คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3398/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าต่อเนื่อง: การกระทำเป็นกรรมเดียว แม้ใช้อาวุธต่างกัน
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย1นัดแล้วกลับบ้านต่อมาในคืนเดียวกันจำเลยทราบว่าผู้ตายยังไม่ถึงแก่ความตายจึงได้ย้อนกลับไปใช้ไม้ไผ่ตีทำร้ายผู้ตายอีกจนถึงแก่ความตายนั้นก็ด้วยเจตนาเดียวกันคือเจตนาฆ่าผู้ตายเมื่อจำเลยได้กระทำในเวลาใกล้เคียงต่อเนื่องกันจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288 การที่จำเลยทราบว่าผู้ตายยังไม่ถึงแก่ความตายจึงย้อนกลับไปยังที่เกิดเหตุอีกโดยมิได้ถืออาวุธไปด้วยเมื่อพบไม้ไผ่ปลายแหลมใกล้ที่เกิดเหตุจึงใช้ไม้ไผ่ดังกล่าวตีทำร้ายผู้ตายจนถึงแก่ความตายนั้นเป็นเรื่องจำเลยต้องการทำร้ายผู้ตายให้ถึงแก่ความตายตามเจตนาเดิมของจำเลยการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา289.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3398/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาต่อเนื่องในการกระทำความผิดฐานฆ่า การพิจารณาความผิดฐานฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย1นัดแล้วกลับบ้านต่อมาในคืนเดียวกันจำเลยทราบว่าผู้ตายยังไม่ถึงแก่ความตายจึงได้ย้อนกลับไปใช้ไม้ไผ่ตีทำร้ายผู้ตายอีกจนถึงแก่ความตายนั้นก็ด้วยเจตนาเดียวกันคือเจตนาฆ่าผู้ตายเมื่อจำเลยได้กระทำในเวลาใกล้เคียงต่อเนื่องกันจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดตามป.อ.มาตรา288 การที่จำเลยทราบว่าผู้ตายยังไม่ถึงแก่ความตายจึงย้อนกลับไปยังที่เกิดเหตุอีกโดยมิได้ถืออาวุธไปด้วยเมื่อพบไม้ไผ่ปลายแหลมใกล้ที่เกิดเหตุจึงใช้ไม้ไผ่ดังกล่าวตีทำร้ายผู้ตายจนถึงแก่ความตายนั้นเป็นเรื่องจำเลยต้องการทำร้ายผู้ตายให้ถึงแก่ความตายตามเจตนาเดิมของจำเลยการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามป.อ.มาตรา289.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3368/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วม พยายามฆ่า แม้มิได้เป็นผู้ลงมือ
ส.กับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหายแม้จำเลยจะมิใช่ผู้ยิงก็ตามแต่จำเลยเป็นบิดาของส.และอยู่ด้วยในขณะที่ส.ยิงผู้เสียหายตรงที่เกิดเหตุเป็นป่าโดยปกติจะไม่มีผู้สัญจรไปมาและเมื่อเกิดเหตุแล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปกับส.ดังนี้พฤติการณ์ของจำเลยเชื่อได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกับส.กระทำความผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3368/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมพยายามฆ่า: พฤติการณ์หลบหนีหลังเกิดเหตุเป็นหลักฐานสำคัญบ่งชี้เจตนา
ส.กับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหาย แม้จำเลยจะมิใช่ผู้ยิงก็ตาม แต่จำเลยเป็นบิดาของ ส. และอยู่ด้วยในขณะที่ส. ยิงผู้เสียหาย ตรงที่เกิดเหตุเป็นป่า โดยปกติจะไม่มีผู้สัญจรไปมาและเมื่อเกิดเหตุแล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปกับ ส. ดังนี้พฤติการณ์ของจำเลยเชื่อได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกับ ส. กระทำความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3368/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมพยายามฆ่า: การกระทำโดยสนับสนุนแม้ไม่ได้เป็นผู้ลงมือ
ส.กับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหาย แม้จำเลยจะมิใช่ผู้ยิงก็ตาม แต่จำเลยเป็นบิดาของ ส. และอยู่ด้วยในขณะที่ ส. ยิงผู้เสียหาย ตรงที่เกิดเหตุเป็นป่า โดยปกติจะไม่มีผู้สัญจรไปมา และเมื่อเกิดเหตุแล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปกับ ส. ดังนี้พฤติการณ์ของจำเลยเชื่อได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกับ ส. กระทำความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3318/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ป้องกันตัวจากการข่มขืน: การใช้กำลังที่สมควรแก่เหตุ
จำเลยเป็นหญิงอายุ 20 ปี รูปร่างเล็กกว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นชายอายุ 31 ปี และถูกผู้เสียหายปลุกปล้ำเพื่อร่วมประเวณีด้วยในห้องพักของโรงแรม จำเลยได้ต่อสู้ดิ้นรนกับการกระทำของผู้เสียหาย ขณะที่ถูกผู้เสียหายนอนกดทับพยายามจะข่มขืนอยู่นั้น จำเลยดึงมีดคัตเตอร์ออกจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังมาทำร้ายผู้เสียหาย เป็นบาดแผลที่บริเวณคอ ความยาว 12 เซนติเมตรกว้าง 1/2 เซนติเมตร และลึก 1 เซนติเมตร แม้เป็นการกระทำโดยแรง ถึงขั้นมีดคัตเตอร์หัก แต่จำเลยก็กระทำครั้งเดียวเหตุที่มีดคัตเตอร์หักก็เป็นไปตามสภาพของมีดคัตเตอร์นั่นเอง ทั้งในสภาพที่ถูกกดทับพยายามจะข่มขืนอยู่นั้น จำเลยย่อมไม่มีทางจะเลือกกระทำต่อส่วนอื่นของร่างกายผู้เสียหายได้ คงกระทำได้แต่ส่วนบนที่ไม่ได้กดทับจำเลยเท่านั้น การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3318/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวจากการข่มขืน: การใช้มีดคัตเตอร์เพื่อระงับการประทุษร้ายโดยชอบธรรม
จำเลยเป็นหญิงอายุ20ปีรูปร่างเล็กกว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นชายอายุ31ปีและถูกผู้เสียหายปลุกปล้ำเพื่อร่วมประเวณีด้วยในห้องพักของโรงแรมจำเลยได้ต่อสู้ดิ้นรนกับการกระทำของผู้เสียหายขณะที่ถูกผู้เสียหายนอนกดทับพยายามจะข่มขืนอยู่นั้นจำเลยดึงมีดคัตเตอร์ออกจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังมาทำร้ายผู้เสียหายเป็นบาดแผลที่บริเวณคอความยาว12เซนติเมตรกว้าง1/2เซนติเมตรและลึก1เซนติเมตรแม้เป็นการกระทำโดยแรงถึงขั้นมีดคัตเตอร์หักแต่จำเลยก็กระทำครั้งเดียวเหตุที่มีดคัตเตอร์หักก็เป็นไปตามสภาพของมีดคัตเตอร์นั่นเองทั้งในสภาพที่ถูกกดทับพยายามจะข่มขืนอยู่นั้นจำเลยย่อมไม่มีทางจะเลือกกระทำต่อส่วนอื่นของร่างกายผู้เสียหายได้คงกระทำได้แต่ส่วนบนที่ไม่ได้กดทับจำเลยเท่านั้นการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุจำเลยจึงไม่มีความผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกาย: พิจารณาจากอาวุธ พฤติการณ์ และบาดแผลของผู้เสียหาย
จำเลยกับพวกอีก 2 คน รุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายวิ่งหนีไปล้มลงนอนอยู่กับพื้น โดยพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ศอก และพวกของจำเลยอีกคนหนึ่งใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 1 แขน เป็นอาวุธฟันและตีผู้เสียหายหลายครั้งถูกที่ศีรษะผู้เสียหายมีบาดแผล 4 แห่ง ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร 3 เซนติเมตร และ 2 เซนติเมตรอีก 2 แห่งแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 10 วันหาย แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะร้องบอกกับพวกว่าเอาให้ตาย แต่ปรากฏว่าจำเลยชกผู้เสียหายเพียง 1 ครั้ง แล้วไม่ได้ทำอะไรอีก และพวกของจำเลยก็มิได้ทำตามที่จำเลยร้องบอกทั้งที่จะทำร้ายผู้เสียหายมากไปกว่านั้นก็ย่อมกระทำได้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยกับพวกมิได้มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากพฤติการณ์และอาวุธที่ใช้ประกอบกับบาดแผลของผู้เสียหาย
จำเลยกับพวกอีก 2 คน รุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายวิ่งหนีไปล้มลงนอนอยู่กับพื้น โดยพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ศอก และพวกของจำเลยอีกคนหนึ่งใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 1 แขน เป็นอาวุธฟันและตีผู้เสียหายหลายครั้งถูกที่ศีรษะผู้เสียหายมีบาดแผล 4 แห่งยาวประมาณ 4 เซนติเมตร3 เซนติเมตร และ 2 เซนติเมตรอีก 2 แห่งแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 10 วันหาย แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะร้องบอกกับพวกว่าเอาให้ตายแต่ปรากฏว่าจำเลยชกผู้เสียหายเพียง 1 ครั้ง แล้วไม่ได้ทำอะไรอีกและพวกของจำเลยก็มิได้ทำตามที่จำเลยร้องบอกทั้งที่จะทำร้ายผู้เสียหายมากไปกว่านั้นก็ย่อมกระทำได้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยกับพวกมิได้มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าหรือไม่? การทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ถือว่ามีเจตนาฆ่า
จำเลยกับพวกอีก2คนรุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายวิ่งหนีไปล้มลงนอนอยู่กับพื้นโดยพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ1ศอกและพวกของจำเลยอีกคนหนึ่งใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ1แขนเป็นอาวุธฟันและตีผู้เสียหายหลายครั้งถูกที่ศีรษะผู้เสียหายมีบาดแผล4แห่งยาวประมาณ4เซนติเมตร3เซนติเมตรและ2เซนติเมตรอีก2แห่งแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ10วันหายแม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะร้องบอกกับพวกว่าเอาให้ตายแต่ปรากฏว่าจำเลยชกผู้เสียหายเพียง1ครั้งแล้วไม่ได้ทำอะไรอีกและพวกของจำเลยก็มิได้ทำตามที่จำเลยร้องบอกทั้งที่จะทำร้ายผู้เสียหายมากไปกว่านั้นก็ย่อมกระทำได้พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยกับพวกมิได้มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย.
of 223