คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศิลปสิทธิวินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า และสิทธิในการหักเงินค่าเช่า
ผู้เช่าซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าโดยผู้ให้เช่าปฏิเสธไม่ยินยอมให้ซ่อม และไม่รับรู้เรื่องค่าใช้จ่ายเช่นนี้ ผู้เช่าจะหักค่าเช่าไว้เป็นค่าใช้จ่ายโดยผู้ให้เช่าไม่ยอมหาได้ไม่
ผู้เช่าชำระค่าเช่าไม่ครบติด ๆ กัน 3 เดือน ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจากพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าตึกเพื่ออยู่อาศัยได้รับการคุ้มครองจาก พรบ.ควบคุมค่าเช่า แม้จะอยู่ติดกับตึกทำการค้า
ตึกพิพาทอยู่ข้างหลังตึกสำเพ็งที่จำเลยเช่าทำการค้าจำเลยเจาะทางเดินทะลุถึงตึกพิพาทใช้ตึกพิพาทเป็นที่นอนและทำครัวตึกพิพาทจึงเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์คดีแพ่ง-อาญา: ข้อเท็จจริงในคำพิพากษาคดีอาญาผูกพันคดีแพ่ง, การพิสูจน์ความรับผิดนอกเหนือจากคำพิพากษาอาญา
การพิพากษาคดีส่วนแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
แม้ข้อเท็จจริงในคดีส่วนอาญาจะปรากฎว่าจำเลยที่ 1 ได้มอบเงินให้แก่จำเลยที่ 2 เมื่อโจทก์มาฟ้องในคดีแพ่งให้จำเลยที่ 1 รับผิดคืนเงิน โจทก์จะต้องกล่าวอ้างและพิศูจน์ให้เห็นว่าที่จำเลยที่ 1 ส่งมอบเงินนั้นเป็นการฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติหรือเป็นการประมาทเลินเล่ออันจะต้องรับผิด
ข้อเท็จจริงในคำพิพากษาในคดีส่วนอาญาที่จะนำมาใช้ในคดีแพ่งที่เกี่ยวแก่จำเลยซึ่งมิได้ถูกฟ้องในคดีส่วนอาญาด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา: ข้อเท็จจริงในคำพิพากษาอาญาเป็นข้อผูกพัน, การพิสูจน์ความรับผิดของจำเลยในคดีแพ่ง
การพิพากษาคดีส่วนแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
แม้ข้อเท็จจริงในคดีส่วนอาญาจะปรากฏว่าจำเลย ที่ 1 ได้มอบเงินให้แก่จำเลย ที่ 2 เมื่อโจทก์มาฟ้องในคดีแพ่งให้จำเลยที่ 1 รับผิดคืนเงิน โจทก์จะต้องกล่าวอ้างและพิสูจน์ให้เห็นว่าที่จำเลย ที่ 1 ส่งมอบเงินนั้นเป็นการฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติหรือเป็นการประมาทเลินเล่ออันจะต้องรับผิด
ข้อเท็จจริงในคำพิพากษาในคดีส่วนอาญาที่จะนำมาใช้ในคดีแพ่งที่เกี่ยวแก่จำเลยซึ่งมิได้ถูกฟ้องในคดีส่วนอาญาด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตของผู้ให้เช่าและการคุ้มครองสิทธิผู้เช่าที่ทำสัญญาโดยสุจริต
จะเป็นคดีมโนสาเร่หรือไม่ ให้พิจารณาตามฟ้องที่โจทก์ตั้งฟ้องมาแต่ศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ปลูกห้องแถวในที่ดินซึ่งครั้งหนึ่งเป็นของจำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ ห้องแถวยังเป็นของจำเลยที่ 1 ตลอดมา ตัวโจทก์เองได้แสดงต่อบุคคลภายนอกให้หลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 มีอำนาจทำสัญญาในนามของจำเลยที่ 1 ให้บุคคลภายนอกเช่าอยู่ได้ ดังนี้โจทก์จะอ้างการอาศัยของจำเลยที่ 1 ขึ้นบังหน้าขับไล่บุคคลภายนอกไม่ได้เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ให้มีผลเฉพาะระหว่างคู่ความชั้นอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการขับไล่ผู้เช่าเมื่อเจ้าของที่ดินยินยอมให้ทำสัญญาเช่าก่อนหน้า
จะเป็นคดีมโนสาเร่หรือไม่ให้พิจารณาตามฟ้องที่โจทก์ตั้งฟ้องมาแต่ศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ปลูกห้องแถวในที่ดินซึ่งครั้งหนึ่งเป็นของจำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ ห้องแถวยังเป็นของจำเลยที่ 1 ตลอดมาตัวโจทก์เองได้แสดงต่อบุคคลภายนอกให้หลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 มีอำนาจทำสัญญาในนามของจำเลยที่ 1 ให้บุคคลภายนอกเช่าอยู่ได้ดังนี้โจทก์จะอ้างการอาศัยของจำเลยที่ 1 ขึ้นบังหน้าขับไล่บุคคลภายนอกไม่ได้เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ให้มีผลเฉพาะระหว่างคู่ความชั้นอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จ – การพิจารณาหลักฐานใหม่ชั้นฎีกา – ข้อสำคัญแห่งคดี
ฟ้องว่าเบิกความเท็จแต่เท่าที่ปรากฎในฟ้องและในคำให้การ จำเลยเบิกความเท็จในข้อสำคัญอย่างใดไม่ได้ความ ดังนี้แม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อไม่ได้อ้างคำนวนเป็นพะยาน จะขอให้ศาลเรียกมาประกอบการพิจารณาชั้นฎีกานั้นเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จ – การพิสูจน์ข้อสำคัญ – หลักฐานเพิ่มเติมชั้นฎีกา – พิพากษายืน
ฟ้องว่าเบิกความเท็จแต่เท่าที่ปรากฏในฟ้องและในคำให้การจำเลยเบิกความเท็จในข้อสำคัญอย่างใดไม่ได้ความดังนี้แม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อไม่ได้อ้างสำนวนเป็นพยานจะขอให้ศาลเรียกมาประกอบการพิจารณาชั้นฎีกา นั้นเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้เช่าเรือตามสัญญาเช่าและการยกเว้นความรับผิดจากเหตุสุดวิสัย
สัญญาเช่าเรือมีความว่า'ข้อรับผิดชอบในความเสียหายอันจะเกิดจากวัตถุแห่งการเช่าคือตัวเรือ และเครื่องยนต์ตลอดจนอุปกรณ์ ผู้เช่าจะต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่า (เว้นแต่จะสึกหรอโดยปกติของการใช้)'มิได้มีความประสงค์จะให้ผู้เช่ารับผิดนอกเหนือไปจาก ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 562 แต่อย่างไรไม่
จำเลยเช่าเรือของโจทก์ไปบรรทุกสิ่งของและลากจูงเรือลำเลียงเรือของโจทก์จมเนื่องจากคลื่นลมจัด ผิดปกติ อันเป็นเหตุสุดวิสัยดังนี้ จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้เช่าเรือตามสัญญาเช่า และผลกระทบของเหตุสุดวิสัยต่อความรับผิด
สัญญาเช่าเรือมีความว่า " ข้อรับผิดชอบในความเสียหายอันจะเกิดจากวัตถุแห่งการเช่าคือตัวเรือ และเครื่องยนต์ตลอดจนอุปกรณ์ ผู้เช่าจะต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่า ( เว้นแต่จะสึกหรอโดยปกติของการใช้ ) " มิได้มีความประสงค์จะให้ผู้เช่ารับผิดนอกเหนือไปจาก ป.ม.แพ่งฯมาตรา 562 แต่อย่างไรไม่
จำเลยเช่าเรือของโจทก์ไปบรรทุกสิ่งของและลากจูงเรือลำเลียง เรือของโจทก์จมเนื่องจากคลื่นลมจัด ผิดปกติ อันเป็นเหตุสุดวิสัย ดังนี้ จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
of 164