คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความพยายามกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า แม้ผู้เสียหายรู้ตัวหลบหลีก แต่ยังมีโอกาสถูกยิงได้
ผู้เสียหายรู้ตัวล่วงหน้าว่าจำเลยจะมายิงจึงย้ายจากห้องที่เคยนอนไปนอนที่ระเบียงจำเลยใช้ปืนแก๊ปยิงไปตรงที่ที่ผู้เสียหายเคยนอน กระสุนปืนจึงไม่ถูกผู้เสียหาย เช่นนี้ถือว่า ผู้เสียหายรู้ตัวและหลบไปโดยบังเอิญ อีกประการหนึ่งเมื่อผู้เสียหายยังคงอยู่ในเรือน กระสุนปืนก็อาจถูกผู้เสียหายได้ การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถบรรลุผลได้โดยแน่แท้ เพราะเหตุแห่งวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 แต่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 29/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าต้องพิสูจน์จากพฤติการณ์ บาดแผลและอาวุธที่ใช้ หากไม่ถึงอันตรายสาหัส ฟังได้เพียงทำร้ายร่างกาย
จำเลยทั้งสองเข้าไปที่ลานนวดข้าวของผู้เสียหาย พอผู้เสียหายกำลังเอาข้าวเปลือกให้เป็ดกิน จำเลยทั้งสองก็กระโจนเข้าไปใช้เหล็กแหลมแทงผู้เสียหายถูกที่บริเวณศีรษะ ที่สะบัก ที่หลัง และที่แขน มีบาดแผล 14 แผล แผลมีลักษณะเป็นสามแฉกเป็นส่วนมาก แพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 14 วัน จึงเป็นบาดแผลเพียงบาดเจ็บ ไม่ถึงกับเป็นอันตรายสาหัส และไม่ถูกอวัยวะสำคัญอาวุธที่ใช้ทำร้ายเป็นเพียงเหล็กแหลม ไม่ปรากฏชัดว่าเป็นชนิด ขนาด ประเภทใด ดังนี้ ยังฟังไม่ได้จำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าในคดีทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาจากบาดแผลและอาวุธ
จำเลยทั้งสองเข้าไปที่ลานนวดข้าวของผู้เสียหาย พอผู้เสียหายกำลังกันเอาข้าวเปลือกให้เป็ดกิน จำเลยทั้งสองก็กระโจนเข้าไปใช้เหล็กแหลมแทงผู้เสียหายถูกที่บริเวณศีรษะ ที่สะบัก ที่หลังและที่แขนมีบาดแผล 14 แผล แผลมีลักษณะเป็นสามแฉกเป็นส่วนมากแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 14 วัน จึงเป็นบาดแผลเพียงบาดเจ็บไม่ถึงกับเป็นอันตรายสาหัส และไม่ถูกอวัยวะสำคัญอาวุธที่ใช้ทำร้ายเป็นเพียงเหล็กแหลม ไม่ปรากฏชัดว่าเป็นชนิด ขนาด ประเภทใด ดังนี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันวางแผนฆ่า: การกระทำขัดขวางการไล่ติดตามผู้กระทำผิดแสดงเจตนาในการช่วยเหลือและมีส่วนร่วมในการฆ่า
นายเอียดเป็นคนแทงผู้ตาย จำเลยกับนายเวศเป็นคนขัดขวางมิให้คนไล่ติดตามนายเอียดไล่ติดตามายเอียดต่อไป เมื่อได้ความว่า จำเลยเป็นพี่นายเอียด นายเอียดเป็นน้องนายเวศร่วมบิดามารดากัน ก่อนเกิดเหตุ 1 เดือน มีเรื่องชกต่อยขึ้นระหว่างผู้ตายกับนายเวศ การที่จำเลยไปแอบซุ่มอยู่ในป่าโดยมีปืนด้วยกับนายเวศ เมื่อนายเอียดแทงผู้ตายแล้วได้วิ่งไปทางที่จำเลยกับนายเวศแอบซุ่มอยู่แสดงให้เห็นว่า ได้มีการร่วมคบคิดกันฆ่าแต่แรกที่จะไปแทงทำร้ายผู้ตายรายนี้โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ กล่าวคือ เมื่อนายเอียดแทงผู้ตายแล้ว มิได้วิ่งหนีไปทางอื่นกลับวิ่งไปทางที่จำเลยกับพวกคอยดักอยู่ พอถึงจำเลยกับพวกก็ลุกขึ้นยืนขู่ขัดขวางการไล่ติดตามทันที การกระทำของจำเลยเป็นตัวการกระทำผิดด้วยกันกับนายเอียด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันฆ่าโดยมีเจตนาวางแผนแบ่งหน้าที่: การกระทำของพี่น้องที่สกัดขวางการไล่ล่าผู้ถูกทำร้าย
นายเอียดเป็นคนแทงผู้ตาย จำเลยกับนายเวศเป็นคนขัดขวางมิให้คนไล่ติดตามนายเอียดไล่ติดตามนายเอียดต่อไป เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นพี่นายเอียด นายเอียดเป็นน้องนายเวศร่วมบิดามารดากันก่อนเกิดเหตุ 1 เดือนมีเรื่องชกต่อยขึ้นระหว่างผู้ตายกับนายเวศการที่จำเลยไปแอบซุ่มอยู่ในป่าโดยมีปืนด้วยกับนายเวศ เมื่อนายเอียดแทงผู้ตายแล้วได้วิ่งไปทางที่จำเลยกับนายเวศแอบซุ่มอยู่แสดงให้เห็นว่า ได้มีการร่วมคบคิดกันฆ่าแต่แรกที่จะไปแทงทำร้ายผู้ตายรายนี้โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำกล่าวคือ เมื่อนายเอียดแทงผู้ตายแล้วมิได้วิ่งหนีไปทางอื่นกลับวิ่งไปทางที่จำเลยกับพวกคอยดักอยู่ พอถึงจำเลยกับพวกก็ลุกขึ้นยืนขู่ขัดขวางการไล่ติดตามทันที การกระทำของจำเลยเป็นตัวการกระทำผิดด้วยกันกับนายเอียด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแทงผู้อื่นด้วยความบันดาลโทสะ: พิจารณาเจตนาและเหตุผลในการกระทำ
ผู้ตายเข้าไปในร้านของจำเลยแล้วขอเช็คดูเพื่อชำระเงินสดให้เมื่อจำเลยส่งเช็คให้ผู้ตาย ๆ กลับฉีกเช็คนั้นทันที ครั้นจำเลยเข้าแย่งเพื่อจะเอาเช็คนั้นกลับคืน ผู้ตายยังด่าจำเลยอีก จำเลยโมโหจึงได้หยิบมีดที่อยู่ใกล้มือแทงผู้ตายไป ถูกผู้ตายเป็นบาดแผล 3 แผลถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการบันดาลโทสะฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนาด้วยบันดาลโทสะ: การพิจารณาเหตุแห่งการกระทำและความเป็นเหตุผลของบันดาลโทสะ
ผู้ตายเข้าไปในร้านของจำเลยแล้วขอเช็คดูเพื่อชำระเงินสดให้ เมื่อจำเลยส่งเช็คให้ผู้ตาย ๆ กลับฉีกเช็คนั้นทันที ครั้นจำเลยเข้าแย่งเพื่อจะเอาเช็คนั้นกลับคืน ผู้ตายยังด่าจำเลยอีก จำเลยโมโหจึงได้หยิบมีดที่อยู่ใกล้มือแทงผู้ตายไป ถูกผู้ตายเป็นบาดแผล 3 แผลถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการบันดาลโทสะ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
จำเลยถูกสามีบังคับให้ไปเป็นหญิงโสเภณี จำเลยไม่ยอม สามีก็เตะและเอามือค้ำคอจำเลยไว้ จนผู้อื่นต้องมาห้ามจำเลยเข้าห้องร้องไห้และพูดโต้เถียงกับสามีซึ่งนั่งอยู่หน้าห้อง แล้วจำเลยเอามีดมาฟันสามีจนถึงแก่ความตายนั้น ถือว่าจำเลยได้กระทำไปโดยบันดาลโทสะเพราะถูกสามีข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และจำเลยตกอยู่ในภาวะอันสุดแสนที่จะทนทานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตรายและมีขนาดตัวใหญ่กว่า
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายซึ่งมีรูปร่างใหญ่โตกว่าจำเลย ถือก้อนหินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 2 นิ้วฟุตเศษ หนาราว 1 นิ้วฟุต วิ่งไล่ทำร้ายจำเลย ทำให้ริบฝีปากบนของจำเลยแตกทั้งด้านนอกและด้านใน โลหิตไหล ฟันบนหัก 2 ซี่ จนหินกระเด็นหลุดจากมือผู้ตาย แล้วผู้ตายยังได้ชกจำเลยอีกหลายทีติด ๆ กัน จำเลยจึงชักเหล็กขูดชาร์ฟจากเอวแทงผู้ตายไปหลายที ถือได้ว่าจำเลยไม่มีโอกาสที่จะเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ นอกจากกระทำไปเพื่อหยุดยั้งการกระทำของผู้ตายเท่านั้น ฉะนั้นการกระทำของจำเลยตามพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมถือได้ว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธและการใช้กำลังป้องกันตนเอง
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายซึ่งมีรูปร่างใหญ่โตกว่าจำเลยถือก้อนหินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 2 นิ้วฟุตเศษ หนาราว 1 นิ้วฟุตวิ่งไล่ทำร้ายจำเลย ทำให้ริมฝีปากบนของจำเลยแตกทั้งด้านนอกและด้านในโลหิตไหล ฟันบนหัก 2 ซี่ จนหินกระเด็นหลุดจากมือผู้ตาย แล้วผู้ตายยังได้ชกจำเลยอีกหลายทีติด ๆ กัน จำเลยจึงชักเหล็กขูดชาร์ฟจากเอวแทงผู้ตายไปหลายที ถือได้ว่าจำเลยไม่มีโอกาสที่จะเลือกแทงผู้ตายให้ถูกในที่สำคัญได้ นอกจากกระทำไปเพื่อหยุดยั้งการกระทำของผู้ตายเท่านั้นฉะนั้นการกระทำของจำเลยตามพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมถือได้ว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
of 223