พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า: ปืนมีกำลังน้อย ไม่ถึงแก่ชีวิต ลดโทษเป็นประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81
จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายในระยะใกล้เพียงวาเดียว บาดแผลเป็นวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร บริเวณรอบ ๆ แผลเป็นรอยบวม บาดแผลไม่ลึก เนื่องจากติดกับกระดูกหน้าแข้ง และที่หน้าแข้งที่ตรงกับแผลได้บุ๋มเข้าไปเพียงเล็กน้อย บาดแผลนี้รักษาอยู่ 4 วันก็กลับบ้านได้ แสดงว่าบาดแผลมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเห็นว่าปืนที่จำเลยใช้ยิงมีกำลังน้อยมาก ดังนี้ ความผิดของจำเลยจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 โดยถือว่าจำเลยมุ่งต่อผล ซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด แต่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำผิด จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าด้วยปืนที่มีกำลังน้อย ศาลลดโทษเหลือความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย
จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายในระยะใกล้เพียงวาเดียวบาดแผลเป็นวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซ็นติเมตรบริเวณรอบๆ แผลเป็นรอยบวม บาดแผลไม่ลึกเนื่องจากติดกับกระดูกหน้าแข้งและที่หน้าแข้งที่ตรงกับแผลได้บุ๋มเข้าไปเพียงเล็กน้อยบาดแผลนี้รักษาอยู่ 4 วันก็กลับบ้านได้แสดงว่าบาดแผลมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นซึ่งเห็นว่าปืนที่จำเลยใช้ยิงมีกำลังน้อยมาก ดังนี้ ความผิดของจำเลยจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 โดยถือว่าจำเลยมุ่งต่อผล ซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด แต่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำผิดจำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยไม่มีเจตนาไตร่ตรองและไม่เข้าข่ายทารุณโหดร้าย ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษา
เพียงแต่จำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้ตาย โดยไม่ปรากฏว่าร่วมคบคิดตระเตรียมการฆ่ามาก่อนแต่อย่างใด จะถือเอาเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ได้
การที่จำเลยกับพวกไล่ยิงผู้ตายหลายนัดจนผู้ตายล้มลง ยังจ่อยิงศีรษะผู้ตายใช้ขวานฟันอีกหลายที และร้องว่า เอาให้ตาย นั้น ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการทารุณโหดร้าย ยิ่งไปกว่าการกระทำโดยเจตนาให้ตายในทันที
การที่จำเลยกับพวกไล่ยิงผู้ตายหลายนัดจนผู้ตายล้มลง ยังจ่อยิงศีรษะผู้ตายใช้ขวานฟันอีกหลายที และร้องว่า เอาให้ตาย นั้น ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการทารุณโหดร้าย ยิ่งไปกว่าการกระทำโดยเจตนาให้ตายในทันที
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยไม่มีเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน และการพิจารณาความทารุณโหดร้ายในการลงโทษ
เพียงแต่จำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้ตาย โดยไม่ปรากฏว่า ร่วมคบคิดตระเตรียมการฆ่ามาก่อนแต่อย่างใดจะถือเอาเป็นการฆ่า โดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ได้
การที่จำเลยกับพวกไล่ยิงผู้ตายหลายนัดจนผู้ตายล้มลง ยังจ่อยิงศีรษะผู้ตายใช้ขวานฟันอีกหลายที และร้องว่าเอาให้ตาย นั้น ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการทารุณโหดร้ายยิ่งไปกว่าการกระทำโดยเจตนาให้ตายในทันที
การที่จำเลยกับพวกไล่ยิงผู้ตายหลายนัดจนผู้ตายล้มลง ยังจ่อยิงศีรษะผู้ตายใช้ขวานฟันอีกหลายที และร้องว่าเอาให้ตาย นั้น ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการทารุณโหดร้ายยิ่งไปกว่าการกระทำโดยเจตนาให้ตายในทันที
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงผู้อื่นตายโดยเจตนา แม้จะอ้างป้องกันสิทธิ ก็ต้องพิจารณาเหตุผลและพฤติการณ์ที่สมเหตุสมผล
จำเลยรู้ตัวว่าผู้ตายจะเข้ามาหาจำเลย จำเลยห้ามและเตรียมปืนไว้เพื่อยิงผู้ตาย ผู้ตายมาเคาะประตูห้องนอนเรียกให้เปิดประตู จำเลยถือปืนเตรียมพร้อมแล้วเปิดประตู ผู้ตายจะก้าวเข้ามา จำเลยพูดว่าไม่ต้องเข้ามาและยิงปืนไปทันที ดังนี้ เห็นว่าผู้ตายไปหาจำเลยตามที่เคยกระทำมา แม้จำเลยจะห้ามก็ไม่ทำให้ผู้ตายเข้าใจว่าเป็นจริงจัง เมื่อผู้ตายไปหาจำเลยก็เคาะประตูเรียกหาใช่ใช้กำลังดึงดันจะเข้าไปให้ได้ไม่ จะว่าเป็นการประทุษร้ายอันผิดกฎหมายหาได้ไม่ หากจำเลยไม่คิดฆ่านายเหรียญผู้ตายเพียงแต่ไม่เปิดประตู และแสดงความไม่ยินยอมให้เห็นอย่างจริงจัง ผู้ตายก็คงยังเข้าไปทำอันตรายแก่จำเลยไม่ได้ แต่จำเลยกลับเปิดประตูห้อง ซึ่งเป็นธรรมดาที่ผู้ตายจะต้องเข้าไป พอผู้ตายเข้าไปจำเลยก็ยิงทันที การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงผู้อื่น การกระทำไม่เข้าข้อยกเว้นป้องกันสิทธิ แม้ผู้ตายมาเคาะประตู
จำเลยรู้ตัวว่าผู้ตายจะเข้ามาหาจำเลยจำเลยห้ามและเตรียมปืนไว้เพื่อยิงผู้ตายผู้ตายมาเคาะประตูห้องนอนเรียกให้เปิดประตูจำเลยถือปืนเตรียมพร้อมแล้วเปิดประตู ผู้ตายจะก้าวเข้ามา จำเลยพูดว่าไม่ต้องเข้ามาและยิงปืนไปทันทีดังนี้ เห็นว่าผู้ตายไปหาจำเลยตามที่เคยกระทำมาแม้จำเลยจะห้ามก็ไม่ทำให้ผู้ตายเข้าใจว่าเป็นจริงจังเมื่อผู้ตายไปหาจำเลย็เคาะประตูเรียก หาใช่ใช้กำลังดึงดันจะเข้าไปให้ได้ไม่จะว่าเป็นการประทุษร้ายอันผิดกฎหมายหาได้ไม่ หากจำเลยไม่คิดฆ่านายเหรียญผู้ตายเพียงแต่ไม่เปิดประตูและแสดงความไม่ยินยอมให้เห็นอย่างจริงจังผู้ตายก็คงยังเข้าไปทำอันตรายแก่จำเลยไม่ได้แต่จำเลยกลับเปิดประตูห้อง ซึ่งเป็นธรรมดาที่ผู้ตายจะต้องเข้าไป พอผู้ตายเข้าไปจำเลยก็ยิงทันที การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขึงลวดไฟฟ้าอันตรายและการป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำดังกล่าวไม่ถือเป็นการป้องกันสิทธิ
ผู้ตายเรียนหนังสืออยู่ที่วัดละหารซึ่งจำเลยเป็นครูอยู่ทั้งเป็นเด็กหญิงและเป็นหลานของจำเลย มีบ้านอยู่ติดกับบ้านของจำเลย เมื่อจำเลยขึงลวดเส้นเดียวและเล็กไว้ในบริเวณบ้านและปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แล่นไปตามลวดนั้นเมื่อเวลาจวนสว่างผู้ตายเข้าไปในเขตรั้วบ้านจำเลยและมาถูกสายไฟฟ้าของจำเลยเข้าถึงแก่ความตาย ดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการป้องกันสิทธิของตนโดยชอบด้วยกฎหมายจำเลยจึงมีความผิดฐานทำให้คนตายโดยไม่มีเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขึงลวดไฟฟ้าในบ้านและการป้องกันสิทธิ: ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ตายเรียนหนังสืออยู่ที่วัดละหารซึ่งจำเลยเป็นครูอยู่ ทั้งเป็นเด็กหญิงและเป็นหลานของจำเลย มีบ้านอยู่ติดกับบ้านของจำเลย เมื่อจำเลยขึงลวดเส้ยเดียวและเล็กไว้ในบริเวณบ้านและปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แล่นไปตามลวดนั้น เมื่อเวลาจวนสว่างผู้ตายเข้าไปในเขตรั้วบ้านจำเลย และมาถูกสายไฟฟ้าของจำเลยเข้าถึงแก่ความตาย ดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการป้องกันสิทธิของตนโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงมีความผิดฐานทำให้คนตายโดยไม่มีเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1766/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การกระทำที่ลงมือแล้วแต่ไม่สำเร็จ
จำเลยชักปืนซึ่งมีกระสุนบรรจุอยู่ออกมาแล้วกระชากลูกเลื่อนขึ้นลำจ้องเล็งไปยังผู้เสียหาย นิ้วมือแตะอยู่ที่ไกปืน พร้อมที่จะยิงโจทก์ร่วม จำเลยยังไม่ยิงทันทีเพราะเกรงกระสุนจะถูกมารดาโจทก์ร่วม ประกอบกับพวกของจำเลยเข้าแย่งปืนจากจำเลยไป จำเลยจึงยิงโจทก์ร่วมไม่สำเร็จ การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงเจตนาจะฆ่าโจทก์ร่วม โดยได้ลงมือกระทำความผิดนั้นแล้วแต่กระทำไปไม่ตลอด จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น(ตามนัยฎีกาที่ 147/2504 ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1766/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ชักปืนเล็งยิง แม้มิได้ยิงสำเร็จ ถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยชักปืนซึ่งมีกระสุนบรรจุอยู่ออกมาแล้วกระชากลูกเลื่อนขึ้นลำ จ้องเล็งไปยังผู้เสียหาย นิ้วมือแตะอยู่ที่ไกปืน พร้อมที่จะยิงโจทก์ร่วม จำเลยยังไม่ยิงทันทีเพราะเกรงกระสุนจะถูกมารดาโจทก์ร่วม ประกอบกับพวกของจำเลยเข้าแย่งปืนจากจำเลยไป จำเลยจึงยิงโจทก์ร่วมไม่สำเร็จ การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงเจตนาจะฆ่าโจทก์ร่วมโดยได้ลงมือกระทำความผิดนั้นแล้วแต่กระทำไปไม่ตลอด จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
(ตามนัยฎีกาที่ 147/2504 ประชุมใหญ่)
(ตามนัยฎีกาที่ 147/2504 ประชุมใหญ่)