คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,229 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยับยั้งการกระทำความผิดพยายามฆ่า: การไม่ลงมือยิงหลังจากมีโอกาส ถือเป็นยับยั้งเสียเอง
เมื่อธ.วิ่งหนีจำเลยไปแล้วจำเลยไม่ได้วิ่งไล่ตามไปยิงโดยกลับใจเอาปืนมาจ้องว.แทนทั้งที่มีโอกาสจะยิงธ.ได้จึงเป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอดเมื่อจำเลยจ้องปืนไปทางว.แล้วว.พูดว่าไม่เกี่ยวและหลบเข้าไปทางหลังบ้านจำเลยเดินไปอีกทางหนึ่งโดยไม่ตามเข้าไปยิงว.ทั้งที่มีโอกาสจะยิงได้เป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอดจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานพยายามฆ่าธและว..

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความพยายามฆ่าและการยับยั้งชั่วขณะ: การกระทำที่มิได้บรรลุผลสำเร็จย่อมไม่เป็นความผิด
เมื่อ ธ. วิ่งหนีจำเลยไปแล้ว จำเลยไม่ได้วิ่งไล่ตามไปยิงโดยกลับใจเอาปืนมาจ้อง ว. แทน ทั้งที่มีโอกาสจะยิง ธ. ได้ จึงเป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด เมื่อจำเลยจ้องปืนไปทาง ว. แล้ว ว. พูดว่าไม่เกี่ยวและหลบเข้าไปทางหลังบ้าน จำเลยเดินไปอีกทางหนึ่งโดยไม่ตามเข้าไปยิง ว.ทั้งที่มีโอกาสจะยิงได้ เป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานพยายามฆ่า ธ และ ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงทำร้ายผู้อื่นหลังเกิดการโต้เถียง ไม่เข้าข่ายบันดาลโทสะ
จำเลยเข้าไปรับประทานอาหารและดื่มสุราในบาร์ที่ผู้เสียหายเป็นรองผู้จัดการและเกิดโต้เถียงกับผู้เสียหายโดยผู้เสียหายท้าทายจำเลยว่านักข่าวก็ตายได้เหมือนกันนักข่าวกระจอกนักข่าวกิ๊กก๊อกยังถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายจึงไม่ใช่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา72.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงผู้อื่นหลังถูกท้าทายด้วยคำพูดไม่เข้าข่ายบันดาลโทสะ แม้จะมีการโต้เถียงก่อนหน้า
จำเลยเข้าไปรับประทานอาหารและดื่มสุราในบาร์ที่ผู้เสียหายเป็นรองผู้จัดการและเกิดโต้เถียงกับผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายท้าทายจำเลยว่านักข่าวก็ตายได้เหมือนกัน นักข่าวกระจอก นักข่าวกิ๊กก๊อก ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายจึงไม่ใช่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงผู้อื่นหลังมีปากเสียง ศาลฎีกาตัดสินไม่เข้าข่ายบันดาลโทสะ
จำเลยเข้าไปรับประทานสุราอาหารในบาร์ที่ผู้เสียหายเป็นรองผู้จัดการอยู่แล้วเกิดโต้เถียงกับผู้เสียหายผู้เสียหายท้าทายจำเลยว่านักข่าวก็ตายได้เหมือนกันนักข่าวกระจอกนักข่าวกิ๊กก๊อกยังถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายจึงไม่ใช่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามป.อ.มาตรา72.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงผู้เสียหาย แม้มีอาวุธปืน แต่มีเหตุผลสมควรในการครอบครอง จึงลดโทษ
ตามคำพยานโจทก์ที่เบิกความต่อศาลปรากฏว่าไม่เห็นจำเลยยิงผู้เสียหายทั้งพวกของจำเลยก็มีถึงประมาณ10-20คนมีอาวุธปืนเกือบทุกคนเจ้าพนักงานผู้จับกุมจำเลยก็เบิกความว่าบาดแผลของผู้เสียหายเป็นแผลถูกกระสุนปืนลูกซองมิใช่กระสุนปืนเอ็ม 16ที่จำเลยถืออยู่พยานหลักฐานดังกล่าวจึงเชื่อว่าจำเลยมิได้ยิงผู้เสียหายและมิได้เกี่ยวข้องในการยิงแต่อย่างใดกรณีไม่อาจถือว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายด้วย จำเลยเป็นกรรมการวัดที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุทำหน้าที่รักษาความสงบอยู่ในงานที่วัดนั้นอาวุธปืนที่มีในขณะเกิดเหตุก็เป็นของทางราชการมอบให้กำนันไว้ปราบปรามโจรผู้ร้ายเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวศาลพิพากษารอการลงโทษความผิดฐานมีอาวุธปืนนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยถูกกล่าวหาพยายามฆ่าและมีอาวุธปืน แต่ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิง และให้โอกาสกลับตัว
ตามคำพยานโจทก์ที่เบิกความต่อศาลปรากฏว่าไม่เห็นจำเลยยิงผู้เสียหายทั้งพวกของจำเลยก็มีถึงประมาณ10-20คนมีอาวุธปืนเกือบทุกคนเจ้าพนักงานผุ้จับกุมจำเลยก็เบิกความว่าบาดแผลของผู้เสียหายเป็นแผลถูกกระสุนปืนลูกซองมิใช่กระสุนปืนเอ็ม16ที่จำเลยถืออยู่พยานหลักฐานดังกล่าวจึงเชื่อว่าจำเลยมิได้ยิงผู้เสียหายและมิได้เกี่ยวข้องในการยิงแต่อย่างใดกรณีไม่อาจถือว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายด้วย. จำเลยเป็นกรรมการวัดที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุทำหน้าที่รักษาความสงบอยู่ในงานที่วัดนั้นอาวุธปืนที่มีในขณะเกิดเหตุก็เป็นของทางราชการมอบให้กำนันไว้ปราบปรามโจรผู้ร้ายเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวศาลพิพากษารอการลงโทษความผิดฐานมีอาวุธปืนนั้น.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พิจารณาจากระยะเวลาระหว่างความขัดแย้ง เหตุการณ์ และการเตรียมการ
ท.และจำเลยเคยพิพาทกันเรื่องมรดกก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 ปี ในวันเกิดเหตุ ท. กับจำเลยทะเลาะกันอีกจำเลยพูดขู่จะฆ่า ท. ต่อมาจำเลยใช้ปืนยิง ท. ได้รับบาดเจ็บสาหัส และกระสุนปืนพลาดไปถูกผู้อื่นถึงแก่ความตาย ดังนี้ การที่ ท. และจำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนนั้นถือไม่ได้เสมอไปว่ามีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทั้งเหตุพิพาทเรื่องมรดกก็นานถึง 3 ปีมาแล้ว เหตุที่ทะเลาะกันในวันเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าเป็นเรื่องร้ายแรงถึงขนาดที่จะต้องเอาชีวิตกัน เหตุยิงกันก็เกิดหลังจากที่ได้ทะเลาะกันแล้วถึง 4 ชั่วโมงเศษ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้วางแผนเตรียมการเพื่อจะฆ่ามาก่อนแล้ว จะถือเอาการที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิง ท. ขณะที่นั่งคุยกันอยู่นั้นเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนยังไม่ถนัด จำเลยอาจคิดฆ่า ท. ขึ้นในขณะที่มาพบเห็น ท. ตอนหลังก็เป็นได้ จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พิจารณาจากระยะเวลาโกรธเคือง การเตรียมการ และสถานการณ์ขณะเกิดเหตุ
ท.และจำเลยเคยพิพาทกันเรื่องมรดกก่อนเกิดเหตุประมาณ3ปีในวันเกิดเหตุท.กับจำเลยทะเลาะกันอีกจำเลยพูดขู่จะฆ่าท.ต่อมาจำเลยใช้ปืนยิงท.ได้รับบาดเจ็บสาหัสและกระสุนปืนพลาดไปถูกผู้อื่นถึงแก่ความตายดังนี้การที่ท.และจำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนนั้นถือไม่ได้เสมอไปว่ามีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนทั้งเหตุพิพาทเรื่องมรดกก็นานถึง3ปีมาแล้วเหตุที่ทะเลาะกันในวันเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าเป็นเรื่องร้ายแรงถึงขนาดที่จะต้องเอาชีวิตกันเหตุยิงกันก็เกิดหลังจากที่ได้ทะเลาะกันแล้วถึง4ชั่วโมงเศษเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้วางแผนเตรียมการเพื่อจะฆ่ามาก่อนแล้วจะถือเอาการที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงท.ขณะที่นั่งคุยกันอยู่นั้นเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนยังไม่ถนัดจำเลยอาจคิดฆ่าท.ขึ้นในขณะที่มาพบเห็นท.ตอนหลังก็เป็นได้จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงทำร้ายร่างกาย แม้ยิงลงพื้น ศาลฎีกาพิพากษาว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย ผู้ยิงเล็งเห็นผลได้
จำเลยใช้ปืนยิงไปที่พื้นดินหนึ่งนัดในขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินไปหาจำเลยและอยู่ห่างจำเลยประมาณสองวาจำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายได้เมื่อกระสุนปืนถูกขาผู้เสียหายบาดเจ็บต้องถือว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายหาใช่เป็นการยิงขู่ไม่การกระทำของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นการป้องกันโดยชอบเพราะขณะนั้นผู้เสียหายยังไม่สามารถจะทำร้ายจำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
of 223