คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1500

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 62 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุหย่า: พฤติการณ์ความรุนแรงในครอบครัวและการกระทบกระทั่งทางวาจา ไม่เป็นเหตุสมควรให้หย่า
การที่ภริยาเคยเอามือดันหลังบิดาสามีตกคูในขณะเดินข้ามสะพานสวนกันและภริยาไปรบเร้าสามีให้หาที่อยู่ แล้วสามีพูดว่าที่นี่ไม่ใช่โรงแรม ภริยาโกรธชกสามี สามีเอาไม้เรียวตีภริยา ภริยาแย่งไม้ได้แล้วตีสามีบ้างคนละทีสองที ต่อมาสามีได้มีจดหมายนัดพบภริยาภริยาก็ไปหาพูดจากันเป็นปกติ ในจดหมายของสามีก็แสดงความรักและอาลัยต่อภริยา หากแต่มีความลำบากเรื่องที่อยู่เพราะผู้ใหญ่พฤติการณ์เหล่านี้ถือว่ายังไม่เป็นเหตุหย่าตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุหย่าต้องร้ายแรง แม้มีเหตุทะเลาะวิวาทและการผลักทำร้าย แต่ยังไม่ถึงขั้นให้หย่าได้
พฤติการณ์ที่ถือว่า เป็นเหตุหย่ายังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกที่อยู่ของสามี และสิทธิในการฟ้องหย่า
การเลือกที่อยู่ตามกฎหมายสามีเป็นผู้เลือก
สามีเลือกที่อยู่โดยจะไปอยู่กินที่บ้านของบิดามารดาของสามี ภรรยาไม่ยอมไปเอง ดังนี้ภรรยาจะมาฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภรรยา ย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งงานไม่จดทะเบียนสมรส: สิทธิในการฟ้องหย่าและแบ่งสินสมรส
โจทก์ฟ้องขอหย่าจากการเป็นสามีภริยากับจำเลย และขอแบ่งสินสมรสทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยไม่เป็นสามีภริยากัน ศาลก็ไม่จำต้องวินิจฉัยในเรื่องเหตุหย่าและในเรื่องแบ่งทรัพย์ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งงานไม่จดทะเบียนและการแบ่งสินสมรส ศาลยกฟ้องเมื่อไม่ได้เป็นสามีภริยาตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอหย่าจากการเป็นสามีภริยากับจำเลย และขอแบ่งสินสมรส ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยไม่เป็นสามีภริยากัน ศาลก็ไม่จำต้องวินิจฉัยในเรื่องเหตุหย่า และในเรื่องแบ่งทรัพย์ต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงปิดคดีหน้าศาลมีผลผูกพัน, การหย่า, และการสันนิษฐานเรื่องสินสมรส
วันนัดพิจารณาคู่ความโต้เถียง+ หน้าที่นำสืบแล้ว ต่างแถลง+ ว่าต่างฝ่ายไม่ติดใจสืบพยาน + ขอให้ศาลสินิจฉัยคดีตลอด + จะขอแถลงการ์ประกอบภายใน 7 วัน ถ้าถึงกำหนดไม่ + ขอให้ถือว่าไม่ติดใจแถลง+ ถือว่าคู่ความขอปิดคดีของตน+แล้ว ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแถลง+พยายในภายหลัง ศาลก็ไม่มี +ใดจะอนุญาตได้ + เลยรับว่าเป็นสามีภรรยากับ + แต่หย่ากันแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของจำเลย +สืบ ว่าหย่ากันแล้ว เมื่อจำเลย+ ก็ต้องถือตามคำฟ้องของโจทก์ว่า +จำเลยเป็นสามีภรรยากัน + เหตุที่โจทก์จะหย่าขาดจากจำเลยได้ + ไม่นั้น โจทก์มีหน้าที่นำสืบ แต่จำเลย +ได้หย่าขาดกับโจทก์ 5 ปี และจำเลยแต่งงานกับหญิงอื่น เป็นการกระทำอัน+ปฎิปักษ์ต่อโจทก์ และทอดทิ้งขาดการ+ต่อโจทก์ ถึง 5 ปี ทั้งจำเลย+ว่าได้หย่าขาดจากโจทก์แล้วดังนี้ +มีเหตุอันควรหย่าได้ตาม ป.พ.พ.+00(3)
ต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ตนมีสินเดิมอีกฝ่าย+ไม่มี แต่ต่างฝ่ายก็ไม่สืบพยายตามข้ออ้าง ต้องถือว่าไม่มีสินเดิมทั้ง 2 ฝ่าย โจทก์ว่านาเป็นสินสมรส จำเลยว่าเป็น+ ของจำเลย โจทก์ว่าสวนยางเป็นสินสมรส
จำเลยไม่ให้การถึงเลย ดังนี้ต้องสันนิษฐานว่า นาและสวนยางเป็นสินสมรสตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา1466 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดคดีหน้าศาล การนำสืบหน้าที่ และการแบ่งสินสมรสเมื่อหย่า
ในวันนัดพิจารณาคู่ความโต้เถียงกันเรื่องหน้าที่นำสืบแล้วต่างแถลงต่อศาลว่าต่างฝ่ายไม่ติดใจสืบพยานด้วยกัน ขอให้ศาลวินิจฉัยคดีตลอดถึงเรื่องจะขอแถลงการณ์ประกอบภายใน 7 วัน ถ้าถึงกำหนดไม่แถลงขอให้ถือว่าไม่ติดใจแถลงดังนี้ถือว่าคู่ความขอปิดคดีของตนเสร็จแล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแถลงขอสืบพยานในภายหลัง ศาลก็ไม่มีเหตุอันใดจะอนุญาตได้
จำเลยรับว่าเป็นสามีภรรยากับโจทก์ แต่หย่ากันแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของจำเลยจะนำสืบว่าหย่ากันแล้ว เมื่อจำเลยไม่นำสืบก็ต้องถือตามคำฟ้องของโจทก์ว่าโจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากัน
เหตุที่โจทก์จะหย่าขาดจากจำเลยได้หรือไม่นั้น โจทก์มีหน้าที่นำสืบ แต่จำเลยรับว่าได้หย่าขาดกับโจทก์ 5 ปี และจำเลยได้แต่งงานกับหญิงอื่นเป็นการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อโจทก์ และทอดทิ้งขาดการอุปการะต่อโจทก์ ถึง 5 ปีทั้งจำเลยก็ถือว่าได้หย่าขาดจากโจทก์แล้วดังนี้ โจทก์มีเหตุอันควรหย่าได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์1500(3)
ต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ตนมีสินเดิมอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่มีแต่ต่างฝ่ายก็ไม่สืบพยานตามข้อกล่าวอ้าง ต้องถือว่าไม่มีสินเดิมทั้ง 2 ฝ่ายโจทก์ว่านาเป็นสินสมรส จำเลยว่าเป็นสินเดิมของจำเลย โจทก์ว่าสวนยางเป็นสินสมรสจำเลยไม่ให้การถึงเลยดังนี้ ต้องสันนิษฐานว่า นาและสวนยางเป็นสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1466 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีหย่า: ประเด็นการนำสืบเหตุหย่าเมื่อจำเลยปฏิเสธสถานะสามีภรรยา
โจทก์ฟ้องหย่า จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เป็นสามีภรรยากันมิได้ปฏิเสธหรือต่อสู้ในเรื่องเหตุหย่า ดังนี้ เหตุหย่าย่อมไม่เป็นประเด็นในคดี โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบ
ในเรื่องฟ้องหย่า จำเลยอาจต่อสู้ได้ว่า ไม่ใช่เป็นสามีภรรยากัน แม้เป็นสามีภรรยากันก็ไม่มีเหตุหย่า
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโดยอ้างว่าโจทก์สืบถึงเหตุหย่าไม่ได้ โจทก์อุทธรณ์ว่าเหตุหย่าจำเลยไม่ได้ต่อสู้ ไม่เป็นประเด็นในคดี ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยข้ออุทธรณ์นี้รับไม่วินิจฉัยเฉพาะข้อเท็จจริงดังศาลเดิม ดังนี้ ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยข้ออุทธรณ์ข้อนี้ๆ ของโจทก์
คดีที่ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งในเรื่องค่าธรรมเนียมในชั้นนี้ด้วย และถ้าหากมีการอุทธรณ์ฎีกาต่อไป ก็ยกเว้นค่าธรรมเนียมให้ตาม มาตรา151 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีหย่า: ประเด็นเหตุหย่าที่ไม่ถูกยกขึ้นต่อสู้ ไม่เป็นประเด็นที่โจทก์ต้องนำสืบ
โจทก์ฟ้องหย่าจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เป็นสามีภรรยากันมิได้ปฏิเสธหรือต่อสู้ในเรื่องเหตุหย่าดังนี้ เหตุหย่าย่อมไม่เป็นประเด็นในคดี โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบ
ในเรื่องฟ้องหย่า จำเลยอาจต่อสู้ได้ว่า ไม่ใช่เป็นสามีภรรยากัน แม้เป็นสามีภรรยากันก็ไม่มีเหตุหย่า
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโดยอ้างว่าโจทก์สืบถึงเหตุหย่าไม่ได้ โจทก์อุทธรณ์ว่าเหตุหย่าจำเลยไม่ได้ต่อสู้ ไม่เป็นประเด็นในคดี ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยข้ออุทธรณ์ฉะเพาะข้อเท็จจริงดังศาลเดิมดังนี้ ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยข้ออุทธรณ์ข้อนี้ ๆ ของโจทก์
คดีที่ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งในเรื่องค่าธรรมเนียมในชั้นนี้ด้วย และถ้าหากมีการอุทธรณ์ฎีกาต่อไป ก็ยกเว้นค่าธรรมเนียมให้ตาม ม.151 วรรคท้าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบวชเป็นภิกษุสละสิทธิในทรัพย์สิน
สามีบวช 19 พรรษา ถือว่ามีเจตนาสละภรรยาและบุตรจึงขาดสิทธิในทรัพย์สิน ภรรยาจึงมีสิทธิแบ่งทรัพย์ให้บุตรได้ตามลำพัง
of 7