คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศิลปสิทธิวินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อค้า แต่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย: ยังคงได้รับการคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
แม้สัญญาเช่าจะมีข้อความว่า ผู้เช่าจะใช้ทรัพย์ที่เช่าเพื่อประโยชน์เฉพาะแต่เป็นที่ประกอบการค้า เท่านั้น ก็ดี ถ้าหากเป็นที่เห็นได้ว่า วัตถุประสงค์แห่งการเช่านั้นเพื่ออยู่อาศัยแล้ว ข้อสัญญาเช่นว่านี้ก็หาเป็นประโยชน์แก่ผู้ให้เช่าไม่ ผู้เช่าคงได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯอยู่นั่นเอง
เช่าตึกเป็นที่อยู่อาศัยแม้จะได้ประกอบธุรกิจในตึกที่เช่าด้วย ก็ไม่ทำให้การเช่านี้อยู่นอกความคุ้มครองแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อประกอบการค้า แต่มีวัตถุประสงค์หลักเป็นการอยู่อาศัย ยังคงได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
แม้สัญญาเช่าจะมีข้อความว่า ผู้เช่าจะใช้ทรัพย์ที่เช่า เพื่อประโยชน์เฉพาะแต่เป็นที่ประกอบการค้าเท่านั้น ก็ดี ถ้าหากเป็นที่เห็นได้ว่า วัตถุประสงค์แห่งการเช่านั้นเพื่ออยู่อาศัยแล้ว ข้อสัญญาเช่นว่านี้ก็หาเป็นประโยชน์แก่ผู้ให้เช่าไม่ ผู้เช่าคงได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ อยู่นั่นเอง
เช่าตึกเป็นที่อยู่อาศัย แม้จะได้ประกอบธุรกิจในตึกที่เช่าด้วย ก็ไม่ทำให้การเช่านี้อยู่นอกความคุ้มครองแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้บุตรหลังไถ่ถอนจำนองแล้ว และสิทธิในการถอนคืนกรณีบุตรประพฤติเนรคุณ
มารดายกที่ดินให้แก่บุตรปรากฏว่าที่ดินที่ยกให้นั้น ติดจำนองมาก่อนทำยกให้ แต่มารดาได้ไถ่ถอนการจำนองมาแล้วจึงทำยกให้แก่บุตร และเมื่อทำยกให้แล้ว ในวันเดียวกันนั้นบุตรก็จำนองที่ดินนั้นไว้แก่ผู้มีชื่ออีกดังนี้ถือได้ว่า ขณะเมื่อยกให้กัน หนี้จำนองอันติดอยู่กับที่ดินไม่มีแล้ว เพราะได้ไถ่ถอนแล้ว ฉะนั้นเมื่อภายหลังบุตรประพฤติเนรคุณมารดาย่อมถอนคืนการให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ และการไถ่ถอนจำนองก่อนการให้เพื่อความสมบูรณ์ของนิติกรรม
มารดายกที่ดินให้แก่บุตรปรากฎว่าที่ดินที่ยกให้นั้น ติดจำนองมาก่อนการจำนองมาแล้ว จึงทำยกให้แก่บุตร และเมื่อทำยกให้แล้ว ในวันเดียวกันนั้นบุตรก็จำนองที่ดินนั้นไว้แก่ผู้มีชื่ออีก ดังนี้ ถือได้ว่า ขณะเมื่อยกให้กัน หนี้จำนองอันติดอยู่กับที่ดินไม่มีแล้วเพราะได้ไถ่ถอนแล้ว ฉะนั้นเมื่อภายหลังบุตรประพฤติเนรคุณมารดาย่อมถอนคืนการให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางสัญญากู้: เจตนาที่แท้จริงคือการลงทุนร่วมธุรกิจ
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยตามหนังสือสัญญากู้จำเลยต่อสู้ว่าเป็นนิติกรรมอำพราง เมื่อคดีได้ความว่าความจริงเป้นเรื่องโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันในการแสดงลครเพื่อหาผลกำไร จำนวนเงินที่โจทก์จะมอบให้จำเลยไปซื้อหาและใช้จ่ายในการแสดงลครนั้นโจทก์ให้จำเลยทำหนังสือสัญญากู้โจทก์ไว้ เพื่อให้จำเลยเอาเงินไปใช้เพื่อประโยชน์ในการจัดการแสดงลครจริง ๆ และเพื่อป้องกันเจ้าหนี้อื่น ถ้าหากจำเลยจะไปก่อให้เกิดขึ้น มิให้มาฟ้องร้องโจทก์ในฐานเป็นหุ้นส่วน ดังนี้ สัญญากู้ดังกล่าวจึงเป็นนิติกรรมอำพราง ตกเป็นโมฆะ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 118.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางสัญญาเงินกู้เพื่อปกปิดความเป็นหุ้นส่วน
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยตามหนังสือสัญญากู้ จำเลยต่อสู้ว่า เป็นนิติกรรมอำพราง เมื่อคดีได้ความว่าความจริงเป็นเรื่องโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันในการแสดงละครเพื่อหาผลกำไร จำนวนเงินที่โจทก์จะมอบให้จำเลยไปซื้อหาและใช้จ่ายในการแสดงละครนั้นโจทก์ให้จำเลยทำหนังสือสัญญากู้โจทก์ไว้ เพื่อให้จำเลยเอาเงินไปใช้เพื่อประโยชน์ในการจัดการแสดงละครจริงๆ และเพื่อป้องกันเจ้าหนี้อื่นถ้าหากจำเลยจะไปก่อให้เกิดขึ้น มิให้มาฟ้องร้องโจทก์ในฐานเป็นหุ้นส่วน ดังนี้สัญญากู้ดังกล่าวจึงเป็นนิติกรรมอำพราง ตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่านาก่อนฤดูทำนา: สิทธิบอกเลิกสัญญา
การเช่านานั้นสันนิษฐานว่าเช่ากันชั่วฤดูทำนา เมื่อบอกเลิกการเช่านาก่อนฤดูทำนาปีใหม่สัญญาเช่าก็ต้องระงับไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่านาสันนิษฐานเป็นเช่าฤดูทำนา การบอกเลิกก่อนฤดูทำนาใหม่ทำให้สัญญาเช่าระงับ
การเช่านานั้นสันนิษฐานว่าเช่ากันชั่วฤดูทำนา เมื่อบอกเลิกการเช่านาก่อนฤดูทำนาปีใหม่สัญญาเช่าก็ต้องระงับไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากพยายามฆ่า/ทำร้ายร่างกาย เป็นประมาท และการไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนและฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บสาหัสแต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำให้เขาเกิดบาดเจ็บสาหัสโดยประมาท ดังนี้ศาลจะลงโทษจำเลยฐานประมาทไม่ได้เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในฐานนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษทางอาญาตามฟ้อง: ศาลไม่ลงโทษฐานประมาท หากโจทก์ไม่ประสงค์
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนและฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บสาหัสแต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำให้เขาเกิดบาดเจ็บสาหัสโดยประมาท ดังนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยฐานประมาทไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในฐานนี้
of 164