พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษรวมกะทงความผิดต่อเนื่อง: ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์นำโทษความผิดที่ถึงที่สุดแล้วมารวมกับโทษฐานลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำอนาจารและลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยกโจทก์แต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ดังนี้ข้อหาฐานอนาจารจึงถึงที่สุดแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์อีกกะทงหนึ่งก็ตาม ศาลอุทธรณ์จะพิพากษารวมกะทงลงโทษจำเลยโดยเอาโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วมารวมเข้าด้วย(โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตาม ก.ม.อาญา ม.288 กะทงหนึ่ง และ ม. 246 อีกกะทงหนึ่ง แต่รวมกะทงลงโทษจำเลยให้จำคุกจำเลย 1 ปี ฯลฯ) ดังนี้หาเป็นการชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 704/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์และการรับของโจร: การส่งต่อทรัพย์ที่ได้มาจากการลักทรัพย์
สร้อยคอทองคำของเจ้าทรัพย์ขาดหรือหลุดตกลงไปในกะเฌอมะปรางของจำเลยที่ 1 ๆ เก็บเอา เจ้าทรัพย์ขอคืนก็ไม่ยอมให้ เป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้ว จำเลยที่ 1 เดินเอาสร้อยไปส่งให้จำเลยที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างสัก 4 วา จำเลยที่ 2 พาหนีไปดังนี้จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานลักทรัพย์ส่วนจำเลยที่ 2 ผิดฐานรับของโจร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: ไม่จำต้องพ้นโทษครั้งก่อน
จำเลยเคยรับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วสองครั้ง แต่ครั้งหลังยังไม่พ้นโทษ แล้วกระทำผิดต้องคำพิพากษาให้จำคุกอีก ถือได้แล้วว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม พ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ มาตรา 8 หาจำเป็นให้ปรากฏว่า จำเลยเคยพ้นโทษมาแล้ว 2 ครั้งไม่
(อ้างฎีกาที่ 724/2482)
(อ้างฎีกาที่ 724/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขุดถอนพืชผลยังไม่ถือเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปจนกว่าจะมีการนำไป การกระทำจึงเป็นเพียงพยายามชิงทรัพย์
ตามสภาพของพืชผลต้องติดอยู่กับต้นหรือปลูกปักอยู่ในดิน การทำให้ผลไม้หลุดออกจากต้น เช่นสอยมะม่วง หรือตัดขนุนให้หล่นลงมา หรือ ขุดถอนมันหรือต้นหอมให้หลุดพ้นขึ้นจากดินโดยยังไม่ทันเอาไปด้วยนั้น ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปดังที่ท่านบัญญัติไว้ใน ก.ม.อาญา ม.288
คนร้ายถอนต้นหอมของผู้อื่นขึ้นมา ทิ้งเกลื่อนอยู่บนร่องสวน ยังไม่ทันจะเอาไป พอดีเจ้าทรัพย์มาพบเสีย+ดังนี้ เป็นผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น
คนร้ายถอนต้นหอมของผู้อื่นขึ้นมา ทิ้งเกลื่อนอยู่บนร่องสวน ยังไม่ทันจะเอาไป พอดีเจ้าทรัพย์มาพบเสีย+ดังนี้ เป็นผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์องค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์: ข้อโต้แย้งเรื่องการอนุญาตและความถูกต้องของข้อเท็จจริง
การกระทำของจำเลยจำครบองค์เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีลักทรัพย์: ผู้เสียหายที่แท้จริงและคำบรรยายฟ้องที่เพียงพอ
ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ของผู้มีชื่อ ทางพิจารณาได้ความว่าผู้นั้นเป็นเพียงผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นดังนี้ ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้เสียหายไม่ใช่ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
ฟ้องกล่าวถึงทรัพย์ที่ถูกคนร้ายลักไปแล้วกล่าวว่าจำเลยลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย แม้ไม่ระบุว่าจับได้จากจำเลยหรือจำเลยได้กระทำอย่างอื่นใดแก่ทรัพย์นั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องกล่าวถึงทรัพย์ที่ถูกคนร้ายลักไปแล้วกล่าวว่าจำเลยลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย แม้ไม่ระบุว่าจับได้จากจำเลยหรือจำเลยได้กระทำอย่างอื่นใดแก่ทรัพย์นั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 388/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ชัดเจน: รายละเอียดทรัพย์และผู้เสียหายไม่เพียงพอ ทำให้จำเลยไม่สามารถเข้าใจข้อหาได้
การบรรยายฟ้องที่ถือว่าโจทก์ไม่ระบุรายละเอียดพอที่จะให้จำเลยเข้าข้อหาได้ดีเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีตราท่อนไม้เพื่อแสดงกรรมสิทธิและการเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์
เท่าที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าจำเลยเอาตราแสดงกรรมสิทธิของตนตีลงบนท่อนไม้ของผู้อื่นเพื่อเอากรรมสิทธินั้น เมื่อประกอบกับข้อเท็จจริง ซึ่งจะได้ความในชั้นพิจารณาแล้ว อาจเป็นเหตุให้เห็นได้ว่า การกระทำดังนี้ เป็นการลักทรัพย์ได้สมควรรับฟ้องไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกทำลายทรัพย์สินในที่ดินพิพาท แม้มีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ ไม่ถือเป็นความสุจริต
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้องฉะเพาะฐานทำให้เสียทรัพย์และบุกรุก ดังนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้ เพราะเป็นการลงโทษในข้อที่ศาลไม่รับไว้พิจารณา
ในเรื่องบุกรุกนั้นการที่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์กันอยู่นั้น มิใช่เป็นเหตุแสดงว่ากระทำโดยสุจริต
เข้าไปรื้อเรือนซึ่งมีการโต้เถียงกรรมสิทธิกันอยู่และเขาเป็นฝ่ายครอบครองเรือนอยู่นั้นถือว่าเป็นการกระทำโดยบังอาจ ย่อมมีผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 328
ในเรื่องต้องหาว่าบุกรุกที่ดินนั้น การที่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์อยู่นั้นมิใช่เป็นเหตุแสดงความสุจริตของจำเลย
ในเรื่องบุกรุกนั้นการที่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์กันอยู่นั้น มิใช่เป็นเหตุแสดงว่ากระทำโดยสุจริต
เข้าไปรื้อเรือนซึ่งมีการโต้เถียงกรรมสิทธิกันอยู่และเขาเป็นฝ่ายครอบครองเรือนอยู่นั้นถือว่าเป็นการกระทำโดยบังอาจ ย่อมมีผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 328
ในเรื่องต้องหาว่าบุกรุกที่ดินนั้น การที่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์อยู่นั้นมิใช่เป็นเหตุแสดงความสุจริตของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องลักทรัพย์ต้องตรงกับผู้เสียหาย หากลักทรัพย์ผู้อื่น แม้ร่วมเรือนกัน ก็ถือเป็นข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ของบุคคลหนึ่ง พิจารณาได้ความว่าจำเลยลักของอีกคนหนึ่ง แม้จะเป็นผู้อยู่ร่วมเรือนกันก็ต้องถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ต้องยกฟ้อง