คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทปัญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,813 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1907/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายสุราเจือปนโดยไม่ปิดแสตมป์ แม้ไม่ใช่ผู้ผลิตก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.สุรา
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าจำเลยได้เอาน้ำเจือปนสุราแล้วนำออกวางขายในร้านโดยรู้ว่าต้องปิดแสตมป์สุราแค่ไม่ได้ปิด ดังนี้แม้จำเลยจะไม่ใช่เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ทำสุราก็ตาม จำเลยก็ไม่พ้นความผิดตามความในมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1907/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพ.ร.บ.สุรา แม้ไม่ใช่ผู้ผลิต: การเจือปนและจำหน่ายสุราโดยไม่ปิดแสตมป์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าจำเลยได้เอาน้ำเจือปนสุราแล้วนำออกวางขายในร้านโดยรู้ว่าต้องปิดแสตมป์สุราแต่ไม่ได้ปิด ดังนี้แม้จำเลยจะไม่ใช่เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ทำสุราก็ตาม จำเลยก็ไม่พ้นความผิดตามความในมาตรา 33 แห่ง พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1864-1865/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหมิ่นประมาทต้องระบุพฤติการณ์ประกอบ หากฟ้องไม่ชัดเจน ศาลมีอำนาจยกฟ้อง และห้ามฟ้องซ้ำ
การฟ้องว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ โดยโจทก์บรรยายฟ้องกล่าวถ้อยคำที่ไม่เป็นคำใส่ความอยู่ในตัว โจทก์จะต้องบรรยายถึงพฤติการณ์ประกอบมาเพื่อให้เห็นว่าเป็นคำใส่ความอย่างไร และความจริงเป็นอย่างใด เมื่อฟ้องไม่บรรยายเช่นนี้ศาลมีอำนาจยกฟ้องโดยถือว่าฟ้องขาดองค์สำคัญแห่งความผิด
เมื่อศาลสั่งยกฟ้องโดยเหตุผลว่าฟ้องของโจทก์ไม่มีมูลความผิด โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาไป จะมาฟ้องใหม่ไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ฟ้องคดีกรรมเดียวได้หลายครั้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1864-1865/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหมิ่นประมาทต้องบรรยายพฤติการณ์ประกอบคำกล่าวเพื่อให้เห็นว่าเป็นการใส่ความและความจริงเป็นอย่างไร
การฟ้องว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ โดยโจทก์บรรยายฟ้องกล่าวถ้อยคำที่ไม่เป็นคำใส่ความอยู่ในตัว โจทก์จะต้องบรรยายถึงพฤติการณ์ประกอบมาเพื่อให้เห็นว่าเป็นคำใส่ความอย่างไร และความจริงเป็นอย่างใด เมื่อฟ้องไม่บรรยายเช่นนี้ ศาลมีอำนาจยกฟ้องโดยถือว่าฟ้องขาดองค์สำคัญแห่งความผิด
เมื่อศาลสั่งยกฟ้องโดยเหตุผลว่าฟ้องของโจทก์ไม่มีมูลความผิดโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาไป จะมาฟ้องใหม่ไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ฟ้องคดีกรรมเดียวได้หลายครั้ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะเจ้าพนักงานก่อนมี พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2499 มีผลต่อความผิด ม.145 ก.ม.ลักษณะอาญา
จำเลยเป็นเลขาธิการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกฟ้องก่อนที่ใช้ พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2499 ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการอันไม่ควรทำ ละเว้นการอันไม่ควรละเว้น โดยเจตนาจะให้เกิดการเสียหายแก่โจทก์ซึ่งอ้างว่าผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.145 นั้น ไม่เป็นผิดเพราะก่อนใช้ พ.ร.บ.ธรรมศาสตร์ 2499 ถือว่าจำเลยเป็นพนักงานของนิติบุคคลธรรมดาไม่ใช่เจ้าพนักงานตาม มาตรา 145.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะเจ้าพนักงานมีผลต่อความผิดตามมาตรา 145 อาญา ต้องพิจารณาช่วงเวลาที่กระทำผิด
จำเลยเป็นเลขาธิการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกฟ้องก่อนที่ใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2499 ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการอันไม่ควรทำ ละเว้นการอันไม่ควรละเว้นโดยเจตนาจะให้เกิดการเสียหายแก่โจทก์ ซึ่งอ้างว่าผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 145 นั้นไม่เป็นผิด เพราะก่อนใช้พระราชบัญญัติธรรมศาสตร์ มาตรา 2499 ถือว่าจำเลยเป็นพนักงานของนิติบุคคลธรรมดาไม่ใช่เจ้าพนักงานตาม มาตรา 145

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลดหนี้ของผู้ค้ำประกันและการเรียกร้องหนี้ระหว่างผู้ค้ำประกันร่วม ผู้ค้ำประกันที่ได้รับการปลดหนี้แล้วไม่มีสิทธิเรียกร้องจากผู้ค้ำประกันร่วม
เมื่อเจ้าหนี้ได้ยอมปลดหนี้ตามส่วนของผู้ค้ำประกันลูกหนี้แล้ว หนี้ที่ผู้ค้ำประกันจะพึงต้องชำระก็ตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกร้องเอาแก่ผู้ค้ำประกันร่วมกันอีกคนหนึ่งเกินกว่าที่ต้องรับผิดไม่ได้
ผู้ค้ำประกันร่วมคนหนึ่งซึ่งยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนต้องรับผิดนั้น ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากผู้ค้ำประกันร่วมคนอื่นผู้ซึ่งเจ้าหนี้ได้ปลดหนี้ให้แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลดหนี้ผู้ค้ำประกันและการเรียกร้องหนี้ระหว่างผู้ค้ำประกันร่วม ผู้ค้ำประกันที่ได้รับการปลดหนี้แล้วไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ส่วนที่เหลือ
เมื่อเจ้าหนี้ได้ยอมปลดหนี้ตามส่วนของผู้ค้ำประกันลูกหนี้แล้ว หนี้ที่ผู้ค้ำประกันจะพึงต้องชำระก็ตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกร้องเอาแก่ผู้ค้ำประกันร่วมกันอีกคนหนึ่งเกินกว่าที่ต้องรับผิดไม่ได้
ผู้ค้ำประกันร่วมคนหนึ่งซึ่งยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนต้องรับผิดนั้น ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากผู้ค้ำประกันร่วมคนอื่นผู้ซึ่งเจ้าหนี้ได้ปลดหนี้ให้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ชำระหนี้จากการกู้ยืม - อำนาจการให้กู้เป็นเรื่องภายในของบริษัท
เมื่อจำเลยกู้เงินของบริษัทโจทก์ไป ถึงกำหนดชำระคืนก็มีหน้าที่ต้องใช้เงินให้ จะโต้เถียงอำนาจของผู้ให้กู้ไม่ได้
การที่บริษัทจำกัดใดจะมีอำนาจให้จำเลยกู้ได้หรือไม่เป็นเรื่องของทางราชการจะว่ากล่าว ไม่เกี่ยวกับผู้กู้เงินไปจากบริษัท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1717/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองห้องเช่าก่อนสัญญาใหม่: โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยผู้ครอบครองก่อนไม่ได้ หากไม่รวมเจ้าของเดิม
จำเลยได้ครอบครองห้องพิพาทอยู่ก่อนที่โจทก์ได้ทำสัญญาเช่าจากเจ้าของเดิม เมื่อจำเลยไม่ยอมให้โจทก์เข้าครอบครองกรณีต้องด้วย ป.พ.พ. มาตรา 477,549 ซึ่งถ้าโจทก์ไม่ขอให้ศาลเรียกเจ้าของเดิมเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมในคดีแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยโดยลำพังได้.
of 282