พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนทรัพย์สินของผู้ตายตกทอดแก่ทายาททันที
เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรมสิทธิในทางทรัพย์สินของผู้ตายย่อมตกทอดได้แก่ทายาททันที ฉะนั้นทายาทจึงมีสิทธิที่จะไถ่ถอนทรัพย์สินที่ผู้ตายขายฝากไว้ได้ โดยไม่ต้องรอให้รับโอนมรดกก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนการขายฝากตกทอดแก่ทายาททันทีเมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรม ไม่ต้องรอรับโอนมรดก
เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรมสิทธิในทางทรัพย์สินของผู้ตายย่อมตกทอดได้แก่ทายาททันที ฉะนั้นทายาทจึงมีสิทธิที่จะไถ่ถอนทรัพย์สินที่ผู้ตายขายฝากไว้ได้ โดยไม่ต้องรอให้รับโอนมรดกก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเลิกห้างหุ้นส่วนและการกำหนดอำนาจศาล คดีเลิกหุ้นส่วนไม่จำต้องฟ้องทุกหุ้นส่วน ศาลมีอำนาจตามภูมิลำเนาของจำเลยบางส่วน
การที่ผู้เป็นหุ้นส่วนฟ้องเลิกหุ้นส่วนนั้น ไม่จำต้องฟ้องผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน เพราะผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นอาจร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์หรือจำเลยได้ ไม่มีทางเสียเปรียบหรือเสียหายแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนอื่น ทั้งไม่มีบทกฎหมายบัญญัติบังคับให้ต้องฟ้องผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนด้วย
การฟ้องขอเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนนั้น แม้ทรัพย์สินที่พิพาทจะอยู่ที่จังหวัดพังงา และจำเลยคนหนึ่งมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดภูเก็ต แต่เมื่อจำเลยอื่นมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดพระนครแล้ว ศาลก็ย่อมมีอำนาจที่จะใช้ดุลยพินิจอนุญาตให้โจทก์ฟ้องยังศาลในพระนครได้
การฟ้องขอเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนนั้น แม้ทรัพย์สินที่พิพาทจะอยู่ที่จังหวัดพังงา และจำเลยคนหนึ่งมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดภูเก็ต แต่เมื่อจำเลยอื่นมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดพระนครแล้ว ศาลก็ย่อมมีอำนาจที่จะใช้ดุลยพินิจอนุญาตให้โจทก์ฟ้องยังศาลในพระนครได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าสวนที่มีข้อตกลงพิเศษ: สิทธิในการเช่าต่อเนื่องเมื่อปฏิบัติตามข้อตกลง
โจทก์จำเลยตกลงกันให้จำเลยเช่าสวนของโจทก์มีกำหนด 6 ปี โดยจำเลยมีหน้าที่ปลูกส้มเขียวหวานลงในสวนของโจทก์ดังนี้ เป็นสัญญาต่างตอบแทนชะนิดหนึ่ง ซึ่งมิใช่สัญญาเช่าตามธรรมดา ฉะนั้นเมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามข้อสัญญา คือได้ปลูกส้มเขียวหวานลงแล้ว จำเลยก็ย่อมมีสิทธิที่จะได้เช่าสวนต่อไปตามข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้จำเลยจึงมีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยจัดการจดทะเบียนการเช่าให้จำเลยได้ตามนัยฎีกาที่ 172/2488
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าสวนผสมการปลูกพืช: สิทธิการเช่าเมื่อปฏิบัติตามสัญญา
โจทก์จำเลยตกลงกัน ให้จำเลยเช่าสวนของโจทก์มีกำหนด 6 ปีโดยจำเลยมีหน้าที่ปลูกส้มเขียวหวานลงในสวนของโจทก์ดังนี้เป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดหนึ่ง ซึ่งมิใช่สัญญาเช่าตามธรรมดาฉะนั้นเมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามข้อสัญญา คือได้ปลูกส้มเขียวหวานลงแล้วจำเลยก็ย่อมมีสิทธิที่จะได้เช่าสวนต่อไปตามข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้
จำเลยจึงมีอำนาจฟ้องขอให้โจทก์จัดการจดทะเบียนการเช่าให้จำเลยได้ตามนัยฎีกาที่ 172/2488
จำเลยจึงมีอำนาจฟ้องขอให้โจทก์จัดการจดทะเบียนการเช่าให้จำเลยได้ตามนัยฎีกาที่ 172/2488
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุหย่า: การนอกใจ, ทำร้ายร่างกาย, และการไม่เลี้ยงดูภริยา
เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เกิดบุตรหญิงด้วยกันคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ อยู่มาภริยาสังเกตเห็นว่าสามีรักหญิงอื่น นอกใจภริยา เกิดต่อว่ากันขึ้น สามีด่าภริยา และด่าว่ากันเนือง ๆ บางคราวก็ใช้เท้าถีบภริยาใช้พร้าขว้างภริยา ไปร้องต่อผู้ใหญ่บ้านแสดงความประสงค์ไม่เลี้ยงดูภริยา และยังขับไล่ภริยาออกจากบ้าน ภริยาต้องไปอยู่กับยาย, สามียังห้ามไม่ให้ภริยากลับบ้าน สำทับว่าถ้าขืนกลับจะทำร้ายเอาระหว่างนั้น สามีไม่สนใจต่อภริยา ทำเหมือนภริยาเป็นคนอื่น เหล่านี้เป็นเหตุเพียงพอแล้วที่จะให้หย่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุหย่า: สามีทำร้ายร่างกาย-ทอดทิ้งภริยา-มีชู้
เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เกิดบุตรหญิงด้วยกันคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ อยู่มาภริยาสังเกตเห็นว่าสามีรักหญิงอื่น นอกใจภริยาเกิดต่อว่ากันขึ้น สามีด่าว่าภริยา และด่าว่ากันเนืองๆ บางคราวก็ใช้เท้าถีบภริยาใช้พร้าขว้างภริยาไปร้องต่อผู้ใหญ่บ้านแสดงความประสงค์จะไม่เลี้ยงดูภริยา และยังขับไล่ภริยาออกจากบ้าน ภริยาต้องไปอยู่กับยาย,สามียังห้ามไม่ให้ภริยากลับบ้านสำทับว่าถ้าขืนกลับจะทำร้ายเอา,ระหว่างนั้นสามีไม่สนใจต่อภริยาทำเหมือนภริยาเป็นคนอื่น เหล่านี้เป็นเหตุเพียงพอแล้วที่จะให้หย่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นข้อฟ้องเคลือบคลุมหลังศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่ และการระบุพยานหลังกำหนด
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุมพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ดังนี้ จำเลยชอบที่จะฎีกาต่อไปว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ถ้าจำเลยมิได้ฎีกาปล่อยให้ขาดอายุความฎีกาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ให้จำเลยแพ้คดีและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา แล้วจะยกข้อฟ้องเคลือบคลุมขึ้นโต้แย้งอีกไม่ได้ เพราะปัญหาข้อนี้ถึงที่สุดไปแล้ว
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่าระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าวแล้ว ได้
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่าระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าวแล้ว ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับคำโต้แย้งเรื่องฟ้องเคลือบคลุมหลังศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว และการระบุพยานไม่ทันตามกำหนด
ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ดังนี้ จำเลยชอบที่จะฎีกาต่อไปว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมถ้าจำเลยมิได้ฎีกาปล่อยให้ขาดอายุความฎีกาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้น พิจารณาพิพากษาใหม่ ให้จำเลยแพ้คดี และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา แล้วยกข้อฟ้องเคลือบคลุมขึ้นโต้แย้งอีกไม่ได้ เพราะปัญหาข้อนี้ถึงที่สุดไปแล้ว
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่า ระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าว ได้
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่า ระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าว ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624-628/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การเช่าจากที่อยู่อาศัยเป็นเชิงพาณิชย์ ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องที่ตั้งอยู่ในทำเลการค้า แม้ในชั้นแรกเช่าโดยใช้เป็นที่อยู่อาศัยก็ดี แต่การเช่ามิได้ทำสัญญากันเป็นหนังสือ และมิได้กำหนดระยะเวลาการเช่าไว้เป็นที่แน่นอน คงมีแต่การเก็บและชำระค่าเช่ากันเป็นรายเดือนตลอดมาเป็นเวลาช้านาน ฟ้องเช่าบางห้องเปลี่ยนมือจากเจ้าของกันถึง 3 เจ้าของก็มี ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่าวัตถุประสงค์แห่งการเช่าอาจเปลี่ยนแปลงไปเพื่อประกอบธุระกิจหรือการค้าก็ได้ ฉะนั้นในชั้นหลังนี้ เมื่อผู้เช่าใช้ห้องเช่าเป็นที่ประกอบธุระกิจหรือประกอบการค้า แล้ว ผู้เช่าก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ