พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1803/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ได้จากการถูกข่มขู่ ไม่เป็นประโยชน์ในการลดโทษ
แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมว่าได้ฆ่าผู้ตาย แต่ในชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธ และนำสืบว่าคำให้การรับสารภาพดังกล่าวเนื่องจากถูกเจ้าพนักงานตำรวจข่มขู่ ซึ่งหมายความว่าจำเลยมิได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจหรือตามความเป็นจริง กรณีจึงถือว่าไม่มีคำรับของจำเลยในชั้นจับกุมอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ที่จะเป็นเหตุบรรเทาโทษเพื่อยกขึ้นเป็นข้ออ้างสำหรับลดโทษให้จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาเรื่องความผิดพยายามฆ่าและอาวุธปืน ศาลจำกัดการฎีกาเฉพาะประเด็นที่พิพากษากลับกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้อง ดังนี้ มีผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดตามมาตรา 289, 80 โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์จึงฎีกาข้อหาดังกล่าวในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ คงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้เฉพาะข้อหาความผิดตามมาตรา 288, 80 ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษากลับกันมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดทางอาญา: ความขัดแย้งในคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 28980ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 28880 โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องดังนี้ มีผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดตาม มาตรา 28980 โดย อาศัยข้อเท็จจริงโจทก์จึงฎีกาข้อหาดังกล่าวในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ คงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ เฉพาะ ข้อหาความผิดตาม มาตรา 28880 ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษากลับกันมา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าและการโต้แย้งข้อเท็จจริงในชั้นฎีกา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289,80 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,80 โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องดังนี้ มีผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดตามมาตรา 289,80 โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์จึงฎีกาข้อหาดังกล่าวในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ คงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้เฉพาะข้อหาความผิดตามมาตรา 288,80 ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษากลับกันมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1652/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการใช้สิทธิป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายก่อน
ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุวิวาทและทำร้ายร่างกายจำเลยก่อนโดย จำเลยไม่ได้สมัครใจวิวาทด้วย การที่จำเลยแทงผู้ตายเนื่องจากถูก ผู้ตายใช้ ขวดเปล่าขว้างถูก หน้าผากจำเลยและใช้ ไม้ไผ่ตัน ตีทำร้ายร่างกายจำเลยก่อน จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัวได้ และที่ผู้ตายถูก จำเลยใช้ มีดแทงถึง 3 แห่งที่หน้าอกซ้าย หน้าอกขวาและต้น ขาซ้าย นั้น เกิดจากการชุลมุนกอดรัดกันขณะจำเลยถูกทำร้ายล้มลงแล้ว จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1652/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อป้องกันตัวที่พอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายก่อนและอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุวิวาทและทำร้ายร่างกายจำเลยก่อน โดยจำเลยไม่ได้สมัครใจวิวาทด้วย การที่จำเลยแทงผู้ตายเนื่องจากถูกผู้ตายใช้ขวดเปล่าขว้างถูกหน้าผากจำเลยและใช้ไม้ไผ่ตันตีทำร้ายร่างกายจำเลยก่อน จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัวได้ และที่ผู้ตายถูกจำเลยใช้มีดแทงถึง 3 แห่ง ที่หน้าอกซ้าย หน้าอกขวาและต้นขาซ้ายนั้น เกิดจากการชุลมุนกอดรัดกันขณะจำเลยถูกทำร้ายล้มลงแล้ว จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะหลังถูกทำร้ายและข่มเหง
ผู้ตายถือมีดดาบติดตัวเข้าไปในโรงเรียนซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลย เมื่อจำเลยห้ามปราม ผู้ตายไม่เชื่อฟังกลับใช้มีดดาบฟันศีรษะจำเลยจนได้รับบาดเจ็บมีโลหิตไหล จำเลยแย่งมีดดาบจากผู้ตายได้แล้วเดินออกจากโรงเรียนเพื่อจะไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ผู้ตายมาดักขอโทษจำเลยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำเลยไม่ยอมยกโทษให้ผู้ตาย และได้ใช้มีดดาบที่ถืออยู่ในมือฟันผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอีก แต่การที่จำเลยใช้มีดฟันผู้ตายหลังจากเกิดเหตุในตอนแรกแล้วประมาณ 3-4 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดในขณะที่โทสะยังรุนแรงอยู่ อันเนื่องมาจากถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะหลังถูกทำร้าย: ศาลยืนตามคำพิพากษาฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ
ผู้ตายถือมีดดาบติดตัวเข้าไปในโรงเรียนซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลย เมื่อจำเลยห้ามปราม ผู้ตายไม่เชื่อฟังกลับใช้มีดดาบฟันศีรษะจำเลยจนได้รับบาดเจ็บมีโลหิตไหล จำเลยแย่งมีดดาบจากผู้ตายได้แล้วเดินออกจากโรงเรียนเพื่อจะไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ผู้ตายมาดักขอโทษจำเลยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำเลยไม่ยอมยกโทษให้ผู้ตาย และได้ใช้มีดดาบที่ถืออยู่ในมือฟันผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอีก แต่การที่จำเลยใช้มีดฟันผู้ตายหลังจากเกิดเหตุในตอนแรกแล้วประมาณ 3-4 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดในขณะที่โทสะยังรุนแรงอยู่ อันเนื่องมาจากถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะหลังถูกข่มเหง: พ้นวิสัยป้องกันสิทธิแล้ว
ผู้ตายถือ มีดดาบติดตัว เข้าไปในโรงเรียนซึ่ง อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลย เมื่อจำเลยห้ามปราม ผู้ตายไม่เชื่อฟังกลับใช้มีดดาบฟันศีรษะจำเลยจนได้รับบาดเจ็บมีโลหิตไหล จำเลยแย่งมีดดาบจากผู้ตายได้ แล้วเดิน ออกจากโรงเรียนเพื่อจะไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ผู้ตายมาดัก ขอโทษจำเลยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำเลยไม่ยอมยกโทษให้ผู้ตาย และได้ ใช้ มีดดาบที่ถือ อยู่ในมือฟันผู้ตายถึง แก่ความตายการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอีก แต่ การที่จำเลยใช้ มีดฟันผู้ตายหลังจากเกิดเหตุในตอนแรกแล้วประมาณ 3-4 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดในขณะที่โทสะยังรุนแรงอยู่ อันเนื่องมาจากถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วย เหตุอันไม่เป็นธรรม เช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดย บันดาลโทสะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือชิงทรัพย์-ฆ่าขัดขวางเจ้าพนักงาน: เจตนาใช้ความรุนแรงแม้ไม่อาจระบุตัวผู้ลงมือ
ผู้ตายถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตายเนื่องจากจำเลยทั้งสองเป็นผู้ยิงแต่ไม่อาจระบุได้ว่าจำเลยคนใด แม้จะฟังว่าจำเลยคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ยิง แต่การที่จำเลยทั้งสองต่างก็มีอาวุธปืนอาก้าไปร่วมชิงทรัพย์ ส่อให้เห็นเจตนาของจำเลยทั้งสองว่าถ้ามีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้นในการชิงทรัพย์ จำเลยทั้งสองจะใช้อาวุธปืนยิงผู้ที่ต่อสู้หรือขัดขวางปรากฏว่าจำเลยทั้งสองอยู่ด้วยกัน เมื่อยิงแล้วก็วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขับขี่หลบหนีไปด้วยกันโดยได้ยิงปืนอีก 1 ชุด พฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ขัดขวางและยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า.(ที่มา-ส่งเสริม)