คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5847/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง: พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,288,289ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า กรณีมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำผิดหรือไม่สมควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าพิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295ดังนี้ ข้อหาฐานพยายามฆ่าต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 โจทก์ฎีกาว่า จำเลยได้กระทำผิดต่อผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายเป็นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่นั้น เมื่อฎีกาโจทก์ต้องห้ามเสียแล้วคดีไม่อาจขึ้นสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาได้ จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 ด้วย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5770/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าหลายกรรม: การพิจารณาความประสงค์โจทก์ในการลงโทษและจำนวนกระทงความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดหลายบทหลายกระทงต่างกรรมกัน แล้วบรรยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดฐานพยายามฆ่าว่าจำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนพกยิงประทุษร้าย ส.และท. หลายนัดโดยมีเจตนาฆ่าบุคคลทั้งสองและคำขอท้ายคำฟ้องระบุประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,80,288 ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ที่จะให้ศาลลงโทษจำเลยในการใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย 2 คนเป็นความผิดหลายกระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5770/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าหลายกรรมต่างวาระ ศาลพิจารณาการบรรยายฟ้องและเจตนาของโจทก์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดหลายบทหลายกระทงต่างกรรมกัน แล้วบรรยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดฐานพยายามฆ่าว่าจำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนพกยิงประทุษร้าย ส. และ ท. หลายนัดโดยมีเจตนาฆ่าบุคคลทั้งสองและคำขอท้ายคำฟ้องระบุประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 80, 288 ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ที่จะให้ศาลลงโทษจำเลยในการใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย 2 คนเป็นความผิดหลายกระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5733/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดฐานฆ่าโดยเจตนา แต่ไม่มีการไตร่ตรองไว้ก่อน ลดโทษจากเจตนาเป็นไม่เจตนา
จำเลยเคยโกรธเคืองผู้ตายที่ไม่ยอมให้จำเลยเหมารอบรำวงถึง กับชักอาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าก่อนเกิดเหตุประมาณ 27-28 วัน ในวันเกิดเหตุผู้ตายไปนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่ร้านอาหารซึ่งมีจำเลยกับพวกนั่งอยู่ก่อน ต่อมาจำเลยได้เดินมาทางด้านหลังของผู้ตายและพูดว่าเฮ้ยนักเลงหรือไง พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายด้านหลังถึงแก่ความตาย ดังนี้ผู้ตายพบจำเลยโดยบังเอิญจำเลยอาจมีความเจ็บแค้นผู้ตายมาก่อนที่ขัดขวางไม่ยอมให้จำเลยเหมารอบรำวงซึ่งเวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วนานเกือบเดือน ความโกรธแค้นน่าจะลดหายไปไม่ปรากฏว่าจำเลยมีความอาฆาตคอยติดตามเพื่อจะทำร้ายผู้ตายอีก ที่จำเลยพบผู้ตายในคืนเกิดเหตุ ความแค้นที่เคยมีต่อผู้ตายอาจเกิดขึ้นกะทันหันก็ได้ พฤติการณ์แห่งคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีแผนการอย่างหนึ่งอย่างใดไว้ล่วงหน้า หรือไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อที่จะฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5733/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าโดยไม่ไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์ที่ศาลไม่เห็นว่าเป็นการวางแผน
จำเลยเคยโกรธเคืองผู้ตายที่ไม่ยอมให้จำเลยเหมารอบรำวงถึง กับชักอาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าก่อนเกิดเหตุประมาณ 27-28 วัน ในวันเกิดเหตุผู้ตายไปนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่ร้านอาหารซึ่งมีจำเลยกับพวกนั่งอยู่ก่อน ต่อมาจำเลยได้เดินมาทางด้านหลังของผู้ตายและพูดว่าเฮ้ยนักเลงหรือไง พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายด้านหลังถึงแก่ความตาย ดังนี้ผู้ตายพบจำเลยโดยบังเอิญจำเลยอาจมีความเจ็บแค้นผู้ตายมาก่อนที่ขัดขวางไม่ยอมให้จำเลยเหมารอบรำวงซึ่งเวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วนานเกือบเดือน ความโกรธแค้นน่าจะลดหายไปไม่ปรากฏว่าจำเลยมีความอาฆาตคอยติดตามเพื่อจะทำร้ายผู้ตายอีก ที่จำเลยพบผู้ตายในคืนเกิดเหตุ ความแค้นที่เคยมีต่อผู้ตายอาจเกิดขึ้นกะทันหันก็ได้พฤติการณ์แห่งคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีแผนการอย่างหนึ่งอย่างใดไว้ล่วงหน้าหรือไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อที่จะฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5402/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าร่วมกับผู้อื่น แม้ไม่มีการตกลงกันไว้ก่อน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำแสดงเจตนาชัดเจน
ผู้ตายด่า ล. และจำเลยก่อน ล. จึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแม้จำเลย จะไม่ได้พูดจาตกลงกับ ล. ในการที่จะฆ่าผู้ตาย แต่เมื่อ ล. ยิงผู้ตาย ล้มลงแล้ว จำเลยได้วิ่งเข้ามาใช้มีดแทงผู้ตายที่หน้าอกระหว่างนม เป็นบาดแผลกว้าง 1 เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร ลึก 2 เซนติเมตรครึ่ง ในเวลาใกล้เคียงกับเวลาที่ผู้ตายถูกยิง และพูดในลักษณะที่มีความประสงค์จะให้ผู้ตายถึงแก่ความตายแสดงว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับ ล. ในการที่จะฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานร่วมกับ ล. ฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5402/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเข้าร่วมฆ่า: การกระทำร่วมกันแม้ไม่มีข้อตกลงชัดเจน
ผู้ตายด่า ล. และจำเลยก่อน ล. จึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแม้จำเลย จะไม่ได้พูดจาตกลงกับ ล. ในการที่จะฆ่าผู้ตายแต่เมื่อ ล. ยิงผู้ตาย ล้มลงแล้ว จำเลยได้วิ่งเข้ามาใช้มีดแทงผู้ตายที่หน้าอกระหว่างนม เป็นบาดแผลกว้าง 1เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร ลึก 2 เซนติเมตร ครึ่ง ในเวลาใกล้เคียงกับเวลาที่ผู้ตายถูกยิง และพูดในลักษณะที่มี ความประสงค์จะให้ผู้ตายถึงแก่ความตายแสดงว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับล. ในการที่จะฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานร่วมกับล. ฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5120/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงทำร้าย: พิจารณาจากบาดแผล, อาวุธ, และพฤติการณ์
จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายในขณะที่จำเลยเมาสุราโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน มีดที่ใช้แทงไม่มีด้ามและมีสนิมติดอยู่ด้วยจำเลยแทงผู้เสียหายครั้งแรกที่ใต้ราวนมซ้าย 1 ครั้ง บาดแผลขนาด 1.2 * 0.3 เซนติเมตรลึก 0.5 เซนติเมตรติดกระดูกซี่โครง ไม่ได้ความว่าแทงโดยแรงหรือไม่ผู้เสียหายล้มลงแล้วจำเลยยังแทงผู้เสียหายที่โคนขาอีก 2 ครั้งแผลลึก 3 และ 2.5 เซนติเมตรตามลำดับ สภาพบาดแผลมีขนาดใกล้เคียงกับบาดแผลที่ใต้ราวนมซ้ายแพทย์มีความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณ 10 วันหาย พิจารณาถึงมีดซึ่งไม่เหมาะที่จะใช้แทงให้ตายและการที่จำเลยมีโอกาสเลือกแทงในส่วนสำคัญได้หลังจากผู้เสียหายล้มลงแล้วแต่กลับแทงไปที่บริเวณโคนขาซึ่งไม่เกิดอันตรายร้ายแรง ทำให้ฟังไม่ถนัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5120/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์ ผู้ต้องหาไม่ได้มีเจตนาฆ่า
จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายในขณะที่จำเลยเมาสุราโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน มีดที่ใช้แทงไม่มีด้ามและมีสนิมติดอยู่ด้วยจำเลยแทงผู้เสียหายครั้งแรกที่ใต้ราวนมซ้าย 1 ครั้ง บาดแผลขนาด 1.2+0.3 เซนติเมตรลึก 0.5 เซนติเมตรติดกระดูกซี่โครง ไม่ได้ความว่าแทงโดยแรงหรือไม่ผู้เสียหายล้มลงแล้วจำเลยยังแทงผู้เสียหายที่โคนขาอีก 2ครั้ง แผลลึก 3 และ 2.5 เซนติเมตรตามลำดับ สภาพบาดแผลมีขนาดใกล้เคียงกับบาดแผลที่ใต้ราวนมซ้ายแพทย์มีความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณ 10 วันหาย พิจารณาถึงมีดซึ่งไม่เหมาะที่จะใช้แทงให้ตายและการที่จำเลยมีโอกาสเลือกแทงในส่วนสำคัญได้หลังจากผู้เสียหายล้มลงแล้วแต่กลับแทงไปที่บริเวณโคนขาซึ่งไม่เกิดอันตรายร้ายแรง ทำให้ฟังไม่ถนัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4804/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันทำร้ายจนถึงแก่ความตาย: ความรับผิดฐานร่วมกันฆ่าโดยเจตนา แม้ไม่ได้ลงมือแทง
กรณีชุลมุน ต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และมีบุคคลถึงตาย ตาม ป.อ. มาตรา 294 หมายถึงกรณีที่ไม่ทราบว่าผู้ใดหรือผู้ใดร่วมกับใครได้ทำร้ายผู้ตายถึงตาย มิใช่กรณีที่ฝ่ายหนึ่งกลุ้มรุมกันทำร้ายผู้ตายถึงตาย ซึ่งฝ่ายนั้นต้องรับผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา.
of 223