พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงประเด็นข้อพิพาทระหว่างการพิจารณาคดี: จำเลยโอนเรือนชำระดอกเบี้ยมิอาจเปลี่ยนเป็นชำระเงินต้น
เมื่อผู้ร้องตั้งประเด็นข้อพิพาทมาว่า จำเลยโอนเรือนเพื่อชำระเงินค่าดอกเบี้ยดังนี้แล้ว จะเปลี่ยนเป็นว่าโอนเพื่อชำระส่วนหนึ่งของเงินต้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมในคดีล้มละลาย เนื่องจากข้อเท็จจริงผูกพันตามคำพิพากษาคดีอาญา
จำเลยกับพวกเคยถูกอัยการฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกง ศาลได้ลงโทษจำคุกจำเลยและให้จำเลยคืนเงินแก่บรรดาผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ซึ่งปรากฎว่าโจทก์เป็นผู้ร้องทุกข์คนหนึ่งด้วย
ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีแพ่ง จำเลยขอยื่นบัญชีระบุพยานและการพิพากษาคดีส่วนแพ่งนั้นศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาส่วนอาญาดังนี้ย่อมตัดบทมีให้จำเลยสืบพยานผิดเพี้ยนไปอย่างใดอีก เมื่อจำเลยไม่อ้างข้อ ก.ม.ให้ชัดแจ้งว่าควรอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานด้วยเหตุใดจึงให้ยกเสีย
ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีแพ่ง จำเลยขอยื่นบัญชีระบุพยานและการพิพากษาคดีส่วนแพ่งนั้นศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาส่วนอาญาดังนี้ย่อมตัดบทมีให้จำเลยสืบพยานผิดเพี้ยนไปอย่างใดอีก เมื่อจำเลยไม่อ้างข้อ ก.ม.ให้ชัดแจ้งว่าควรอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานด้วยเหตุใดจึงให้ยกเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตให้สืบพยานเพิ่มเติมในคดีล้มละลายเมื่อมีคำพิพากษาในคดีอาญาแล้ว
จำเลยกับพวกเคยถูกอัยการฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกง ศาลได้ลงโทษจำคุกจำเลยและให้จำเลยคืนเงินแก่บรรดาผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ซึ่งปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้ร้องทุกข์คนหนึ่งด้วย
ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีแพ่ง จำเลยขอยื่นบัญชีระบุพยานและการพิพากษาคดีส่วนแพ่งนั้นศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาส่วนอาญาดังนี้ย่อมตัดบทมิให้จำเลยสืบพยานผิดเพี้ยนไปอย่างใดอีก เมื่อจำเลยไม่อ้างข้อกฎหมายให้ชัดแจ้งว่าควรอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานด้วยเหตุใดจึงให้ยกเสีย
ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีแพ่ง จำเลยขอยื่นบัญชีระบุพยานและการพิพากษาคดีส่วนแพ่งนั้นศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาส่วนอาญาดังนี้ย่อมตัดบทมิให้จำเลยสืบพยานผิดเพี้ยนไปอย่างใดอีก เมื่อจำเลยไม่อ้างข้อกฎหมายให้ชัดแจ้งว่าควรอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานด้วยเหตุใดจึงให้ยกเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาใหม่ย่อมสละสิทธิในสัญญาก่อน การทำสัญญาเช่าใหม่หลังประนีประนอมยอมความ ย่อมถือเป็นการสละสิทธิบังคับตามสัญญาเดิม
การที่โจทก์ทำสัญญาให้จำเลยเข้าที่พิพาทขึ้นใหม่หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าโจทก์ยอมสละสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความอยู่ในตัวแล้ว จึงต้องว่ากล่าวกันตามสัญญาที่ทำขึ้นใหม่นี้
เมื่อโจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้วก็หาบังคับบริวารจำเลยได้ไม่ ตลอดจนถึงเงินที่โจทก์ได้รับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นก็ต้องคืนจำเลยเช่นกัน
เมื่อโจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้วก็หาบังคับบริวารจำเลยได้ไม่ ตลอดจนถึงเงินที่โจทก์ได้รับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นก็ต้องคืนจำเลยเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาใหม่ย่อมสละสิทธิในสัญญาเดิม: การทำสัญญาเช่าใหม่หลังประนีประนอมย่อมเป็นการสละสิทธิบังคับตามสัญญาเดิม
การที่โจทก์ทำสัญญาให้จำเลยเช่าที่พิพาทขึ้นใหม่หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์ยอมสละสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความอยู่ในตัวแล้ว จึงต้องว่ากล่าวกันตามสัญญาที่ทำขึ้นใหม่นี้
เมื่อโจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็หาบังคับบริวารจำเลยได้ไม่ ตลอดจนถึงเงินที่โจทก์ได้รับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นก็ต้องคืนจำเลยเช่นกัน
เมื่อโจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็หาบังคับบริวารจำเลยได้ไม่ ตลอดจนถึงเงินที่โจทก์ได้รับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นก็ต้องคืนจำเลยเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016-1027/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางสิ่งของกีดขวางการสัญจรในพื้นที่สาธารณะ: สนามหลวงไม่ใช่ถนน
จำเลยใช้สนามหลวงเป็นที่ตั้งและวางรถจักรยานสองล้อให้คนเช่าขับขี่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ และเป็นการกีดขวางการไปมาเพราะสนามหลวงเป็นสถานที่ซึ่งสาธารณะชนใช้สัญจรไปมา แต่สถานที่ที่กล่าวหากันเป็นเพียงสนามส่วนหนึ่งทั้งไม่ได้ความว่าที่ตรงนั้นเป็นถนนหนทาง จำเลยยังไม่มีความผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 336(1),334(2) พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 60,62,65
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016-1027/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้พื้นที่สาธารณะ (สนามหลวง) เช่าจักรยานกีดขวางทางสัญจร ไม่ถือเป็นความผิดตามกฎหมายจราจร หากไม่เป็นถนนหนทาง
จำเลยใช้สนามหลวงเป็นที่ตั้งและวางรถจักรยานสองล้อให้คนเช่าขับขี่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่และเป็นการกีดขวางการไปมาเพราะสนามหลวงเป็นสถานที่ซึ่งสาธารณะชนใช้สัญจรไปมาแต่สถานที่ที่กล่าวหากันเป็นเพียงสนามส่วนหนึ่งทั้งไม่ได้ความว่าที่ตรงนั้นเป็นถนนหนทาง จำเลยยังไม่มีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.336 (1),334(2) พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2477 ม.60,62,65
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกิจการเช่าและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: การเช่าเพื่อค้า
จำเลยที่ 1 กับผู้มีชื่อร่วมกันเช่าห้องพิพาทจากเจ้าของเดิมเพื่อทำการค้า ต่อมาจำเลยที่ 2 รับโอนกิจการของผู้มีชื่อ เมื่อในสัญญา+ผู้มีชื่อและจำเลยที่ 1 เช่าห้องพิพาทเพื่อทำการค้าจำเลยที่ 2 ผู้+ข้าแทนที่ผู้มีชื่อจึงถือว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 เช่าตึกพิพาทเพื่อการค้าขายด้วยซึ่งจะมีความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าเพื่อค้าและการโอนกิจการ: สิทธิเช่าคงอยู่เมื่อมีการโอนกิจการ ผู้เช่าใหม่ไม่มีสิทธิคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยที่ 1 กับผู้มีชื่อร่วมกันเช่าห้องพิพาทจากเจ้าของเดิมเพื่อทำการค้า ต่อมาจำเลยที่ 2 รับโอนกิจการของผู้มีชื่อ เมื่อในสัญญาว่าผู้มีชื่อและจำเลยที่ 1 เช่าห้องพิพาทเพื่อทำการค้า จำเลยที่ 2 ผู้เข้าแทนที่ผู้มีชื่อจึงถือว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 เช่าตึกพิพาทเพื่อการค้าขายด้วย ซึ่งจะฟังความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968-970/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนออกนอกหน้า ตัวการต้องรับผิดชอบสัญญา แม้โจทก์เข้าใจผิดคิดว่าทำสัญญากับเจ้าของเอง
บุคคลภายนอกเข้าทำสัญญากับบุคคลผู้หนึ่งโดยเข้าใจว่าบุคคลนั้นทำสัญญาเพื่อตนเอง ต่อมาความจริงปรากฎว่าบุคคลนั้นเป็นเพียงตัวแทนของตัวการผู้ซึ่งยอมให้ตัวแทนทำการออกนอกหน้าเป็นตัวการ ตัวการย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกตามสัญญานั้นด้วย