พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาต้องหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในคดีอาญา จำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทนายจำเลยจะยื่นฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาต้องหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในคดีอาญา จำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทนายจำเลยจะยื่นฎีกา ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและการจ่ายเงินชดเชย แม้ผิดกำหนดออกจากที่เช่าก็ไม่กระทบสิทธิรับเงินตามสัญญา
สัญญามีว่า โจทก์ยอมออกจากที่เช่าภายใน 31 สิงหาคมจำเลยยอมจ่ายเงินให้โจทก์ 50,000 บาท โจทก์ออกจากที่เช่าช้ากว่า 31 สิงหาคม ดังนี้ ไม่เป็นเหตุให้จำเลยงดไม่จ่ายเงินตามสัญญาการออกจากที่เช่าผิดกำหนดอาจเป็นผิดสัญญาที่จะต้องยกขึ้นเป็นข้ออ้างอีกส่วนหนึ่งถ้าไม่มีประเด็นไปถึงข้อนี้ จำเลยต้องจ่ายเงินให้โจทก์ตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17-18/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยมิได้จดทะเบียน และการได้กรรมสิทธิ์โดยอายุความ การซื้อขายที่ไม่สุจริต
การครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 อาจใช้ยันผู้เยาว์ได้ไม่ใช่การแสดงเจตนาตามมาตรา 131
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์: คำสั่งมีผลเมื่อผู้ถูกอุทธรณ์ทราบ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเขียนคำสั่งลงวันที่ 8 มิ.ย. 96 แต่ไม่ปรากฏว่าศาลได้นำคำสั่งนั้นออกอ่านหรือเพื่ออ่านและไม่ปรากฏว่าได้มีการจดแจ้งว่าได้มีการอ่านคำสั่งนั้นในรายงานใดๆ ในวันที่ 8 นั้นเลย จำเลยเพิ่งเซ็นทราบคำสั่งนั้นในวันที่ 9 ดังนี้ต้องถือว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเมื่อวันที่ 9
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกิน 10 วันตามมาตรา 234 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ให้ยกคำร้องอุทธรณ์ของจำเลยเสียนั้นจำเลยฎีกาต่อศาลฎีกาว่าจำเลยยื่นอุทธรณ์ภายใน10 วันหาเกินไม่ ดังนี้ได้ ไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกิน 10 วันตามมาตรา 234 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ให้ยกคำร้องอุทธรณ์ของจำเลยเสียนั้นจำเลยฎีกาต่อศาลฎีกาว่าจำเลยยื่นอุทธรณ์ภายใน10 วันหาเกินไม่ ดังนี้ได้ ไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลาคำสั่งศาลและการยื่นอุทธรณ์: คำสั่งที่ยังไม่ได้อ่านมีผลเมื่อใด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย เขียนคำสั่งลงวันที่ 8 มิ.ย. 42 แต่ไม่ปรากฎว่าศาลได้นำคำสั่งนั้นออกอ่านหรือเพื่ออ่าน และไม่ปรากฎว่าได้มีการจดแจ้งว่าได้มีการอ่านคำสั่งนั้นในรายงานใด ๆ ในวันที่ 8 นั้นเลย จำเลยเพิ่งเซ็นทราบคำสั่งนั้นในวันที่ 9 ดังนี้ต้องถือว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเมือ่วันที่ 9.
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า จำเลยยืนคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกิน 10 วันตามมาตรา 234 ป.ม.วิ.แพ่ง ให้ยกคำร้องอุทธรณ์ของจำเลยเสียนั้น จำเลยฎีกาต่อศาลฎีกาว่าจำเลยยืนอุทธรณ์ภายใน 10 วัน หาเกินไม่ ดังนี้ได้ ไม่เป็นการต้องห้ามตามป.ม.วิ.แพ่งม.236
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า จำเลยยืนคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกิน 10 วันตามมาตรา 234 ป.ม.วิ.แพ่ง ให้ยกคำร้องอุทธรณ์ของจำเลยเสียนั้น จำเลยฎีกาต่อศาลฎีกาว่าจำเลยยืนอุทธรณ์ภายใน 10 วัน หาเกินไม่ ดังนี้ได้ ไม่เป็นการต้องห้ามตามป.ม.วิ.แพ่งม.236
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอม: การใช้คูเก็บเรือ ไม่ใช่ทางสัญจร จึงไม่เข้าข่ายภาระจำยอมตามกฎหมาย
โจทย์จำเลยปีที่ดินอยู่ติดคลองด้วยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งต่างก็สามารถจะใช้เป็นทางสัญจรไปมาได้โดยสะดวก แต่โจทย์ใช้คูซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยเป็ฯที่เก็บเรือของโจทก์ ดังนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ใช้คูของจำเลยเป็นที่สำหรับเก็บเรือ มิใช่เป็นทางสัญจรไปไหน แม้จะมีการเอาเรือเข้าออกคู ก็หาใช่เป็ฯการไปมาไม่ เพราะเป็ฯเรื่องเอาเรือเข้าเก็บและเอออก-ใช้ จึงไม่ต้องด้วยลักษณะภาระจำยอมตามที่บัญญัติไว้ใน ป.ม. แพ่งฯ มาตรา 1387 เจ้าของคูย่อมปิดกั้นคูนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมทางน้ำ: การใช้คูเก็บเรือ ไม่ถือเป็นทางสัญจร จึงไม่เข้าข่ายภารจำยอม
โจทก์จำเลยมีที่ดินอยู่ติดคลองด้วยกันทั้งสองฝ่ายซึ่งต่างก็สามารถจะใช้เป็นทางสัญจรไปมาได้โดยสดวกแต่โจทก์ใช้คูซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยเป็นที่เก็บเรือของโจทก์ดังนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ใช้คูของจำเลยเป็นที่สำหรับเก็บเรือ มิใช่เป็นทางสัญจรไปไหนแม้จะมีการเอาเรือเข้าออกคู ก็หาใช่เป็นการไปมาไม่ เพราะเป็นเรื่องเอาเรือเข้าเก็บ และเอาออกใช้ จึงไม่ต้องด้วยลักษณะภารจำยอมตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1387 เจ้าของคูย่อมปิดกั้นคูนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทนาย: การถอนทนายความไม่ปลดเปลื้องภาระการจ่ายค่าจ้าง
จำเลยว่าจ้างโจทก์เป็นทนายความว่าคดีให้จำเลย ครั้นคดีอยู่ในระหว่างฎีกา จำเลยขอถอนโจทก์จากการเป็นทนายโจทก์ไม่คัดค้าน ดังนี้ ไม่มีทางที่จะทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความผูกพันในอันจะต้องชำระค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนทนายไม่ปลดเปลื้องความผูกพันตามสัญญาจ้างว่าความ ค่าจ้างยังคงมีผล
จำเลยว่าจ้างโจทก์เป็นทนายความว่าคดีให้จำเลย ครั้นคดีอยู่ในระหว่างฎีกา จำเลยขอถอนโจทก์จากการเป็นทนายโจทก์ไม่คัดค้าน ดังนี้ ไม่มีทางที่จะทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความผูกพันในอันจะต้องชำระค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์