พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานคำตายของผู้ตายที่ยืนยันตัวผู้กระทำผิดต่อหน้าพยานก่อนสิ้นใจ รับฟังได้แม้ไม่มีลายมือชื่อ
ข้อความที่ผู้ตายได้กล่าวยืนยันต่อผู้ใหญ่บ้านและเจ้าพนักงานตำรวจในขณะที่ผู้ตายยังมีสติดี ไม่มีอาการเพ้อคลั่ง และรู้ตัวว่าคงจะตายแน่ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะบันทึกถ้อยคำให้ผู้ตายลงชื่อไว้ไม่ทัน ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงเพื่อป้องกันอันตรายถึงชีวิตจากอาวุธ
โจทก์กับจำเลยโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันจนจำเลยถูกโจทก์ตีทำร้ายถูกแสกหน้าแตกโลหิตไหล และเหตุการณ์ยุติลงไปแล้วตอนหนึ่งต่อมาจำเลยเดินกลับบ้านพบโจทก์ถือไม้กระทู้เป็นไม้ไผ่โตเท่าข้อมือยาวประมาณ 2 ศอก มายืนคอยดักทำร้าย ขณะที่จำเลยเข้าไปยังห่างโจทก์ 1 วา โจทก์เงื้อไม้ที่ถืออยู่ขึ้นจะตีศีรษะจำเลย จำเลยจึงใช้ปืนยิงถูกมือโจทก์แล้ววิ่งหนี หากจำเลยไม่ยิง จำเลยอาจถูกโจทก์ตีศีรษะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนี้ เป็นการใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงเพื่อป้องกันอันตรายถึงชีวิตจากอาวุธดักทำร้าย
โจทก์กับจำเลยโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันจนจำเลยถูกโจทก์ตีทำร้ายถูกแสกหน้าแตกโลหิตไหล และเหตุการณ์ยุติลงไปแล้วตอนหนึ่ง ต่อมาจำเลยเดินกลับบ้านพบโจทก์ถือไม้กระทู้เป็นไม้ไผ่โตเท่าข้อมือ ยาวประมาณ 2 ศอก มายืนคอยดักทำร้าย ขณะที่จำเลยเข้าไปยังห่างโจทก์ 1 วา โจทก์เงื้อไม้ที่ถืออยู่ขึ้นจะตีศีรษะจำเลย จำเลยจึงใช้ปืนยิงถูกมือโจทก์แล้ววิ่งหนี หากจำเลยไม่ยิง จำเลยอาจถูกโจทก์ตีศีรษะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนี้ เป็นการใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธมีด การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์
ผู้ตายพบจำเลยเดินสวนทางมา จึงใช้ไฟฉายส่องหน้าจำเลยจำเลยโกรธ ใช้มีดปลายแหลม ใบมีดยาว 1 คืบ แทงผู้ตาย 1 ทีถูกที่เหนือราวนมซ้ายเป็นบาดแผลขนาด 2 คูณ 1 เซนติเมตร ลึกแฉลบขึ้น 9 เซนติเมตร เข้าช่องปอดทางซ้ายเลือดตกใน ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังจากถูกแทงเพียง 1 ชั่วโมงเศษ เช่นนี้แม้จำเลยจะแทงเพียงทีเดียวแล้ววิ่งหนีไป ก็แสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรงถูกที่สำคัญโดยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงที่สำคัญ แม้แทงเพียงครั้งเดียวและวิ่งหนี
ผู้ตายพบจำเลยเดินสวนทางมา จึงใช้ไฟฉายส่องหน้าจำเลยจำเลยโกรธ ใช้มีดปลายแหลม ใบมีดยาว 1 คืบ แทงผู้ตาย 1 ทีถูกที่เหนือราวนมซ้ายเป็นบาดแผลขนาด 2x1 เซนติเมตรลึกแฉลบขึ้น 9 เซนติเมตร เข้าช่องปอดทางซ้าย เลือดตกในผู้ตายถึงแก่ความตายหลังจากถูกแทงเพียง 1 ชั่วโมงเศษ เช่นนี้แม้จำเลยจะแทงเพียงทีเดียวแล้ววิ่งหนีไป ก็แสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรงถูกที่สำคัญโดยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย: การตอบโต้การทำร้ายร่างกายเพื่อความปลอดภัย
จำเลยและผู้ตายต่างไปเที่ยวในงานวัด แล้วเกิดเรื่องท้าทายจนเกือบจะชกต่อยกันแต่มีคนห้ามจึงเลิกรากันไปตอนหนึ่ง ต่อมาผู้ตายกับพวกเดินเที่ยวเตร่พบจำเลยที่หน้าโรงครัวในงานนั้นผู้ตายเข้าชกจำเลยก่อนถูกที่หน้าอก 1 ที จำเลยเดินหนีเข้าโรงครัวหยิบมีดที่ใช้หั่นผักผู้ตายตามเข้าไปจำเลยร้องห้าม อย่าเข้าไป แล้วเดินไปทางตะวันออก ผู้ตายตามไปเงื้อมีดจะแทง จำเลยจึงแทงผู้ตายไป 1 ที โดยถือมีดเหวี่ยงไปข้างหลังถูกผู้ตายเซและล้มลง ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายจากการถูกทำร้าย ผู้กระทำต้องได้รับการป้องกันภัยใกล้จะถึง
จำเลยและผู้ตายต่างไปเที่ยวในงานวัด แล้วเกิดเรื่องท้าทายจนเกือบจะชกต่อยกันแต่มีคนห้ามจึงเลิกรากันไปตอนหนึ่ง ต่อมาผู้ตายกับพวกเดินเที่ยวเตร่พบจำเลยที่หน้าโรงครัวในงานนั้นผู้ตายเข้าชกจำเลยก่อนถูกที่หน้าอก 1 ที จำเลยเดินหนีเข้าโรงครัวหยิบมีดที่ใช้หั่นผักผู้ตายตามเข้าไปจำเลยร้องห้าม อย่าเข้าไป แล้วเดินไปทางตะวันออกผู้ตายตามไปเงื้อมีดจะแทง จำเลยจึงแทงผู้ตายไป 1 ที โดยถือมีดเหวี่ยงไปข้างหลังถูกผู้ตายเซและล้มลง ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ผู้ถูกทำร้ายมีสิทธิป้องกันตนเองเมื่อถูกประทุษร้ายก่อน
ผู้ตายมีปืนและมีดปลายแหลมเป็นอาวุธไปแอบคอยดักทำร้ายจำเลยพอจำเลยมาถึงผู้ตายใช้ปืนยิงจำเลยถูกเฉียดศีรษะมีบาดแผล จำเลยจึงใช้พร้าฟันผู้ตาย ผู้ตายชักมีดแทงจำเลยแล้วเข้ากอดปล้ำแย่งมีดกันแล้วจำเลยได้ใช้มีดพร้าฟันผู้ตายไปหลายที เช่นนี้ เป็นกรณีที่ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนโดยใช้ปืนยิงจำเลย จำเลยจึงใช้พร้าฟัน แม้ผู้ตายจะล้มลงไปก็จริง กรณีที่กำลังพัวพันกันอยู่เช่นนั้น จำเลยอาจเกรงว่าผู้ตายจะใช้ปืนหรือใช้มีดแทงอีกก็เป็นได้ จึงจำเป็นต้องใช้พร้าฟันไปอีกหลายที ดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีผู้ถูกทำร้ายก่อนมีสิทธิใช้กำลังป้องกันตนเองได้
ผู้ตายมีปืนและมีดปลายแหลมเป็นอาวุธไปแอบคอยดักทำร้ายจำเลย พอจำเลยมาถึงผู้ตายใช้ปืนยิงจำเลยถูกเฉียดศีรษะมีบาดแผล จำเลยจึงใช้พร้าฟันผู้ตาย ผู้ตายชักมีดแทงจำเลยแล้วเข้ากอดปล้ำแย่งมีดกัน แล้วจำเลยได้ใช้มีดพร้าฟันผู้ตายไปหลายที เช่นนี้ เป็นกรณีที่ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยใช้ปืนยิงจำเลย จำเลยจึงใช้พร้าฟัน แม้ผู้ตายจะล้มลงไปก็จริง กรณีที่กำลังพัวพันกันอยู่เช่นนั้น จำเลยอาจเกรงว่าผู้ตายจะใช้ปืนหรือใช้มีดแทงอีกก็เป็นได้ จึงจำเป็นต้องใช้พร้าฟันไปอีกหลายที ดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า: การหลบหนีของผู้เสียหายเป็นเหตุบังเอิญ ไม่ใช่เหตุให้ความผิดไม่บรรลุผล
ผู้เสียหายรู้ตัวล่วงหน้าว่าจำเลยจะมายิงจึงย้ายจากห้องที่เคยนอนไปนอนที่ระเบียง จำเลยใช้ปืนแก๊ปยิงไปตรงที่ที่ผู้เสียหายเคยนอน กระสุนปืนจึงไม่ถูกผู้เสียหาย เช่นนี้ถือว่า ผู้เสียหายรู้ตัวและหลบไปโดยบังเอิญ อีกประการหนึ่งเมื่อผู้เสียหายยังคงอยู่ในเรือน กระสุนปืนก็อาจถูกผู้เสียหายได้ การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถบรรลุผลได้โดยแน่แท้ เพราะเหตุแห่งวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 แต่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 29/2513)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 29/2513)