พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่ารถส่วนบุคคลไม่ถือเป็นรถสาธารณะ และการแจ้งเคลมล่าช้าไม่ทำให้ประกันภัยหมดผล
รถยนต์ส่วนบุคคลซึ่งเจ้าของให้เช่าไปใช้โดยไม่ได้เอาไปทำเป็นรถยนต์ประเภทสาธารณะ ย่อมยังคงเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลอยู่
การที่ผู้เอาประกันภัยบอกกล่าวแก่ผู้รับประกันภัยเรื่องวินาศภัยที่เกิดขึ้นชักช้า นั้น หาเป็นเหตุให้ผู้รับประกันภัยพ้นความรับผิดจากสัญญาประกันภัยไม่
การที่ผู้เอาประกันภัยบอกกล่าวแก่ผู้รับประกันภัยเรื่องวินาศภัยที่เกิดขึ้นชักช้า นั้น หาเป็นเหตุให้ผู้รับประกันภัยพ้นความรับผิดจากสัญญาประกันภัยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่ารถส่วนบุคคลและการแจ้งเหตุล่าช้าไม่ทำให้ประกันภัยสิ้นผล
รถยนต์ส่วนบุคคลซึ่งเจ้าของให้เช่าไปใช้โดยไม่ได้เอาไปทำเป็นรถยนต์ประเภทสาธารณะย่อมยังคงเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลอยู่
การที่ผู้เอาประกันภัยบอกกล่าวแก่ผู้รับประกันภัยเรื่องวินาศภัยที่เกิดขึ้นชักช้า นั้น หาเป็นเหตุให้ผู้รับประกันภัยพ้นความรับผิดจากสัญญาประกันภัยไม่
การที่ผู้เอาประกันภัยบอกกล่าวแก่ผู้รับประกันภัยเรื่องวินาศภัยที่เกิดขึ้นชักช้า นั้น หาเป็นเหตุให้ผู้รับประกันภัยพ้นความรับผิดจากสัญญาประกันภัยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความพินัยกรรม: ทรัพย์สมบัติที่ยกให้ทายาท และภาระจำยอมร่วมกัน
พินัยกรรมมีข้อความระบุไว้ว่าบรรดาทรัพย์สมบัติที่มีอยู่และจะมีต่อไปภายหน้า ยอมยกให้จำเลยเป็นผู้รับทรัพย์ตามจำนวนซึ่งกำหนดไว้นั้น เมื่อพินัยกรรมกำหนดว่า เรือนครัว ยุ้งให้ขายทำศพ ย่อมถือว่าเมื่อขาย หักค่าทำศพออกแล้วเงินที่เหลือเป็นเงินที่จะมีต่อไปภายหน้าให้นำมาแบ่งระหว่างจำเลย และที่กำหนดว่าตรอกทางเดินกับที่ดินที่มีบ่อน้ำให้ส่วนกลางภาระจำยอมร่วมกัน ย่อมหมายความว่าให้เป็นส่วนกลางใช้ร่วมกันเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินทำให้สัญญาเช่าเป็นโมฆะ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า ซึ่งอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโจทก์ ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าที่เช่าเป็นที่สาธารณะ โจทก์หลอกลวงให้หลงเชื่อว่าเป็นที่ของโจทก์ เช่นนี้ จำเลยย่อมนำสืบได้ และหากข้อเท็จจริงฟังได้ตามข้อต่อสู้ของจำเลย โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่: สัญญาเช่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ที่ดินของโจทก์จริง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า ซึ่งอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโจทก์ ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าที่เช่าเป็นที่สาธารณะ โจทก์หลอกลวงให้หลงเชื่อว่าเป็นที่ของโจทก์เช่นนี้ จำเลยยอมนำสืบได้ และหากข้อเท็จจริงฟังได้ตามข้อต่อสู้ของจำเลย โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในสิ่งปลูกสร้าง: ผู้รับซื้อฝากก่อนย่อมมีสิทธิเหนือกว่า แม้จดทะเบียนที่อำเภอ
ผู้รับซื้อฝากเฉพาะสิ่งปลูกสร้างโดยสุจริต และจดทะเบียนที่อำเภอโดยชอบก่อน ทั้งได้รื้อไปแล้ว เพราะผู้ขายฝากมิได้ไถ่คืน ย่อมมีสิทธิในทรัพย์สิ่งปลูกสร้างดีกว่าผู้รับซื้อฝากที่ดินพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างซึ่งรับซื้อฝากไว้ภายหลังโดยสุจริตและจดทะเบียนที่หอทะเบียนโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในสิ่งปลูกสร้าง: ผู้รับซื้อฝากรื้อแล้วมีสิทธิก่อนผู้รับซื้อฝากที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างภายหลัง
ผู้รับซื้อฝากเฉพาะสิ่งปลูกสร้างโดยสุจริตและจดทะเบียนที่อำเภอโดยชอบก่อน ทั้งได้รื้อไปแล้ว เพราะผู้ขายฝากมิได้ไถ่คืน ย่อมมีสิทธิในทรัพย์สิ่งปลูกสร้างดีกว่าผู้รับซื้อฝากที่ดินพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างซึ่งรับซื้อฝากไว้ภายหลังโดยสุจริตและจดทะเบียนที่หอทะเบียนโดยชอบ(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดิน: ข้อสำคัญผิด, กลฉ้อฉล, และการบอกกล่าวเลิกสัญญา
โจทก์ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่า จำเลยให้การว่าที่ทำสัญญาเช่าเพราะสำคัญผิดและต้องกลฉ้อฉล โดยโจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ความจริงเป็นที่รกร้างว่างเปล่าหรือที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เช่นนี้ถือว่าคำให้การของจำเลยไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องกลฉ้อฉล
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์: ความสำคัญผิด กลฉ้อฉล และการบอกเลิกสัญญา
โจทก์ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่า จำเลยให้การว่า ที่ทำสัญญาเช่าเพราะสำคัญผิดและต้องกลฉ้อฉลโดยโจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ความจริงเป็นที่รกร้างว่างเปล่าหรือที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เช่นนี้ถือว่าคำให้การของจำเลยไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องกลฉ้อฉล
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่งอกริมตลิ่งตามธรรมชาติ แตกต่างจากที่ดินถมในสาธารณสมบัติ
ที่งอกริมตลิ่งตามความหมายของมาตรา 1308 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คือที่งอกตามธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นที่ดินซึ่งได้ถมขึ้นในที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน(อ้างฎีกาที่ 534/2485)