พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ขนาดรูปร่างและเหตุการณ์ที่ทำให้เกรงกลัวต่อการถูกทำร้าย
จำเลยเป็นคนขาเป๋เดินไม่ถนัดร่างกายเตี้ยสูงเพียง 147 เซนติเมตร ผู้ตายเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ การที่ผู้ตายรูปร่างสูงใหญ่กว่าตรงเข้ามาจะฟังแล้วหกล้ม จำเลยจึงฟันผู้ตายหลานที เพราะกลัวผู้ตายจะฟันเอา ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานประมาทต้องระบุรายละเอียดการกระทำ หากโจทก์ฟ้องเฉพาะเจตนา ศาลลงโทษประมาทไม่ได้
ความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนากับความผิดฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสนั้น ลักษณะการกระทำแตกต่างกัน อันถือว่าเป็นสาระสำคัญ กล่าวคือ ในความผิดที่กระทำโดยประมาทโจทก์จะต้องบรรยายฟ้องให้จำเลยทราบว่า การกระทำของจำเลยเป็นประการใดจึงเรียกว่าจำเลยกระทำโดยประมาท จำเลยจะได้ต่อสู้คดีในฐานประมาทได้ด้วย มิฉะนั้น เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าโดยเจตนา จะลงโทษฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสไม่ได้หากโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสด้วย โจทก์ก็ชอบที่จะบรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยเป็นท้องเรื่องมาในฟ้องอันเห็นได้ว่า หากจำเลยไม่เจตนาจำเลยก็ได้กระทำการโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้น จักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์เช่นนี้ ศาลก็ยังอาจจะลงโทษจำเลยฐานทำอันตรายแก่กายถึงสาหัสโดยประมาทได้เพราะเป็นเรื่องอยู่ในฟ้องแล้ว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดประมาทต้องระบุรายละเอียด หากฟ้องแต่เจตนา ศาลลงโทษฐานประมาทไม่ได้
ความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนากับความผิดฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึง สาหัสนั้น ลักษณะการกระทำแตกต่างกัน อันถือว่าเป็นสาระสำคัญกล่าวคือ ในความผิดที่กระทำโดยประมาท โจทก์จะต้องบรรยาย ฟ้องให้จำเลยทราบว่า การกระทำของจำเลยเป็นประการใดจึงเรียกจำเลยการกระทำโดยประมาท จำเลยจะได้ต่อสู้คดีในฐานประมาทได้ด้วย มิฉะนั้น เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าโดยเจตนา จะจึงลงโทษฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสไม่ได้ หากโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสด้วย โจทก์ก็ชอบที่จะบรรยายฟ้องถึง การกระทำของจำเลยเป็นท้องเรื่องมาในฟ้องอันเห็นได้ว่า หากจำเลยไม่เจตนา จำเลยก็ได้กระทำการโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้น จักต้องมีความวิสัยและพฤติการณ์ เช่นนี้ ศาลก็ยังอาจจะลงโทษจำเลยฐานทำอันตรายแก่กายถึงสาหัส โดยประมาทได้เพราะเป็นเรื่องอยู่ในฟ้องแล้ว
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2502)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: การแทงเพื่อป้องกันตัวในเหตุวิวาท
ผู้ตายให้เด็กไปเรียกจำเลยมาและผู้ตายพูดทวงเงิน จำเลยเถียงว่าใช้ให้แล้ว จึงเกิดโต้เถียงกันขึ้น ผู้ตายกระชากคอเสื้อจำเลย ๆ สบัดหลุดวิ่งหนีขึ้นสพานไปแล้ว ผู้ตายยังถือไม้โยกสูบน้ำไล่ตามจำเลยขึ้นไปบนสพานอีก จำเลยจึงฮึดสู้ โดยชักมีดออกมา ผู้ตายถอยหลังตกน้ำจำเลยกระโดดตามทันทีและแทงผู้ตายไปหนึ่งที แล้วก็เลิกลากัน พอถือได้ว่าจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และจำเลยได้แทงผู้ตายโดยเหตุบันดาลโทสะในขณะนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำด้วยบันดาลโทสะหลังถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง: การพิจารณาความผิดฐานฆ่าโดยไม่เจตนา
ผู้ตายให้เด็กไปเรียกจำเลยมาและผู้ตายพูดทวงเงินจำเลยเถียงว่าใช้ให้แล้ว จึงเกิดโต้เถียงกันขึ้นผู้ตายกระชากคอเสื้อจำเลยจำเลยสบัดหลุดวิ่งหนีขึ้นสะพานไปแล้ว ผู้ตายยังถือไม้โยกสูบน้ำไล่ตามจำเลยขึ้นไปบนสะพานอีกจำเลยจึงฮึดสู้ โดยชักมีดออกมา ผู้ตายถอยหลังตกน้ำจำเลยกระโดดตามทันทีและแทงผู้ตายไปหนึ่งที แล้วก็เลิกลากัน ผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาดังนี้ พอถือได้ว่าจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมและจำเลยได้แทงผู้ตายโดยเหตุบันดาลโทสะในขณะนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายผู้ช่วยเหลือและผู้ใหญ่บ้านในที่รโหฐานตอนกลางคืน ความผิดฐานพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกาย
จำเลยได้ทำร้ายผู้ช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านโดยเจตนาฆ่าและทำร้ายผู้ใหญ่บ้านที่เข้าจับจำเลยในที่รโหฐาน ในเวลากลางคืนโดยไม่มีอำนาจทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทำความผิดซึ่งหน้าแต่ประการใดดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าตาม มาตรา 288,80 และฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 295 ไม่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้กระทำการช่วยเหลือเจ้าพนักงานตาม มาตรา 289,80 และฐานทำร้ายเจ้าพนักงานตาม มาตรา 296
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายผู้ช่วยเหลือและเจ้าพนักงานขณะจับกุม: การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกาย
จำเลยได้ทำร้ายผู้ช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านโดยเจตนาฆ่า และทำร้ายผู้ใหญ่บ้านที่เข้าจับจำเลยในที่ระโหฐาน ในเวลากลางคืนโดยไม่มีอำนาจ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทำความผิดซึ่งหนาแต่ประการใด ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าตาม มาตรา 288, 80 และฐานทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 295 ไม่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่า ผู้กระทำการช่วยเหลือ เจ้าพนักงานตามมาตรา 289, 80 และฐานทำร้ายเจ้าพนักงานตามมาตรา 296
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ไม่เข้าข่ายสมัครใจวิวาท
จำเลยทั้งสองย้อนกลับมาที่ร้านขายเหล้าและอาหาร ต่อว่าเจ้าของร้านว่าทอนสตางค์ไม่ครบ จึงเกิดเถียงกันจำเลยที่ 1 ฉุดเจ้าของร้านออกไปนอกร้าน โดยมีจำเลยที่ 2 ดันหลัง แล้วจำเลยที่ 1 ต่อยเจ้าของร้านด้วยสนับมือที่พกมา จำเลยที่ 2 ก็แทงเจ้าของร้านในเวลาติดต่อกันไปแล้วจำเลยก็พากันหนีไปต่อมาไม่ช้าเจ้าของร้านก็ตาย ถือว่า จำเลยทั้งสองร่วมมือกันฆ่าเจ้าของร้านตายไม่ใช่เป็นเรื่องสมัครใจวิวาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือฆ่าผู้อื่น - ไม่เข้าข้อยกเว้นสมัครใจวิวาท
จำเลยทั้งสองย้อนกลับมาที่ร้านขายเหล้าและอาหาร ต่อว่าเจ้าของร้านว่าทอนสตางค์ไม่ครบ จึงเกิดเถียงกัน จำเลยที่ 1 ฉุดเจ้าของร้านออกไปนอกร้าน โดยมีจำเลยที่ 2 ดันหลัง แล้วจำเลยที่ 1 ต่อเจ้าของร้ายด้วยสนับมือที่พกมา จำเลยที่ 2 ก็แทงเจ้าของร้านในเวลาติดต่อกันไป แล้วจำเลยก็พากันหนีไป ต่อมาไม่ช้าเจ้าของร้านก็ตายถือว่า จำเลยทั้งสองร่วมมือกันฆ่าเจ้าของร้านตายไม่ใช่เป็นเรื่องสมัครไปวิวาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้เพื่อป้องกันอันตรายต่อตนเองและน้องสาว มิใช่การทำร้ายร่างกายโดยสมัครใจ
ผู้ตายฉุดน้องสาวจำเลยไปจำเลยติดตามไปทัน ผู้ตายเข้าทำร้ายจำเลย จำเลยจึงต้องต่อสู้และได้รับบาดเจ็บถึง 7 แห่ง เหตุที่เกิดขึ้นจึงมิใช่จำเลยหาเหตุสมัครใจเข้าทำร้ายผู้ตาย ในเมื่อมีเหตุที่จำเลยต้องติดตามมาเอาน้องสาวคืน จึงเป็นการจำต้องทำเพื่อป้องกันอันตรายต่อร่างกายและชีวิตพอสมควรแก่เหตุ