พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าในคดีวิวาททำร้ายร่างกาย: การพิจารณาบาดแผลและอาวุธที่ใช้
สมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันคนหนึ่งถูกแทงที่รักแร้ขวาลึก 3 เซ็นติเมตร อีกคนหนึ่งถูกแทงที่ชายโครงลึกแฉลบไปใต้ผิวหนัง 4 เซ็นติเมตร และอีกคนหนึ่งถูกแทงที่อกซ้ายเหนือราวนมลึก 3 เซ็นติเมตร ซึ่งบาดแผลของบุคคลทั้ง 3 นี้แพทย์ลงความเห็นว่ารักษา 10 วันหาย ย่อมไม่ใช่บาดแผลฉกรรจ์ และอาวุธที่ใช้ทำร้ายร่างกายก็จับไม่ได้ จึงไม่ถือว่าผู้ทำร้ายมีเจตนาจะฆ่าฉะนั้น จึงลงโทษผู้ทำร้ายฐานพยายามฆ่ามิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าในคดีวิวาท ทำร้ายร่างกาย บาดแผลไม่ฉกรรจ์
สมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันคนหนึ่งถูกแทงที่รักแร้ขวาลึก 3 เซ็นติเมตร อีกคนหนึ่งถูกแทงที่ชายโครงลึกแฉลบไปใต้ผิวหนัง4 เซ็นติเมตร และอีกคนหนึ่งถูกแทงที่อกซ้ายเหนือราวนมลึก3 เซ็นติเมตร ซึ่งบาดแผลของบุคคลทั้ง 3 นี้แพทย์ลงความเห็นว่ารักษา 10 วันหาย ย่อมไม่ใช่บาดแผลฉกรรจ์ และอาวุธที่ใช้ทำร้ายร่างกายก็จับไม่ได้ จึงไม่ถือว่าผู้ทำร้ายมีเจตนาจะฆ่าฉะนั้น จึงลงโทษผู้ทำร้ายฐานพยายามฆ่ามิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าโดยใช้กระสุนด้าน แม้ไม่ระเบิดแต่เจตนาประสงค์ต่อชีวิตผู้ถูกยิง
จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย ปรากฏว่ากระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงนั้นเป็นกระสุนปืนด้าน ใช้ยิงไม่ได้ แต่จำเลยเข้าใจว่ายังคงใช้ได้จึงใช้ยิงผู้เสียหาย ถึงแม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ากระสุนของกลางนัดนี้เคยใช้ยิงมาก่อนแล้ว 3 ครั้ง กระสุนด้าน จำเลยนำมาใช้ยิงครั้งนี้อีกเป็นครั้งที่ 4กระสุนก็ด้านอีก ย่อมเห็นได้ว่าการที่จำเลยนำกระสุนด้านดังกล่าวมาใช้ยิงผู้เสียหาย และกระสุนยังคงด้านไม่ระเบิดออกนั้น เป็นแต่เพียงการที่เป็นไปไม่ได้โดยเผอิญ หาเป็นการแน่แท้ว่าจะไม่สามารถทำให้ผู้ถูกยิงได้รับอันตรายจากการยิงของจำเลยเช่นนั้นไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เข้าลักษณะพยายามกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 81 กรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2513)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าด้วยปืนกระสุนด้าน: เจตนาและความเป็นไปได้ที่จะเกิดอันตราย
จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย ปรากฏว่ากระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงนั้นเป็นกระสุนปืนด้านใช้ยิงไม่ได้ แต่จำเลยเข้าใจว่ายังคงใช้ได้จึงใช้ยิงผู้เสียหาย ถึงแม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ากระสุนของกลางนัดนี้เคยใช้ยิงมาก่อนแล้ว 3 ครั้ง กระสุนด้าน จำเลยนำมาใช้ยิงครั้งนี้อีกเป็นครั้งที่ 4กระสุนก็ด้านอีก ย่อมเห็นได้ว่าการที่จำเลยนำกระสุนด้านดังกล่าวมาใช้ยิงผู้เสียหายและกระสุนยังคงด้านไม่ระเบิดออกนั้น เป็นแต่เพียงการที่เป็นไปไม่ได้โดยเผอิญ หาเป็นการแน่แท้ว่าจะไม่สามารถทำให้ผู้ถูกยิงได้รับอันตรายจากการยิงของจำเลยเช่นนั้นไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เข้าลักษณะพยายามกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 กรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2513)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: แม้ปืนไม่ลั่น ก็มีความผิดฐานพยายามฆ่า หากรู้ว่ากระสุนอาจลั่นได้
ในกรณีที่จำเลยใช้ปืนซึ่งเคยรู้มาก่อนแล้วว่ากระสุนอาจจะลั่นได้ยิงผู้เสียหาย แต่กระสุนปืนไม่ลั่น ย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 มิใช่ 288, 81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: การกระทำที่อาจเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้กระสุนไม่ลั่น
ในกรณีที่จำเลยใช้ปืนซึ่งเคยรู้มาก่อนแล้วว่ากระสุนอาจจะลั่นได้ยิงผู้เสียหาย แต่กระสุนปืนไม่ลั่น ย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 มิใช่ 288, 81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงพลาด การรับผิดชอบต่อความตายจากกระสุนปืนที่ลั่นผิดเป้า
การที่จำเลยใช้ปืนสั้นซึ่งง้างนกไว้แล้วจ้องจะยิงด้วยเจตนาฆ่าคน ๆ หนึ่งแต่มีคนอีกคนหนึ่งมาปัดปืนเฉไปเสียทันใด กระสุนปืนที่ลั่นออกจึงพลาดไปถูกอีกคนหนึ่งถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือว่ากระสุนปืนที่ลั่นพลาดไปถูกคนอีกคนหนึ่งถึงแก่ความตายนั้น เกิดจากการยิงของจำเลย ไม่ใช่อุบัติเหตุ เป็นการกระทำโดยพลาดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงพลาด การรับผิดชอบต่อการกระทำโดยประมาท และความรับผิดทางอาญา
การที่จำเลยใช้ปืนสั้นซึ่งง้างนกไว้แล้วจ้องจะยิงด้วยเจตนาฆ่าคน ๆ หนึ่งแต่มีคนอีกคนหนึ่งมาปัดปืนเฉไปเสียทันใด กระสุนปืนที่ลั่นออกจึงพลาดไปถูกอีกคนหนึ่งถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือว่ากระสุนปืนที่ลั่นพลาดไปถูกคนอีกคนหนึ่งถึงแก่ความตายนั้นเกิดจากการยิงของจำเลยไม่ใช่อุบัติเหตุ เป็นการกระทำโดยพลาดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมกันข่มขืนและฆ่าเพื่อความสะดวกในการข่มขืน ถือเป็นตัวการร่วม
จำเลยทั้งสามมีเจตจำนงร่วมกันที่จะเข้าแย่งผู้เสียหายจากผู้ตายเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ดังนั้น การที่จำเลยคนหนึ่งเข้ากำจัดขัดขวางผู้ตายด้วยวิธีการใดก็ตาม ก็ย่อมอยู่ในวิถีเพื่อประโยชน์ร่วมกันของจำเลยทุกคน ซึ่งจำเลยทุกคนอาจเล็งเห็นผลแห่งการกระทำนั้นได้ ถือได้ว่าจำเลยทั้งสามเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดด้วยกัน
การที่จำเลยใช้ไม้ไผ่ตันมีรูเล็ก ๆ ขนาดนิ้วก้อย ยาวประมาณ 2 ศอก โตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร ตีผู้ตายอย่างแรง 1 ทีถูกศีรษะเป็นบาดแผลถึงขนาดทำให้กะโหลกศีรษะแตกแยกเป็น 4 เสี่ยง มีเลือดออกในและรอบ ๆ กะโหลกศีรษะมาก แสดงให้เห็นว่าจำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้เป็นเจตนาฆ่าให้ตาย
แย่งหญิงไปจากผู้ตายเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา ผู้ตายขัดขวางจึงทำร้ายผู้ตายถึงตาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(6)
การที่จำเลยใช้ไม้ไผ่ตันมีรูเล็ก ๆ ขนาดนิ้วก้อย ยาวประมาณ 2 ศอก โตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร ตีผู้ตายอย่างแรง 1 ทีถูกศีรษะเป็นบาดแผลถึงขนาดทำให้กะโหลกศีรษะแตกแยกเป็น 4 เสี่ยง มีเลือดออกในและรอบ ๆ กะโหลกศีรษะมาก แสดงให้เห็นว่าจำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้เป็นเจตนาฆ่าให้ตาย
แย่งหญิงไปจากผู้ตายเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา ผู้ตายขัดขวางจึงทำร้ายผู้ตายถึงตาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(6)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสมคบร่วมกันฆ่าโดยเจตนาประกอบกับข่มขืนโทรมหญิง: ตัวการร่วม
จำเลยทั้งสามมีเจตจำนงร่วมกันที่จะเข้าแย่งผู้เสียหายจากผู้ตายเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ดังนั้น การที่จำเลยคนหนึ่งเข้ากำจัดขัดขวางผู้ตายด้วยวิธีการใดก็ตาม ก็ย่อมอยู่ในวิถีเพื่อประโยชน์ร่วมกันของจำเลยทุกคน ซึ่งจำเลยทุกคนอาจเล็งเห็นผลแห่งการกระทำนั้นได้ถือได้ว่าจำเลยทั้งสามเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดด้วยกัน
การที่จำเลยใช้ไม้ไผ่ตันมีรูเล็ก ๆ ขนาดนิ้วก้อย ยาวประมาณ2 ศอก โตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร ตีผู้ตายอย่างแรง 1 ทีถูกศีรษะเป็นบาดแผลถึงขนาดทำให้กะโหลกศีรษะแตกแยกเป็น 4 เสี่ยงมีเลือดออกในและรอบ ๆ กะโหลกศีรษะมาก แสดงให้เห็นว่า จำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้เป็นเจตนาฆ่าให้ตาย
แย่งหญิงไปจากผู้ตายเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา ผู้ตายขัดขวางจึงทำร้ายผู้ตายถึงตาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (6)
การที่จำเลยใช้ไม้ไผ่ตันมีรูเล็ก ๆ ขนาดนิ้วก้อย ยาวประมาณ2 ศอก โตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร ตีผู้ตายอย่างแรง 1 ทีถูกศีรษะเป็นบาดแผลถึงขนาดทำให้กะโหลกศีรษะแตกแยกเป็น 4 เสี่ยงมีเลือดออกในและรอบ ๆ กะโหลกศีรษะมาก แสดงให้เห็นว่า จำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้เป็นเจตนาฆ่าให้ตาย
แย่งหญิงไปจากผู้ตายเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา ผู้ตายขัดขวางจึงทำร้ายผู้ตายถึงตาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (6)