พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,813 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ยื่นฟ้องก่อนแก้กฎหมายวิธีพิจารณา ต้องใช้กฎหมายเดิมบังคับ หากส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ให้จำหน่ายคดี
คดีที่ได้ยื่นฟ้องฎีกาก่อนวันประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาที่แก้ไขใหม่นั้น ต้องใช้ประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาที่ใช้อยู่เดิมบังคับ.เมื่อส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ ต้องจำหน่ายคดี.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจจัดการทรัพย์มรดก: การเช่าที่ดินเพิ่มเติมเกินกว่าการเก็บค่าเช่าเดิม
โจทก์จำเลยตกลงกันในระหว่างการพิจารณาในคดีที่พิพาทกันเรื่องมรดกว่าโจทก์จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องเก็บผลประโยชน์จากทรัพย์สินกองมรดก ยอมให้จำเลยที่ 1 เก็บและจัดการไปฝ่ายเดียวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ถ้าจำเลยแพ้คดีและต้องส่งเงินผลประโยชน์ให้กองมรดกแล้วจำเลยไม่มีส่งก็ให้ศาลบังคับเอาจากผู้ค้ำประกันได้ในวงเงินสองแสนบาทนั้น ข้อตกลงดังกล่าวนี้ไม่กินความไปถึงว่าให้จำเลยมีอำนาจให้บุคคลอื่นเช่าที่ดินกองมรดกปลูกสร้างอาคารเพิ่มเติมขึ้นอีกเพราะคำว่า ให้จำเลยเก็บผลประโยชน์และจัดการไปฝ่ายเดียวนั้น หมายความเฉพาะเรื่องให้จำเลยเก็บเงินผลประโยชน์จากทรัพย์สินของกองมรดกในระหว่างคดีเป็นการชั่วคราวเท่านั้น
โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งอ้างว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลซึ่งอนุญาตให้จำเลยเป็นเพียงผู้เก็บค่าเช่า แต่กลับให้บุคคลอื่นเช่าที่ดินมรดกปลูกสร้างอาคารเพิ่มเติมภายหลัง แล้วเก็บเงินค่าเช่าและเงินกินเปล่าเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเอง ฝ่ายจำเลยแถลงว่าจำเลยให้บุคคลเช่าที่ดินปลูกสร้างอาคารนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควรได้ตามข้อตกลงนั้นแล้วเช่นนี้ เมื่อศาลมีคำสั่งในเรื่องนี้อย่างใด ถือว่าคำสั่งนี้เป็นคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างการพิจารณา และเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาด้วย คำสั่งของศาลดังกล่าวนี้ คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้ภายในกำหนด 1 เดือนตาม ป.วิ.แพ่ง ม.228 วรรค 2
โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งอ้างว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลซึ่งอนุญาตให้จำเลยเป็นเพียงผู้เก็บค่าเช่า แต่กลับให้บุคคลอื่นเช่าที่ดินมรดกปลูกสร้างอาคารเพิ่มเติมภายหลัง แล้วเก็บเงินค่าเช่าและเงินกินเปล่าเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเอง ฝ่ายจำเลยแถลงว่าจำเลยให้บุคคลเช่าที่ดินปลูกสร้างอาคารนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควรได้ตามข้อตกลงนั้นแล้วเช่นนี้ เมื่อศาลมีคำสั่งในเรื่องนี้อย่างใด ถือว่าคำสั่งนี้เป็นคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างการพิจารณา และเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาด้วย คำสั่งของศาลดังกล่าวนี้ คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้ภายในกำหนด 1 เดือนตาม ป.วิ.แพ่ง ม.228 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจจัดการทรัพย์สินมรดก: ข้อตกลงจำกัดเฉพาะการเก็บค่าเช่าเดิม, ไม่รวมถึงการให้เช่าเพิ่มเติม
โจทก์จำเลยตกลงกันในระหว่างการพิจารณาในคดีที่พิพาทกันเรื่องมรดกว่าโจทก์จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องเก็บผลประโยชน์จากทรัพย์สินกองมรดกยอมให้จำเลยที่ 1 เก็บและจัดการไปฝ่ายเดียวจนกว่าคดีจะถึงที่สุดถ้าจำเลยแพ้คดีและต้องส่งเงินผลประโยชน์ให้กองมรดกแล้วจำเลยไม่มีส่งก็ให้ศาลบังคับเอาจากผู้ค้ำประกันได้ในวงเงินสองแสนบาทนั้นข้อตกลงดังกล่าวนี้ไม่กินความไปถึงว่าให้จำเลยมีอำนาจให้บุคคลอื่นเช่าที่ดินกองมรดกปลูกสร้างอาคารเพิ่มเติมขึ้นอีกเพราะคำว่าให้จำเลยเก็บผลประโยชน์และจัดการไปฝ่ายเดียวนั้นหมายความเฉพาะเรื่องให้จำเลยเก็บเงินผลประโยชน์จากทรัพย์สินของกองมรดกในระหว่างคดีเป็นการชั่วคราวเท่านั้น
โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งอ้างว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลซึ่งอนุญาตให้จำเลยเพียงเป็นผู้เก็บค่าเช่าแต่กลับให้บุคคลอื่นเช่าที่ดินมรดกปลูกสร้างอาคารเพิ่มเติมขึ้นภายหลัง แล้วเก็บเงินค่าเช่าและเงินกินเปล่าเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเองฝ่ายจำเลยแถลงว่าจำเลยให้บุคคลเช่าที่ดินปลูกสร้างอาคารนั้นเพื่อให้เกิดผลประโยชน์เท่าที่ควรได้ตามข้อตกลงนั้นแล้วเช่นนี้เมื่อศาลมีคำสั่งในเรื่องนี้อย่างใด ถือว่าคำสั่งนี้เป็นคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างการพิจารณา และเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาด้วยคำสั่งของศาลดังกล่าวนี้คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้ภายในกำหนด 1 เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228 วรรคสอง
โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งอ้างว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลซึ่งอนุญาตให้จำเลยเพียงเป็นผู้เก็บค่าเช่าแต่กลับให้บุคคลอื่นเช่าที่ดินมรดกปลูกสร้างอาคารเพิ่มเติมขึ้นภายหลัง แล้วเก็บเงินค่าเช่าและเงินกินเปล่าเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเองฝ่ายจำเลยแถลงว่าจำเลยให้บุคคลเช่าที่ดินปลูกสร้างอาคารนั้นเพื่อให้เกิดผลประโยชน์เท่าที่ควรได้ตามข้อตกลงนั้นแล้วเช่นนี้เมื่อศาลมีคำสั่งในเรื่องนี้อย่างใด ถือว่าคำสั่งนี้เป็นคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างการพิจารณา และเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาด้วยคำสั่งของศาลดังกล่าวนี้คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้ภายในกำหนด 1 เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกทรัพย์สิน (ห้องแถว) โดยไม่รวมที่ดิน การเพิกถอนพินัยกรรมเฉพาะส่วน และสิทธิในทรัพย์มรดก
เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ยกให้นั้นเมื่อข้อความในสัญญาบางแห่งใช้คำว่า "ห้องแถว" บางแห่งใช้คำว่า "ที่ห้องแถว" คงหมายความว่า "ห้องแถว" ไม่ได้หมายความถึงที่ดินด้วยประกอบกับการทำนิติกรรมยกให้ต่อกรมการอำเภอก็แสดงว่ายกให้แต่เฉพาะห้องแถว ถ้ายกให้ทั้งที่ดินซึ่งมีโฉนดแล้วด้วยก็ต้องไปทำนิติกรรมและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินหรือผู้ทำการแทน มิฉะนั้นการยกให้ไม่สมบูรณ์
เมื่อทรัพย์ส่วนใดในพินัยกรรม ผู้ทำพินัยกรรมกลับใจยกให้แก่ผู้อื่นไปทรัพย์ส่วนนั้นก็ถูกเพิกถอนไปเท่านั้นเอง พินัยกรรมไม่เสียไปทั้งฉบับ.
เมื่อทรัพย์ส่วนใดในพินัยกรรม ผู้ทำพินัยกรรมกลับใจยกให้แก่ผู้อื่นไปทรัพย์ส่วนนั้นก็ถูกเพิกถอนไปเท่านั้นเอง พินัยกรรมไม่เสียไปทั้งฉบับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกทรัพย์สิน (ห้องแถว) โดยไม่รวมที่ดิน การเพิกถอนพินัยกรรม และสิทธิในการจัดการมรดก
เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ยกให้นั้นเมื่อข้อความในสัญญาบางแห่งใช้คำว่า'ห้องแถว'บางแห่งใช้คำว่า'ที่ห้องแถว' และเมื่อพิเคราะห์ข้อความในสัญญาโดยตลอดแล้วเห็นว่า'ที่ห้องแถว' คงหมายความว่า'ห้องแถว' ไม่ได้หมายความถึงที่ดินด้วยประกอบกับการทำนิติกรรมยกให้ต่อกรมการอำเภอก็แสดงว่ายกให้แต่เฉพาะห้องแถว ถ้ายกให้ทั้งที่ดินซึ่งมีโฉนดแล้วด้วยก็ต้องไปทำนิติกรรมและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินหรือผู้ทำการแทน มิฉะนั้นการยกให้ไม่สมบูรณ์
เมื่อทรัพย์ส่วนใดในพินัยกรรมผู้ทำพินัยกรรมกลับใจยกให้แก่ผู้อื่นไปทรัพย์ส่วนนั้นก็ถูกเพิกถอนไปเท่านั้นเองพินัยกรรมไม่เสียไปทั้งฉบับ
เมื่อทรัพย์ส่วนใดในพินัยกรรมผู้ทำพินัยกรรมกลับใจยกให้แก่ผู้อื่นไปทรัพย์ส่วนนั้นก็ถูกเพิกถอนไปเท่านั้นเองพินัยกรรมไม่เสียไปทั้งฉบับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตแก้ฟ้อง: เหตุอันควร, จำเลยไม่หลงผิด, แก้ฟ้องได้แม้หลังสืบพยาน
ศาลไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องเพราะไม่แสดงเหตุอันควร แต่ในวันเดียวกันนั้นเอง โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องอีกโดยอ้างเหตุอันควรแม้จะยื่นภายหลังที่สืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว เมื่อจำเลยมิได้หลงผิดข้อต่อสู้คดี ก็มีเหตุสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษจำคุกในสำนวนควบ การฎีกาต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.218 หากเป็นการแก้ไขเล็กน้อย
จะนับโทษต่อให้หรือไม่นั้นเป็นดุลยพินิจของศาล
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะในข้อที่ให้นับโทษจำคุกจำเลยสองสำนวนควบกันไปโดยไม่นับโทษติดต่อกันนั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อาญา ม.218
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะในข้อที่ให้นับโทษจำคุกจำเลยสองสำนวนควบกันไปโดยไม่นับโทษติดต่อกันนั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อาญา ม.218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกควบกันหรือไม่ เป็นดุลพินิจศาลอุทธรณ์ ฎีกาต้องห้ามหากเป็นการแก้ไขเล็กน้อย
จะนับโทษต่อให้หรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของศาล
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะในข้อที่ให้นับโทษจำคุกจำเลยสองสำนวนควบกันไปโดยไม่นับโทษติดต่อกันนั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะในข้อที่ให้นับโทษจำคุกจำเลยสองสำนวนควบกันไปโดยไม่นับโทษติดต่อกันนั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกควบกัน ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อย โจทก์ฎีกาไม่ได้
การที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลยพินิจให้นับโทษจำคุกจำเลยสองสำนวนควบกันไปโดยไม่นับโทษติดต่อกันถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย โจทก์จะฎีกาโต้แย้งในเรื่องการขอให้นับโทษต่อไม่ได้ เพราะต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.218 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกควบกัน: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาที่โต้แย้งการใช้ดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ในการนับโทษ
การที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจให้นับโทษจำคุกจำเลยสองสำนวนควบกันไปโดยไม่นับโทษติดต่อกันถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อยโจทก์จะฎีกาโต้แย้งในเรื่องการขอให้นับโทษต่อไม่ได้เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย