พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้เมื่อถูกทำร้ายด้วยมีดครัว
การที่ผู้ตายถือมีดใช้ทำครัวบุกรุกเข้าไปในห้องจำเลยลักษณะที่จะใช้มีดนั้นทำร้ายร่างกายจำเลย นับได้ว่าการกระทำของผู้ตายเป็นภยันตรายต่อจำเลย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยจึงมีสิทธิที่จะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดพอสมควรแก่เหตุ เพื่อป้องกันตนเองได้ แต่การที่จำเลยใช้อาวุธปืนซึ่งมีอานุภาพในการทำลายร้ายแรงยิงผู้ตายถึง 5 นัดแม้จะปรากฏว่าผู้ตายมีรูปร่างสูงใหญ่กว่าจำเลยก็ตาม ก็นับว่าเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา69.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการใช้อาวุธปืนยิงในระยะประชิด แม้ถูกที่ต้นขา แต่บาดแผลสาหัสเข้าข่ายพยายามฆ่า
ค. และ บ. ผู้เสียหายทั้งสองพากันเดินจะไปเที่ยวที่งานวัด ค. เห็นจำเลยกำลังตบตีภริยาที่ถนนจึงได้พูดจาว่ากล่าวจำเลย จำเลยไม่พอใจพูดท้าให้ ค. ยิงสู้กับจำเลย แล้วจำเลยได้ชักอาวุธปืนลูกซองยิงผู้เสียหายทั้งสองในระยะเพียง 1-2 วากระสุนปืนถูกผู้เสียหายทั้งสองหลายแห่ง ค. มีบาดแผลถึง 10 แห่งแพทย์ผู้รักษาเห็นว่าหากไปรักษาบาดแผลช้ากว่า 6 ชั่วโมงจะต้องถึงแก่ความตาย เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำว่ากระสุนปืนที่จำเลยยิงอาจถูกผู้เสียหายทั้งสองถึงแก่ความตายได้ แม้ว่ากระสุนปืนที่จำเลยยิงจะถูกผู้เสียหายทั้งสองที่ต้นขาเพียงแต่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ก็ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายทั้งสองแล้ว จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการยิงแม้ไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลพิพากษาฐานพยายามฆ่า
ค. และ บ. ผู้เสียหายทั้งสองพากันเดิน จะไปเที่ยวที่งานวัด ค. เห็นจำเลยกำลังตบตี ภริยาที่ถนน จึงได้ พูดจาว่ากล่าวจำเลยจำเลยไม่พอใจพูดท้าให้ ค. ยิงต่อสู้ กับจำเลย แล้วจำเลยได้ชักอาวุธปืนลูกซองยิงผู้เสียหายทั้งสองในระยะเพียง 1-2 วากระสุนปืนถูก ผู้เสียหายทั้งสองหลายแห่ง ค. มีบาดแผลถึง 10 แห่งแพทย์ผู้รักษาเห็นว่าหากไปรักษาบาดแผลช้า กว่า 6 ชั่วโมง จะต้องถึงแก่ความตาย เช่นนี้ แสดงว่าจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำว่ากระสุนปืนที่จำเลยยิงอาจถูก ผู้เสียหายทั้งสองถึงแก่ความตายได้แม้ว่ากระสุนปืนที่จำเลยยิงจะถูก ผู้เสียหายทั้งสองที่ต้นขาเพียงแต่ เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ก็ถือได้ว่าจำเลยได้ กระทำไปโดย มีเจตนาฆ่าผู้เสียหายทั้งสองแล้ว จำเลยมีความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้เสียหายทั้งสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์ไปกลับ-ซ่อนตัวบ่งชี้เจตนา
จำเลยเคยกล่าวคำอาฆาตผู้ตายไว้เนื่องจากจำเลยซื้อ สลากกินรวบจากผู้ตายถูก รางวัล 20,000 บาท แต่ ผู้ตายจ่ายเพียง 1,000 บาทวันเกิดเหตุ ป. ชวนผู้ตายไปซื้อ สุรา จำเลยอาสาจะไปกับผู้ตายผู้ตายไม่ยอมไปด้วย จำเลยว่าถ้า ไปก็เรียบร้อย เมื่อ ป. คนเดียวไปซื้อ สุรา ผู้ตายกับจำเลยเกิดโต้เถียง กันอย่างรุนแรง มีผู้เข้ามาห้าม จำเลยกลับไปที่บ้านซึ่ง อยู่ห่างไปประมาณ 500 เมตร เอาปืนลูกซองสั้นแล้วย้อนกลับมาที่บ้าน ป. ลอด ใต้ถุน บ้านเข้าไปและยิงผู้ตาย ดังนี้ ระยะทางไปกลับจากบ้าน ป. กับบ้านจำเลยประมาณ1 กิโลเมตร จำเลยย่อมมีโอกาสคิดทบทวนว่าสมควรจะฆ่าผู้ตายหรือไม่พฤติการณ์ที่จำเลยลอด ใต้ถุน บ้านเข้าไปยิงผู้ตายก็เพื่อปกปิดมิให้ผู้อื่นเห็น การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าผู้ตายโดย ไตร่ตรอง ไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์การกลับไปเอาปืนและลอดใต้ถุนบ้านแสดงเจตนา
จำเลยเคยกล่าวคำอาฆาตผู้ตายไว้เนื่องจากจำเลยซื้อสลากกินรวบจากผู้ตายถูกรางวัล 20,000 บาท แต่ผู้ตายจ่ายเพียง 1,000 บาทวันเกิดเหตุ ป. ชวนผู้ตายไปซื้อสุรา จำเลยอาสาจะไปกับผู้ตายผู้ตายไม่ยอมไปด้วย จำเลยว่าถ้าไปก็เรียบร้อย เมื่อ ป. คนเดียวไปซื้อสุรา ผู้ตายกับจำเลยเกิดโต้เถียงกันอย่างรุนแรง มีผู้เข้ามาห้าม จำเลยกลับไปที่บ้านซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 500 เมตรเอาปืนลูกซองสั้นย้อนกลับมาที่บ้าน ป. ลอดใต้ถุนบ้านเข้าไปและยิงผู้ตาย ดังนี้ ระยะทางไปกลับจากบ้าน ป.กับบ้านจำเลยประมาณ 1 กิโลเมตร จำเลยย่อมมีโอกาสคิดทบทวนว่าสมควรจะฆ่าผู้ตายหรือไม่ พฤติการณ์ที่จำเลยลอดใต้ถุนบ้านเข้าไปยิงผู้ตายก็เพื่อปกปิดมิให้ผู้อื่นเห็น การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะหลังถูกทำร้ายร่างกาย
ผู้ตายเข้ามาถาม จำเลยถึง เรื่องที่จำเลยตี บุตรสาวของผู้ตายแล้วผู้ตายได้ ชกต่อย เตะ ทำร้ายร่างกายจำเลยทันที โดย จำเลยมิได้ต่อสู้ ซึ่ง ถือได้ว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วย เหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยเข้าไปนำเอาอาวุธปืนออกมายิงผู้ตายในขณะนั้นจึงเป็นการกระทำโดย บันดาลโทสะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือกระทำความผิดพยายามฆ่าและฆ่าโดยเจตนา: การพิสูจน์ความผิดจากพยานหลักฐานและคำเบิกความ
จำเลยเข้าไปหา ส.พร้อมกับป.และเมื่อส. หลบหนีไปเพราะเห็น ป. ชักอาวุธปืนออกมา จำเลยก็วิ่งไล่ตาม ส. ไปพร้อมกับ ป. ตลอดเวลา จนกระทั่ง ป. ไล่ยิง ส. เป็นนัดที่ 2กระสุนปืนถูก ส. และพลาดไปถูก น. และผู้ตาย แล้วจำเลยหลบหนีไปพร้อมกับ ป. ดังนี้ย่อมถือได้ว่าจำเลยร่วมกับ ป. พยายามฆ่า ส. กับ น. และร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือพยายามฆ่าและฆ่าผู้อื่น
จำเลยเข้าไปหา ส. พร้อมกับ ป. และเมื่อ ส. หลบหนีไปเพราะเห็น ป. ชักอาวุธปืนออกมา จำเลยก็วิ่งไล่ตาม ส.ไปพร้อมกับ ป. ตลอด เวลา จนกระทั่ง ป. ไล่ยิง ส. เป็นนัดที่ 2 กระสุนปืนถูก ส. และพลาดไปถูก น. และผู้ตาย แล้วจำเลยหลบหนีไปพร้อมกับ ป. ดังนี้ย่อมถือได้ว่าจำเลยร่วมกับ ป.พยายามฆ่า ส. กับ น. และร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าแต่ทำไม่สำเร็จ: พยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา
การที่จำเลยมาพูดขอซื้อ บุหรี่จากผู้เสียหาย ขณะที่ผู้เสียหายเอื้อมมือจะหยิบบุหรี่ในตู้ จำเลยได้ เข้าประชิดตัว และชักปืนลูกซองสั้นที่มีกระสุนปืนบรรจุอยู่ออกมาจ่อที่หน้าอกผู้เสียหาย พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายและได้ ลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่ เนื่องจากผู้เสียหายได้ ปัดป้องเสียทัน และแย่งปืนจากจำเลยได้ จำเลยจึงมิได้ลั่นไกปืน กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด แต่ เป็นเรื่องกระทำไปไม่ตลอดตาม ความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80จำเลยจึงมีความผิดฐาน พยายามฆ่า ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ประกอบมาตรา 80.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการจ่อปืนและการแย่งปืน ถือเป็นความผิดพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
การที่จำเลยมาพูดขอซื้อบุหรี่จากผู้เสียหาย ขณะที่ผู้เสียหายเอื้อมมือจะหยิบบุหรี่ในตู้ จำเลยได้เข้าประชิดตัวและชักปืนลูกซองสั้นที่มีกระสุนปืนบรรจุอยู่ออกมาจ่อที่หน้าอกผู้เสียหาย พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายและได้ลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่เนื่องจากผู้เสียหายได้ปัดป้องเสียทัน และแย่งปืนจากจำเลยได้จำเลยจึงมิได้ลั่นไกปืน กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด แต่เป็นเรื่องกระทำไปไม่ตลอดตาม ความหมาย ของ ป.อ. มาตรา 80 จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า ตาม ป.อ. มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80.