คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศิลปสิทธิวินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1630/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา: การใช้กฎหมายเก่าและกฎหมายใหม่
ประมวลกฎหมายอาญาซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังมิได้บัญญัติว่าการฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่เป็นความผิด ฉะนั้นการที่จำเลยฆ่าคนเมื่อยังใช้กฎหมายลักษณะอาญาอยู่ จึงเป็นความผิดตลอดมา และศาลลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ได้เพราะมาตรานี้กับมาตรา 288 แห่งประมวลกฎหมายอาญาซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะนี้มีกำหนดโทษเหมือนกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1630/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา: กฎหมายเก่าและใหม่ ไม่ยกเลิกความผิดเดิม
ประมวลกฎหมายอาญาซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังมิได้บัญญัติว่าการฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่เป็นความผิด ฉะนั้นการที่จำเลยฆ่าคนเมื่อยังใช้กฎหมายลักษณะอาญาอยู่ จึงเป็นความผิดตลอดมา และศาลลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ได้ เพราะมาตรานี้กับมาตรา 288 แห่งประมวลกฎหมายอาญาซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะนี้มีกำหนดโทษเหมือนกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงื่อนไขสัญญาที่มิได้ตกลงร่วมกัน ศาลไม่ถือว่ามีผลผูกพัน
เงื่อนไขบางประการแม้จะปรากฎอยู่ในนิติกรรม หากฟังไม่ได้ว่าเป็นเงื่อนไขที่คู่สัญญาเจตนาให้มีไว้ ก็ถือว่าเงื่อนไขนั้นไม่มีอยู่ในสัญญา กล่าวคือศาลไม่ถือเอาเงื่อนไขนั้นมาบังคับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงื่อนไขในสัญญาย่อมมีผลบังคับใช้เฉพาะที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันเท่านั้น หากไม่ได้ตกลงร่วมกัน เงื่อนไขนั้นย่อมไม่ผูกพัน
เงื่อนไขบางประการแม้จะปรากฏอยู่ในนิติกรรม หากฟังไม่ได้ว่าเป็นเงื่อนไขที่คู่สัญญาเจตนาให้มีไว้ ก็ถือว่าเงื่อนไขนั้นไม่มีอยู่ในสัญญา กล่าวคือศาลไม่ถือเอาเงื่อนไขนั้นมาบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจตัวแทนและการรับผิดในตั๋วแลกเงิน แม้ตัวแทนปฏิบัติเกินอำนาจก็ไม่ทำให้จำเลยหลุดพ้นความรับผิด
เพียงแต่ตัวแทนไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดอำนาจของตัวการบางอย่าง จำเลยจะอ้างมาปฏิเสธความรับผิดของตน (ในคดีนี้) ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นบริษัทจำกัด แต่ตามสำนวนไม่ปรากฎหลักฐานการเป็นบริษัทจำกัดที่ชอบด้วยกฎหมายและตามคำให้การจำเลยมิได้ต่อสู้ในข้อนี้ไว้ ดังนี้จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องแสดงหลักฐานการเป็นบริษัทจำกัดของโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจตัวแทนจำกัด & การปฏิเสธความรับผิดของจำเลย: แม้ตัวแทนเกินอำนาจ แต่จำเลยยังต้องรับผิดในตั๋วแลกเงิน
เพียงแต่ตัวแทนไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดอำนาจของตัวการบางอย่างจำเลยจะอ้างมาปฏิเสธความรับผิดของตน(ในคดีนี้)ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นบริษัทจำกัด แต่ตามสำนวนไม่ปรากฏหลักฐานการเป็นบริษัทจำกัดที่ชอบด้วยกฎหมาย และตามคำให้การจำเลยมิได้ต่อสู้ในข้อนี้ไว้ ดังนี้จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องแสดงหลักฐานการเป็นบริษัทจำกัดของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การนำสืบเมื่อฟ้องหุ้นส่วน: โจทก์ต้องพิสูจน์ความเป็นหุ้นส่วนก่อน หากไม่สมเหตุผล ศาลไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยพยานจำเลย
โจทก์ฟ้องตั้งรูปคดีมาเป็นเรื่องหุ้นส่วน ซึ่งจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับโจทก์และอ้างว่าการที่จำเลยเข้าอยู่ในตึกแถวรายพิพาทก็โดยเช่าจากโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนของบุคคลภายนอก เช่นนี้เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบก่อน เพราะโจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้างข้อเท็จจริงสนับสนุนคำฟ้องของตน เมื่อโจทก์นำสืบไม่สมว่าเป็นหุ้นส่วนกัน ก็เป็นการเพียงพอที่จะยกฟ้องเสียได้ ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยไปถึงพยานหลักฐานของจำเลย เพราะข้อที่จำเลยจะได้เช่าตึกรายพิพาทจากโจทก์หรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็นในคดีนี้ ข้อต่อสู้ของจำเลยดังกล่าวเป็นแต่เพียงเหตุแห่งการปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์เท่านั้น ประเด็นในคดีนี้มีเพียงว่า การที่จำเลยเข้ามาทำการค้าในสถานที่รายพิพาท โดยจำเลยเข้ามาในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์หรือมิใช่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การนำสืบของโจทก์ในคดีหุ้นส่วน: เมื่อโจทก์กล่าวอ้างและจำเลยปฏิเสธ โจทก์ต้องพิสูจน์ก่อน
โจทก์ฟ้องตั้งรูปคดีมาเป็นเรื่องหุ้นส่วน ซึ่งจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับโจทก์ และอ้างว่าการที่จำเลยเข้าอยู่ในตึกแถวรายพิพาทก็โดยเช่าจากโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนของบุคคลภายนอก เช่นนี้เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบก่อน เพราะโจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้างข้อเท็จจริงสนับสนุนคำฟ้องของตน เมื่อโจทก์นำสืบไม่สมว่าเป็นหุ้นส่วนกันก็เป็นการเพียงพอที่จะยกฟ้องเสียได้ ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยไปถึงพยานหลักฐานของจำเลย เพราะข้อที่จำเลยจะได้เช่าตึกรายพิพาทจากโจทก์หรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็นในคดีนี้ ข้อต่อสู้ของจำเลยดังกล่าวเป็นแต่เพียงเหตุแห่งการปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์เท่านั้น ประเด็นในคดีนี้มีเพียงว่า การที่จำเลยเข้ามาทำการค้าในสถานที่รายพิพาท โดยจำเลยเข้ามาในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์หรือมิใช่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบไม้แปรรูปผิดกฎหมาย: ไม้แปรรูปก็ต้องริบตามกฎหมายป่าไม้
ไม้สักแปรรูปที่จำเลยมีไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตนั้น ต้องถูกสั่งริบด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบไม้แปรรูปที่ผิดกฎหมาย: ไม้แปรรูปก็ต้องริบตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ไม้สักแปรรูปที่จำเลยมีไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตนั้น ต้องถูกสั่งริบด้วย.
of 164