คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1500

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 62 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 1509 การผัดผ่อนไม่ทำให้ขยายอายุความ
เหตุขอหย่าตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1500(2) นั้น เมื่อไม่ได้ยกขึ้นอ้างฟ้องร้องเสียในกำหนด 3 เดือนสิทธิฟ้องร้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1509
การที่โจทก์ยอมให้จำเลยผัดไปโดยอ้างว่า จำเลยขอผัดผ่อนไว้(ขอผัดการหย่า อย่าเพิ่งฟ้องร้อง) ย่อมไม่เป็นเหตุที่จะกระทำให้อายุความตาม กฎหมายในเรื่องนี้ยืดออกไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1339/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทานบนที่ทำกับบุคคลที่ไม่ได้เป็นสามีภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นผลผูกพันบังคับได้ และศาลไม่แก้ไขคำพิพากษาเดิมเมื่อจำเลยไม่ฎีกา
ฟ้องขอหย่าและให้ริบทรัพย์โดยอ้างว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิดทานบล เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยไม่เป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วย ก.ม.แล้ว เรื่องผิดทานบลจึงเป็นเพียงข้อตกลงกันตามธรรมดา เมื่อไม่มีมูลหนี้ผูกพันกันตาม ก.ม.ก็บังคับกันไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ริบทรัพย์จำเลยตามทานบนเมื่อศาลวินิจฉัยว่าทานบนใช้บังคับไม่ได้ คดีก็ไม่มีประเด็นว่าจะแบ่งทรัพย์กันเพียงใดหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้ง ศาลฎีกาย่อมไม่แก้ไข.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1339/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทานบนหลังไม่จดทะเบียนสมรส: ข้อตกลงธรรมดา ไม่ผูกพันทางกฎหมาย, ศาลไม่แก้ไขคำพิพากษาแบ่งทรัพย์ที่โจทก์ไม่ฎีกา
ฟ้องขอหย่าและให้ริบทรัพย์โดยอ้างว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิดทัณฑ์บน เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยไม่เป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เรื่องผิดทัณฑ์บนจึงเป็นเพียงข้อตกลงกันตามธรรมดา เมื่อไม่มีมูลหนี้ผูกพันกันตามกฎหมายก็บังคับกันไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ริบทรัพย์จำเลยตามทัณฑ์บนเมื่อศาลวินิจฉัยว่าทัณฑ์บนใช้บังคับไม่ได้ คดีก็ไม่มีประเด็นว่าจะแบ่งทรัพย์กันเพียงใดหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้ง ศาลฎีกาย่อมไม่แก้ไข

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าเนื่องจากการละทิ้งและประกอบพิธีสมรสใหม่ ถือเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้
สามีแยกกับภรรยาเดิมไปประกอบพิธีแต่งงานกับหญิงอื่นใหม่เช่นนี้เป็นการกระทำแสดงออกชัดว่าสามีสละละทิ้งภรรยาเด็ดขาดไปแล้ว กล่าวคือถ้าจำเลยไม่รับรองต่อภรรยาคนใหม่ว่าเลิกกับภรรยาเดิมเด็ดขาดแล้วภรรยาคนใหม่และผู้ปกครองจะไม่ประกอบพิธีให้ หากเป็นการที่จำเลยตั้งใจกล่าวเท็จแก่ภรรยาคนใหม่ให้หลงเข้าใจผิดก็เป็นการกระทำที่เย้ยหยันแก่ภรรยาเดิมให้ได้รับความอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ก็ดี และการที่ภรรยาใหม่อยู่กินกับสามียังบ้านเรือนสามีก็เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันระหว่างสามีกับภรรยาเดิมอย่างร้ายแรงก็ดี ทั้งหลายนี้เป็นเหตุให้ภรรยาฟ้องหย่าได้ อนึ่งแม้จะปรากฏภายหลังว่าภรรยาคนใหม่ได้ละทิ้งสามีไปเสียแล้วก็หาใช่ความดีของสามีที่จะนำมาเป็นเหตุแก้ตัวได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าเนื่องจากสามีมีภรรยาใหม่และละทิ้งโจทก์ แสดงเจตนาสละภรรยาเดิม
สามีแยกกับภรรยาเดิมไปประกอบพิธีแต่งงานกับหญิงอื่นใหม่เช่นนี้เป็นการกระทำแสดงออกชัดว่าสามีสละละทิ้งภรรยาเด็ดขาดไปแล้ว กล่าวคือถ้าจำเลยไม่รับรองต่อภรรยาคนใหม่ว่าเลิกกับภรรยาเดิมเด็ดขาดแล้ว ภรรยาคนใหม่และผู้ปกครองจะไม่ประกอบพิธีให้ หากเป็นการที่จำเลยตั้งใจกล่าวเท็จแก่ภรรยาคนใหม่ให้หลงเข้าใจผิดก็เป็นการกระทำที่เย้ยหยันแก่ภรรยาเดิมให้ได้รับความอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ก็ดี และการที่ภรรยาใหม่อยู่กินกับสามียังบ้านเรือนสามีก็เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันระหว่างสามีกับภรรยาเดิมอย่างร้ายแรงก็ดี ทั้งหลายนี้เป็นเหตุให้ภรรยาฟ้องหย่าได้ อนึ่งแม้จะปรากฎภายหลังว่าภรรยาคนใหม่ได้ละทิ้งสามีไปเสียแล้วก็หาใช่ความดีของสามีที่จะนำมาเป็นเหตุแก้ตัวได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุหย่า: การละทิ้งภรรยาและประกอบพิธีสมรสใหม่ ถือเป็นการสละภรรยาเดิม
สามีแยกกับภรรยาเดิมไปประกอบพิธีแต่งงานกับหญิงอื่นใหม่เช่นนี้เป็นการกระทำแสดงออกชัดว่าสามีสละละทิ้งภรรยาเด็ดขาดไปแล้ว กล่าวคือถ้าจำเลยไม่รับรองต่อภรรยาคนใหม่ว่าเลิกกับภรรยาเดิมเด็ดขาดแล้วภรรยาคนใหม่และผู้ปกครองจะไม่ประกอบพิธีให้ หากเป็นการที่จำเลยตั้งใจกล่าวเท็จแก่ภรรยาคนใหม่ให้หลงเข้าใจผิดก็เป็นการกระทำที่เย้ยหยันแก่ภรรยาเดิมให้ได้รับความอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ก็ดี และการที่ภรรยาใหม่อยู่กินกับสามียังบ้านเรือนสามีก็เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันระหว่างสามีกับภรรยาเดิมอย่างร้ายแรงก็ดี ทั้งหลายนี้เป็นเหตุให้ภรรยาฟ้องหย่าได้ อนึ่งแม้จะปรากฏภายหลังว่าภรรยาคนใหม่ได้ละทิ้งสามีไปเสียแล้วก็หาใช่ความดีของสามีที่จะนำมาเป็นเหตุแก้ตัวได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุหย่าจากการกระทำเป็นปฏิปักษ์และทำร้ายร่างกายต่อเนื่อง แม้บางเหตุขาดอายุความ ก็ยังสนับสนุนเหตุหย่าอื่นได้
ชายหญิงเป็นสามีภริยากันมากว่า 20 ปี มีแต่เหตุระหองระแหง ไม่ราบรื่นตลอดมา โดยหญิงทำร้าย ด่า ขับไล่ และใช้ปัสสาวะสาดชาย แม้เหตุหย่าบางข้อ จะขาดอายุความ 3 เดือนก็ดี ก็ยังสนับสนุนเหตุหย่าที่ยังไม่ขาดอายุความได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1509 วรรค 2 และเมื่อฟังได้ว่าหญิงทำการเป็นปฏิปักษ์ ต่อการเป็นสามีภริยากับชายอย่างร้ายแรง ชายก็มีสิทธิฟ้องหย่าขากจากการเป็นสามีภริยากับหญิงได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1500 ( 3 )

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุหย่าจากการกระทำรุนแรงและเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา
ชายหญิงเป็นสามีภริยากันมากว่า 20 ปี มีแต่เหตุระหองระแหงไม่ราบรื่นตลอดมาโดยหญิงทำร้าย ด่าขับไล่และใช้ปัสสาวะสาดชายแม้เหตุหย่าบางข้อ จะขาดอายุความ 3 เดือนก็ดีก็ยังสนับสนุนเหตุหย่าที่ยังไม่ขาดอายุความได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1509 วรรคสอง และเมื่อฟังได้ว่าหญิงทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากับชายอย่างร้ายแรงชายก็มีสิทธิฟ้องหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากับหญิงได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายภรรยาเป็นเหตุให้หย่าได้
สามีใช้กำปั้นตีใช้เท้าเตะและใช้ไม้โตเท่าผลส้มเขียวหวานตีภรรยามีบาดแผลบวมช้ำเขียว รวม 23 แห่งด้วยกัน ต้องรักษาตัวอยู่รวม 20 กว่าวัน มีนายแพทย์มาเบิกความประกอบว่าภรรยาต้องรักษาตัวอยู่ที่สุขศาลา 17 วัน มีอาการเจ็บที่อก ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บและเป็นเหตุให้ภริยาฟ้องขอหย่าจากสามีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายภรรยาถึงบาดเจ็บเป็นเหตุให้หย่าได้
สามีใช้กำปั้น ใช้เท้าเตะ และใช้ไม้โตเท่าผลส้มเขียวหวานตีภรรยา มีบาดแผลบวมช้ำเขียว รวม 23 แห่งด้วยกัน ต้องรักษาตัวอยู่รวม 20 กว่าวัน มีนายแพทย์มาเบิกความประกอบว่า ภรรยต้องรักษาตัวอยู่ที่ศุขศาลา 17 วัน มีอาการเจ็บที่อก ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บและเป็นเหตุให้ภริยาฟ้องขอหย่าจากสามีได้
of 7