พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,813 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกที่ดินพิพาท ศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อย ศาลฎีกาพิพากษายืนตาม
คดีพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดินราคา 2,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ร้องได้ 2 ส่วน ผู้คัดค้านได้ 1 ส่วน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ผู้ร้องและผู้คัดค้านได้คนละส่วน เช่นนี้ถือว่าเป็นการแก้น้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากสัญญาเช่าเรือและผลกระทบจากความประมาทเลินเล่อของนายท้ายเรือ
คดีพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดินราคา 2,000 บาทศาลชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ร้องได้ 2 ส่วน ผู้คัดค้านได้1 ส่วน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ผู้ร้องและผู้คัดค้านได้คนละส่วน เช่นนี้ถือว่าเป็นการแก้น้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ฐานะการอยู่อาศัยเป็นสำคัญ หากฟังว่าไม่ใช่การอาศัยตามฟ้อง โจทก์ย่อมแพ้คดี
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากโรงเรือนโดยอ้างว่าจำเลยอาศัย เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเข้าอยู่โดยไม่ใช่อาศัย แต่อยู่เพราะข้อสัญญาที่โจทก์จะโอนสิทธิการเช่าให้จำเลย แล้วกลับไม่โอน เช่นนี้ ศาลชอบที่จะยกฟ้องเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2114/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิในที่ดินต้องมีบนพื้นดินก่อน จึงจะขยายไปยังเหนือและใต้ดินได้
อันว่าแดนกรรมสิทธิตาม มาตรา 1335 นั้น ชั้นแรกจำต้องมีกรรมสิทธิบนพื้นดินเสียก่อน แดนแห่งกรรมสิทธิที่ดินจึงจะกินถึงทั้งเหนือพิ้นดินและใต้พื้นดินด้วย (อ้างฎีกาที่ 266/2483)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2114/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิที่ดินต้องมีบนพื้นดินก่อน แดนกรรมสิทธิจึงครอบคลุมเหนือและใต้ดิน
อันว่าแดนกรรมสิทธิตาม ม.1335 นั้น ชั้นแรกจำต้องมีกรรมสิทธิบนพื้นดินเสียก่อน แดนแห่งกรรมสิทธิที่ดินจึงจะกินถึงทั้งเหนือพื้นดินและใต้พื้นดินด้วย
(อ้างฎีกาที่ 266/2483).
(อ้างฎีกาที่ 266/2483).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046-2047/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับสิทธิรถทางร่วม: รถจากใต้ไปเหนือมีสิทธิก่อนรถจากตะวันออกไปตะวันตก
ตรงที่ถนนสองถนนตัดทับกันนั้นคือทางร่วม รถที่แล่นตามถนนจากทิศใต้ไปเหนือเมื่อมาถึงตรงที่ถนนตัดกันนั้นย่อมเป็นรถทางซ้ายของรถที่แล่นมาจากทิศตะวันออกมาตะวันตก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046-2047/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการใช้ทางร่วม: รถทางซ้ายมีสิทธิก่อน ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
ตรงที่ถนนสองถนนตัดทับกันนั้นคือทางร่วม รถที่แล่นตามถนนจากทิศใต้ไปเหนือเมื่อมาถึงตรงที่ถนนตัดกันนั้นย่อมเป็นรถทางซ้ายของรถที่แล่นมาจากทิศตะวันออกมาตะวันตก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานลักทรัพย์ของคู่ความสัมพันธ์ที่ไม่จดทะเบียนสมรส และการยกฎีกาที่คัดค้านข้อเท็จจริง
คำว่า "สามีภรรยา" ตาม กฎหมายอาญา มาตรา 54 กฎหมายมิได้บัญญัติไว้ว่าพฤติการณ์เช่นไร กฎหมายอาญายอมรับนับถือว่าเป็นสามีภรรยากัน ฉะนั้นโดยปกติต้องอาศัย ป.พ.พ.ที่ใช้อยู่ในขณะทำผิดเป็นหลักกล่าวคือต้องได้มีการจดทะเบียนสมรสแล้ว
ชายหญิงที่ได้เสียกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสแล้วภายหลังฝ่ายหนึ่งเอาทรัพย์ของอีกฝ่ายหนึ่งไป ดังนี้ต้องอาศัยเจตนาเป็นหลักว่ามีเถยจิตลักทรัพย์หรือไม่
เมื่อจำเลยไม่ใช่สามีตาม มาตรา 54 และในเรื่องเจตนานี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงในคดีนี้ว่าจำเลยเจตนาลักทรัพย์แล้ว ฎีกาของจำเลยในเรื่องว่าไม่มีความผิดตาม มาตรา 54 ในข้อนี้จึงเป็นฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ชายหญิงที่ได้เสียกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสแล้วภายหลังฝ่ายหนึ่งเอาทรัพย์ของอีกฝ่ายหนึ่งไป ดังนี้ต้องอาศัยเจตนาเป็นหลักว่ามีเถยจิตลักทรัพย์หรือไม่
เมื่อจำเลยไม่ใช่สามีตาม มาตรา 54 และในเรื่องเจตนานี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงในคดีนี้ว่าจำเลยเจตนาลักทรัพย์แล้ว ฎีกาของจำเลยในเรื่องว่าไม่มีความผิดตาม มาตรา 54 ในข้อนี้จึงเป็นฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์ของสามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ต้องพิจารณาเจตนาและหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย
คำว่า "สามีภรรยา" ตาม ก.ม. อาญา ม.54 ก.ม.มิได้บัญญัติไว้ว่าพฤติการณ์เช่นไร ก.ม.อาญายอมรับนับถือว่าเป็นสามีภรรยากันฉนั้นโดยปกติต้องอาศัย ป.พ.พ. ที่ใช้อยู่ในขณะทำผิดเป็นหลักกล่าวคือต้องได้มีการจดทะเบียนสมรสแล้ว
ชายหญิงที่ได้เสียกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสแล้วภายหลังฝ่ายหนึ่งเอาทรัพย์ของอีกฝ่ายหนึ่งไป ดังนี้ต้องอาศัยเจตนาเป็นหลักว่ามีเถยจิตลักทรัพย์หรือไม่
เมื่อจำเลยไม่ใช่สามีตาม ม.54 และในเรื่องเจตนานี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงในคดีนี้ว่าจำเลยเจตนาลักทรัพย์แล้ว ฎีกาของจำเลยในเรื่องว่าไม่มีความผิดตาม ม.54 ในข้อนี้จึงเป็นฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.220.
ชายหญิงที่ได้เสียกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสแล้วภายหลังฝ่ายหนึ่งเอาทรัพย์ของอีกฝ่ายหนึ่งไป ดังนี้ต้องอาศัยเจตนาเป็นหลักว่ามีเถยจิตลักทรัพย์หรือไม่
เมื่อจำเลยไม่ใช่สามีตาม ม.54 และในเรื่องเจตนานี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงในคดีนี้ว่าจำเลยเจตนาลักทรัพย์แล้ว ฎีกาของจำเลยในเรื่องว่าไม่มีความผิดตาม ม.54 ในข้อนี้จึงเป็นฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.220.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1976/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของประกาศยกเลิกการควบคุมราคา: เวลามีผลตั้งแต่ต้นวันประกาศ
ประกาศของคณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรให้ยกเลิกการควบคุมราคาสินค้านั้น เมื่อไม่ปรากฏเวลาที่ประกาศ ประกาศนั้นย่อมมีผลตั้งแต่เวลาเริ่มต้นของวันที่ๆ ลงในประกาศ โจทก์จะขอสืบเวลาจริงๆที่มีประกาศเป็นประการอื่นไม่ได้