พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1579/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควร การกระทำเกินกว่าเหตุ การฆ่าโดยเจตนา
แม้จำเลยกับผู้ตายจะเป็นสามีภรรยากัน ผู้ตายก็ไม่มีอำนาจอันชอบธรรมที่จะทำร้ายจำเลย ฉะนั้น เมื่อผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุ ด่าและตบเตะทำร้ายจำเลยก่อนจนเป็นเหตุให้จำเลยได้รับอันตรายแก่กาย อันเป็นการประทุษร้ายจำเลยฝ่ายเดียว จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะป้องกันตัวได้ ดังนั้น การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายดังกล่าวเพื่อยับยั้งผู้ตายมิให้ทำร้ายจำเลยอีก จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นจากการถูกทำร้าย แต่ขณะเกิดเหตุผู้ตายเพียงแต่ตบเตะจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่อย่างใด การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายหลายครั้ง จนปรากฏบาดแผลที่ตัวผู้ตายถึง 5 แผล เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1579/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ถูกทำร้ายก่อน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการใช้มีดแทงหลายครั้งเกินกว่าป้องกันตัว
แม้จำเลยกับผู้ตายจะเป็นสามีภรรยากันผู้ตายก็ไม่มีอำนาจอันชอบธรรมที่จะทำร้ายจำเลยฉะนั้นเมื่อผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุด่าและตบเตะทำร้ายจำเลยก่อนจนเป็นเหตุให้จำเลยได้รับอันตรายแก่กายอันเป็นการประทุษร้ายจำเลยฝ่ายเดียวจำเลยย่อมมีสิทธิที่จะป้องกันตัวได้ดังนั้นการที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายดังกล่าวเพื่อยับยั้งผู้ตายมิให้ทำร้ายจำเลยอีกจึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นจากการถูกทำร้ายแต่ขณะเกิดเหตุผู้ตายเพียงแต่ตบเตะจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่อย่างใดการที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายหลายครั้งจนปรากฏบาดแผลที่ตัวผู้ตายถึง5แผลเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายถือได้ว่าจำเลยได้กระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1579/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ถูกทำร้ายก่อน ศาลฎีกาตัดสินว่าการใช้มีดแทงหลายครั้งเกินกว่าการป้องกัน
แม้จำเลยกับผู้ตายจะเป็นสามีภรรยากันผู้ตายก็ไม่มีอำนาจอันชอบธรรมที่จะทำร้ายจำเลยฉะนั้นเมื่อผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุด่าและตบเตะทำร้ายจำเลยก่อนจนเป็นเหตุให้จำเลยได้รับอันตรายแก่กายอันเป็นการประทุษร้ายจำเลยฝ่ายเดียวจำเลยย่อมมีสิทธิที่จะป้องกันตัวได้ดังนั้นการที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายดังกล่าวเพื่อยับยั้งผู้ตายมิให้ทำร้ายจำเลยอีกจึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นจากการถูกทำร้ายแต่ขณะเกิดเหตุผู้ตายเพียงแต่ตบเตะจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่อย่างใดการที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายหลายครั้งจนปรากฏบาดแผลที่ตัวผู้ตายถึง5แผลเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายถือได้ว่าจำเลยได้กระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1577/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่สอดคล้องกับบาดแผลของผู้ตาย ศาลฎีกายกฟ้องจำเลยที่ 1
จำเลยที่1ที่2ที่3ไปที่ร้านซึ่งผู้ตายเป็นลูกจ้างขายอาหารต่อมาผู้ตายกับจำเลยที่2โต้เถียงวิวาทกันประจักษ์พยานโจทก์ว่าจำเลยทั้งสามใช้ไม้กับเหล็กแป๊บน้ำตีผู้ตายแต่ตามรายงานการชันสูตรพลิกศพมีว่าศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรงไม่ปรากฏบาดแผลตามตัวอีกคงมีแต่บาดแผลที่ศีรษะเท่านั้นซึ่งจำเลยที่2ให้การว่าใช้เหล็กแป๊บน้ำตีผู้ตายดังนี้จำเลยที่1จึงมิได้ร่วมฆ่าผู้ตายด้วย.(ที่มา-เนติฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดทางอาญาของผู้ป่วยจิตเภท: การลดโทษตามมาตรา 65 วรรคสอง ป.อ.
จำเลยป่วยเป็นโรคจิตเภท ชนิดระแวง จำเลยหวาดระแวงว่าผู้เสียหายจะทำร้ายตนทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนและเป็นเพื่อนบ้านกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก เป็นอาการบกพร่องทางจิตสำนึก สำคัญผิดว่าผู้เสียหายเป็นศัตรู จำเลยซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ผู้อื่นขณะใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายดังนี้ จำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบและบังคับตนเองได้บ้าง ควรลงโทษน้อยว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการกระทำผิดฐานทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาจากบาดแผลและอาวุธที่ใช้
จำเลยใช้มีดขนาดยาว 8 นิ้ว กว้าง 2 นิ้วแทงผู้เสียหายถูกที่หัวไหล่ 2 แผล โดยไม่ปรากฏว่าตั้งใจเลือกแทงอวัยวะสำคัญ บาดแผลที่หนึ่งขนาด 6 คูณ 2 เซนติเมตรลึกทะลุแขน ส่วนแผลที่สองขนาด 3 คูณ 1 เซนติเมตรแผลทะลุ ผู้เสียหายรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 วัน และไม่สามารถประกอบกรณียกิจโดยปกติอีก 2 เดือน เช่นนี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่ฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสอย่างไร จึงจะพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการกระทำทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาความร้ายแรงของบาดแผลและเจตนาของผู้กระทำ
จำเลยใช้มีดยาว 8 นิ้ว กว้าง 2 นิ้วแทงผู้เสียหายถูกที่หัวไหล่ 2 แผล ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 วัน และไม่สามารถประกอบกรณียกิจโดยปกติอีก 2 เดือน โดยไม่ปรากฏว่าตั้งใจเลือกแทงอวัยวะสำคัญนั้น กรณียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 เมื่อมิได้บรรยายว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสอย่างไร จึงจะพิพากษาลงโทษจำเลยตาม มาตรา 297 ไม่ได้ คงลงโทษได้เพียง มาตรา 295
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การจ้องปืนและพฤติการณ์ที่ไม่มีการขัดขืน ไม่เพียงพอพิสูจน์เจตนาฆ่า
จำเลยจ้องปืนไปยังผู้เสียหาย โดยที่นิ้วมือของจำเลยอยู่ในโกร่งไก ปืนหากเจตนาฆ่า ก็อาจยิงได้ทันที โดยที่ไม่อาจห้ามได้ทัน เหตุเกิดในเวลากลางวันที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก ก่อนเกิดเหตุ1 เดือนเศษ จำเลยใช้ไม้ตีศีรษะ ช. พี่ภรรยาของผู้เสียหาย แล้วผู้เสียหายพาช.ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจก็ไม่น่าเป็นเหตุร้ายแรงถึงกับจะต้องฆ่ากัน เมื่อพี่เขยจำเลยมาจับมือที่ถือปืนให้ปากกระบอกเบนขึ้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยพยายามดิ้นรนขัดขืน ที่จะยิงผู้เสียหาย ดังนี้ จำเลยไม่มีเจตนาจะยิงผู้เสียหาย อาจกระทำไปเพื่อขู่ จึงไม่มีความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์จ้องปืนและเจตนาฆ่า: การประเมินหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยจ้องปืนไปยังผู้เสียหายโดยที่นิ้วมือของจำเลยอยู่ในโกร่งไกปืน หากจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย จำเลยก็อาจยิงได้ทันทีโดยที่ไม่มีผู้ใดอาจห้ามได้ทัน เมื่อมีผู้เข้าไปจับมือจำเลยข้างที่ถือปืนให้ปากกระบอกปืนเบนขึ้น ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยดิ้นรนขัดขืนที่จะยิงผู้เสียหาย สาเหตุโกรธเคืองที่โจทก์นำสืบก็ไม่น่าจะเป็นเหตุร้ายแรงถึงจะต้องฆ่ากัน การที่จำเลยจ้องปืนไปยังผู้เสียหายนั้น อาจเป็นการกระทำเพื่อขู่ผู้เสียหายซึ่งเคยมีเรื่องโกรธเคืองกันก็ได้ จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1353/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ร่วมกันของจำเลยหลายคน ศาลอุทธรณ์ต้องวินิจฉัยทั้งหมด
จำเลยอุทธรณ์โดยในแผ่นแรกของอุทธรณ์ระบุว่าจำเลยที่3เป็นผู้ยื่นอุทธรณ์และในท้ายอุทธรณ์ก็ลงลายมือชื่อจำเลยที่3เพียงผู้เดียวในช่องผู้อุทธรณ์แต่ในคำบรรยายฟ้องอุทธรณ์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสี่ไม่ได้กระทำความผิดและจำเลยทั้งสี่ได้ลงลายมือชื่อไว้ด้วยกันในตอนท้ายเมื่อสิ้นข้อความที่อุทธรณ์เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยทั้งสี่ร่วมกันอุทธรณ์การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีเฉพาะจำเลยที่3จึงเป็นการไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาแม้คู่ความมิได้ฎีกาในปัญหานี้ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เพราะเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย.