คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทปัญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,813 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฉุดคร่าห์เพื่อแต่งงานโดยความยินยอม: การกระทำไม่ถึงขั้นเป็นความผิดฐานฉุดคร่าห์เพื่ออนาจาร
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าผู้เสียหายสมัครใจแต่งงานกับจำเลย แต่เพื่อปิดบังบิดามารดาจึงนัดหมายให้จำเลยมาฉุดคร่าห์ไปให้พ้นเขตที่จะต้องขอความยินยอมของบิดาผู้เสียหายตามประเพณี ดังนี้การที่จำเลยฉุดแขนผู้เสียหายไปนั้นจึงไม่เป็นผิดฐานฉุดคร่าห์เพื่อการอนาจารตาม ม.276.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉุดคร่าเพื่ออนาจาร: การกระทำที่เป็นพิธีแต่งงานตามประเพณี ไม่เข้าข่ายความผิด
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าผู้เสียหายสมัครใจแต่งงานกับจำเลยแต่เพื่อปิดบังบิดาจึงนัดหมายให้จำเลยมาฉุดคร่าไปให้พ้นเขตที่จะต้องขอความยินยอมของบิดาผู้เสียหายตามประเพณีดังนี้การที่จำเลยฉุดแขนผู้เสียหายไปนั้นจึงไม่เป็นผิดฐานฉุดคร่าเพื่อการอนาจาร มาตรา 276

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำเรื่องแบ่งมรดก: ศาลพิพากษาแล้ว แม้มิได้อุทธรณ์ ก็ถือเป็นคำพิพากษาเด็ดขาด
ได้ความว่าเดิมโจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกที่ดิน 3 โฉนดจากจำเลยศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งที่ดินสองโฉนดตามขอส่วนที่ดินอีกโฉนดหนึ่งที่โจทก์ขอแบ่งนั้นจำเลยให้การว่าหมายเลขโฉนดมิใช่หมายเลขดั่งที่โจทก์ระบุมาในฟ้องโจทก์ทราบแล้วมิได้ขอแก้ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยอย่างไรศาลชั้นต้นจึงไม่พิพากษาให้แบ่งเพราะจะเป็นการเกินคำขอโจทก์มิได้อุทธรณ์ในข้อนี้ต่อมาโจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ขึ้นอีกขอให้แบ่งที่ดินตามหมายเลขโฉนดที่จำเลยให้การระบุไว้ไม่ตรงในฟ้องคดีแรกโดยอ้างว่าคดีก่อนโจทก์อ้างเลขโฉนดผิดไปและมิได้ขอแก้ฟ้องเช่นนี้ถือว่าฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีก่อนและคดีนี้คู่ความเป็นคนคนเดียวกัน พิพาทกันเรื่องขอแบ่งมรดกที่ดินแปลงพิพาทนี้แปลงเดียวกันนั่นเอง หากโจทก์ฟ้องอ้างเลขโฉนดผิดไปศาลชั้นต้นไม่แบ่งให้เพราะจะเป็นการเกินคำขอของโจทก์โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์จะว่าศาลชั้นต้นไม่ได้พิพากษาเด็ดขาดในเรื่องการแบ่งไม่ได้เพราะศาลชั้นต้นพิพากษาไม่แบ่งนั้นเป็นคำพิพากษาแล้วและถ้าไม่เป็นที่พอใจของคู่ความฝ่ายใดฝ่ายนั้นย่อมอุทธรณ์หรือฎีกาต่อไปได้ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงต้องห้ามมิให้ฟ้องอีกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำเรื่องแบ่งมรดก: ศาลพิพากษาแล้ว แม้ไม่ได้อุทธรณ์ ก็ถือเป็นคำพิพากษาเด็ดขาด
ได้ความว่าเดิมโจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกที่ดิน 3 โฉนดจากจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งที่ดินสองโฉนดตามขอ ส่วนที่ดินอีกโฉนดหนึ่งที่โจทก์ขอแบ่งนั้น จำเลยให้การว่าหมายเลขโฉนดมิใช่หมายเลขดั่งที่โจทก์ระบุมาในฟ้อง โจทก์ทราบแล้วมิได้ขอแก้ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยอย่างไร ศาลชั้นต้นจึงไม่พิพากษาให้แบ่งเพราะจะเป็นการเกินคำขอ โจทก์มิได้อุทธรณ์ในข้อนี้ ต่อมาโจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ขึ้นอีกขอให้แบ่งที่ดินตามหมายเลขโฉนดที่จำเลยให้การระบุไว้ไม่ตรงกับที่โจทก์ระบุในฟ้องคดีแรกโดยอ้างว่าคดีก่อนโจทก์อ้างเลขโฉนดผิดไปและมิได้ขอแก้ฟ้อง เช่นนี้ถือว่าฟ้องของโจทก์ในคดีเป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีก่อนและคดีนี้คู่ความเป็นคนคนเดียวกัน พิพาทกันเรื่องขอแบ่งมรดกที่ดินแปลงพิพาทนี้แปลงเดียวกันนั่นเอง หากโจทก์ฟ้องอ้างเลขโฉนดผิดไป ศาลชั้นต้นไม่ได้พิพากษาเด็ดขาดในเรื่องการแบ่งไม่ได้ เพราะศาลชั้นต้นพิพากษาไม่แบ่งนั้นเป็นคำพิพากษาแล้วและถ้าไม่เป็นที่พอใจของคู่ความฝ่ายใด ฝ่ายนั้นย่อมอุทธรณ์หรือฎีกาต่อไปได้ ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงต้องห้ามมิให้ฟ้องอีกตาม ป.วิ.แพ่ง ม.148.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลตาม ม.24 มิใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา เปิดทางให้อุทธรณ์ได้ หากศาลชี้ขาดแล้วแต่ไม่เป็นไปตามที่ร้องขอ
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิ์จำเลยโต้แย้งว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครอง
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชี้ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24ว่าคำให้การจำเลย จำเลยไม่ได้ต่อสู้ว่าจำเลยมีเจตนาเป็นเจ้าของฉะนั้นจำเลยจึงไม่มีประเด็นจะนำสืบในข้อจำเลยมีเจตนาเป็นเจ้าของจำเลยไม่มีทางชนะคดี
ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำสืบก่อนโจทก์คัดค้าน ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำให้การของจำเลยมีข้อต่อสู้ในข้อจำเลยครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของส่วนหน้าที่นำสืบนั้นศาลสั่งชอบแล้ว
คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งตาม มาตรา 24 ไม่ใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องทุกข์ในคดีฉ้อโกง: ผู้ว่าฯ คนใหม่มีอำนาจร้องทุกข์แทนผู้เสียหายเดิม
ผู้ว่าราชการจังหวัดถูกฉ้อโกงหลงเชื่อสั่งจ่ายเงินซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ไป เมื่อย้ายผู้ว่าราชการคนเก่าไปแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่โดยตำแหน่งย่อมเป็นผู้เสียหายมีสิทธิร้องทุกข์ให้เอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้
การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีนั้นถือได้ว่าเป็นการร้องทุกข์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการใช้สากตำข้าวทำร้ายถึงแก่ความตาย แม้เหตุเกิดตะวันตกดินแต่ยังไม่มืดดีก็เป็นเวลากลางคืนตามกฎหมาย
ตะวันตกดินแล้ว แม้จะยังไม่มืดดี ก็เป็นเวลากลางคืนตามกฎหมายแล้ว
ใช้สากตำข้าวโตขนาดวัดผ่าศูนย์กลาง 8 เซ็นติเมตร ยาว 64 เซ็นติเมตรและวัดโดยรอบได้27เซ็นติเมตรตีศีรษะถึง 2 ที จนกระโหลกศีรษะแตกทะลุถึงมันสมองต่อมาไม่นานผู้ตายก็ถึงแก่ความตายย่อมแสดงว่า จำเลยเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องการขุดมันสำปะหลังในที่ดินโฉนดร่วม ศาลต้องฟังพยานทั้งสองฝ่ายเพื่อวินิจฉัยความผิด
ตามฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยตลอดจนข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยแถลงรับกันฟังได้ว่ามันสัมปะหลังที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยขุดลักเอาไปตามฟ้องนั้นปลูกไว้ในที่ดินมีโฉนดซึ่งมีชื่อของจำเลยและนางอัวมารดาผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยถือกรรมสิทธิร่วมกัน นางอัวตายแล้วผู้เสียหายถือว่าที่ดินเป็นมรดกตกได้แก่ผู้เสียหาย ส่วนมันสำปะหลังผู้เสียหายและจำเลยต่างเกี่ยงกันว่าตนเป็นผู้ปลูกเช่นนี้จะงดสืบพยานและพิพากษายกฟ้อง โดยถือว่าจำเลยไม่มีเถยยะจิตเป็นโจรยังไม่ได้ มูลคดียังไม่พอวินิจฉัยชี้ชาดว่าจำเลยได้ทำผิดดังข้อหาหรือไม่จึงจำเป็นต้องฟังคำพยานทั้งสองฝ่ายให้สิ้นกระแสความก่อน.
เพราะเถียงกันว่าใครเป็นผู้ปลูกมันสำปะหลัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์: จำเป็นต้องรับฟังพยานทั้งสองฝ่ายเพื่อวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ตามฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยตลอดจนข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยแถลงรับกันฟังได้ว่ามันสัมปะหลังที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยขุดลักเอาไปตามฟ้องนั้นปลูกไว้ในที่ดินมีโฉนดซึ่งมีชื่อของจำเลยและนางอัวมารดาผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันนางอัวตายแล้วผู้เสียหายถือว่าที่ดินเป็นมรดกตกได้แก่ผู้เสียหาย ส่วนมันสัมปะหลังผู้เสียหายและจำเลยต่างเกี่ยงกันว่าตนเป็นผู้ปลูกเช่นนี้จะงดสืบพยานและพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าจำเลยไม่มีเถยจิตเป็นโจรยังไม่ได้มูลคดียังไม่พอวินิจฉัยชี้ขาดว่าจำเลยได้ทำผิดดังข้อหาหรือไม่จึงจำเป็นต้องฟังคำพยานทั้งสองฝ่ายให้สิ้นกระแสความก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมในสัญญาประนีประนอม: หน้าที่การนำสืบและประเด็นการโต้เถียงที่ต้องยกขึ้นตั้งแต่ชั้นต้น
ตามฟ้องของโจทก์ตั้งประเด็นมาว่าภรรยาโจทก์ไปทำสัญญาประนีประนอมกับจำเลยโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ฝ่ายจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์รู้เห็นยินยอมด้วยแล้วข้อโต้เถียงกันเช่นนี้หน้าที่นำสืบต้องตกอยู่แก่จำเลยต้องนำสืบว่าโจทก์ได้รู้เห็นยินยอม
ในเรื่องการยินยอมของโจทก์มิได้มีหนังสือใช้ไม่ได้ตามมาตรา1476เมื่อโจทก์มิได้ยกเป็นประเด็นโต้เถียงมาแต่ศาลชั้นต้น โจทก์เพิ่งมายกปัญหาข้อนี้โต้เถียงมาในชั้นอุทธรณ์และในชั้นฎีกาศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้
of 282