกิดบาดแผล 9 แผลถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเกินสมควรแก่เหตุ กรณีถูกทำร้ายก่อน และใช้กำลังเกินความจำเป็น
จำเลยเพียงไปต่อว่าผู้ตายด้วยเรื่องที่ผู้ตายกระทำลวนลามภริยาของจำเลย ผู้ตายกลับใช้มือค้ำคอและบีบคอจำเลยล้มลงจำเลยจึงหยิบมีดโต้ฟันส่ง ๆ ไปหลายทีถูกผู้ตายเกิดบาดแผล 9 แผลถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธอันตราย
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันในเวลากลางคืนหน้าปั๊มน้ำมันซึ่งมีแสงไฟส่องสว่าง ผู้ตายไม่มีอาวุธ แล้วจำเลยใช้มีดปลายแหลมยาว 1 คืบแทงผู้ตายถูกที่สำคัญที่ทรวงอกทะลุปอด 2 แผล และที่หน้าท้อง 1 แผล ทะลุเข้าช่องท้องถูกกระเพาะอาหารและถูกตับอ่อนเส้นเลือดขาด ผู้ตายถึงแก่ความตายใน 3 ชั่วโมงต่อมา เช่นนี้ จำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายด้วยอาวุธมีคม โดยมีเจตนาฆ่า ถือเป็นความผิดฐานฆ่าคนตาย
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันในเวลากลางคืนหน้าปั๊มน้ำมันซึ่งมีแสงไฟส่องสว่าง ผู้ตายไม่มีอาวุธ แล้วจำเลยใช้มีดปลายแหลมยาว 1 คืบแทงผู้ตายถูกที่สำคัญที่ทรวงอกทะลุปอด 2 แผล และที่หน้าท้อง 1 แผล ทะลุเข้าช่องท้องถูกกระเพาะอาหารและถูกตับอ่อนเส้นเลือดขาด ผู้ตายถึงแก่ความตายใน 3 ชั่วโมงต่อมา เช่นนี้จำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนโดยชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายถึงตัวและการตอบโต้เพื่อความปลอดภัย
ผู้ตายเดินตามหลังจำเลยไป ห่างกันไม่ถึง 1 วา แล้วใช้เหล็กตะบันหมากยาว 9 นิ้วฟุต ปลายแหลมมีคมแทงทำร้ายจำเลยทางด้านหลัง หากจำเลยหลบไม่ทันอาจถูกแทงถึงแก่ความตายได้ ดังนี้ เป็นภยันตรายที่มีมาถึงตัวจำเลย จำเลยมีสิทธิที่จะป้องกันตนได้ ไม่จำต้องหนีและการที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงตอบผู้ตายไปทันทีในขณะนั้น ถูกผู้ตายที่ชายโครงซ้ายแล้วปามีดทิ้งวิ่งหนีไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย
of 223