คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศิลปสิทธิวินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624-628/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การเช่าจากที่อยู่อาศัยเป็นเชิงพาณิชย์ ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องที่ตั้งอยู่ในทำเลการค้า แม้ในชั้นแรกเช่าโดยใช้เป็นที่อยู่อาศัยก็ดี แต่การเช่ามิได้ทำสัญญากันเป็นหนังสือ และมิได้กำหนดระยะเวลาการเช่าไว้เป็นที่แน่นอน คงมีแต่การเก็บและชำระค่าเช่ากันเป็นรายเดือนตลอดมาเป็นเวลาช้านาน ฟ้องเช่าบางห้องเปลี่ยนมือจากเจ้าของกันถึง 3 เจ้าของก็มี ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่าวัตถุประสงค์แห่งการเช่าอาจเปลี่ยนแปลงไปเพื่อประกอบธุระกิจหรือการค้าก็ได้ ฉะนั้นในชั้นหลังนี้ เมื่อผู้เช่าใช้ห้องเช่าเป็นที่ประกอบธุระกิจหรือประกอบการค้า แล้ว ผู้เช่าก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแบ่งมรดก: สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ชัดเจน ทำให้ต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับจากเจ้ามรดกเสียชีวิต
เจ้ามรดกตายลง ทายาท 2 คน เป็นความกัน ในที่สุดทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า ทายาทผู้ครอบครองที่ดินแปลงหนึ่ง จะจัดการแบ่งที่ดินแปลงนั้นให้แก่ทายาทคนอื่น ดังนี้ เมื่อไม่ได้ระบุตัวบุคคลว่า เป็นใครที่จะแบ่งมรดกให้ไว้ชัดแจ้ง แล้วก็ไม่ทำให้อายุความฟ้องร้องภายใน 1 ปี สดุดหยุดลง ฉะนั้นผู้ที่เป็นทายาทอื่นจะฟ้องทายาทผู้ครอบครองที่ดิน ให้แบ่งที่ดินให้แก่ตนจะต้องฟ้องภายในอายุความ 1 ปี นับแต่วันเจ้ามรดกถึงแก่กรรม มิฉะนั้นคดีย่อมขาอดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแบ่งมรดก: สัญญาประนีประนอมไม่สะดุดอายุความ
เจ้ามรดกตายลง ทายาท 2 คนเป็นความกัน ในที่สุด ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า ทายาทผู้ครอบครองที่ดินแปลงหนึ่ง จะจัดการแบ่งที่ดินแปลงนั้นให้แก่ทายาทคนอื่นดังนี้ เมื่อไม่ได้ระบุตัวบุคคลว่า เป็นใครที่จะแบ่งมรดกให้ไว้ชัดแจ้ง แล้วก็ไม่ทำให้อายุความฟ้องร้องภายใน 1 ปีสะดุดหยุดลง ฉะนั้นผู้ที่เป็นทายาทอื่นจะฟ้องทายาทผู้ครอบครองที่ดิน ให้แบ่งที่ดินให้แก่ตนจะต้องฟ้องภายในอายุความ 1 ปีนับแต่วันเจ้ามรดกถึงแก่กรรมมิฉะนั้นคดีย่อมขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีฉ้อโกงและแจ้งความเท็จ: ผู้เสียหายและฐานความผิด
จำเลยเอาที่ดินของโจทก์ไปจำนองไว้กับสหกรณ์โดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จกับพนักงานสหกรณ์ว่าเป็นที่ดินของจำเลย พนักงานสหกรณ์หลงเชื่อจึงยอมรับจำนองที่ดินไว้ และจ่ายเงินแก่จำเลยไป ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยฉ้อโกงสหกรณ์ โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ถูกหลอกลวงฉ้อโกง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงได้ แต่ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต่อพนักงานสหกรณ์นั้น ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายเหมือนกัน โจทก์จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเสียหายจากการฉ้อโกงและการแจ้งความเท็จ อำนาจฟ้องของผู้ถูกหลอกลวง
จำเลยเอาที่ดินของโจทก์ไปจำนองไว้กับสหกรณ์โดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จกับพนักงานสหกรณ์ว่าเป็นที่ดินของจำเลยพนักงานสหกรณ์หลงเชื่อจึงยอมรับจำนองที่ดินไว้ และจ่ายเงินแก่จำเลยไป ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยฉ้อโกงสหกรณ์ โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ถูกหลอกลวงฉ้อโกง โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงได้ แต่ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต่อพนักงานสหกรณ์นั้น ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายเหมือนกันโจทก์จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้จะซื้อที่ดินหลังศาลพิพากษา: เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายซ้ำได้
สิทธิของผู้จะซื้อที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินนั้นเมื่อนำคดีมาสู่ศาลจนศาลพิพากษาให้ผู้จะขายโอนขายที่ดินให้แก่ผู้จะซื้อตามสัญญาจะซื้อขายนั้นแล้ว แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด ก็อยู่ในฐานะเป็นผู้อันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 แล้ว ฉะนั้นถ้าผู้จะขายขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปในระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด โดยผู้ซื้อไม่สุจริตแล้ว ผู้จะซื้อก็มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237,1300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้จะซื้อที่ดินเมื่อคดีถึงที่สุดช้า การเพิกถอนนิติกรรมโอนขายที่ดินที่ไม่สุจริต
สิทธิของผู้จะซื้อที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายที่ดิน เมื่อนำคดีมาสู่ศาลจนศาลพิพากษาให้ผู้จะขายโอนขายที่ดินให้แก่ผู้จะซื้อขายนั้นแล้ว แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด ก็อยู่ในฐานะเป็นผู้อันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1300 แล้ว ฉะนั้นถ้าผู้จะขาย ที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปในระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด โดยผู้ซื้อไม่สุจริตแล้ว ผู้จะซื้อก็มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นเสียได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 237, 1300.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนสมรสกับผู้อื่นหลังมีภรรยาแล้ว และละทิ้งการเลี้ยงดู ถือเป็นเหตุให้ภรรยาเก่าฟ้องหย่าได้
ชายมีภรรยาอยู่แล้ว ยังไปมีภรรยาใหม่อีก แล้วพาภรรยาใหม่ไปจดทะเบียนสมรส และไม่ถือว่าภรรยาเก่าเป็นภรรยา ซึ่งแสดงว่าชายหมดอาลัยใยดีต่อภรรยาเก่าแล้ว ถือได้ว่า ชายกระทำเป็นปฏิปักษ์ต่อลักษณะการเป็นสามีภริยากับภรรยาเก่าอย่างร้ายแรง และชายยังมิได้ส่งเสียเลี้ยงดูภรรยาเก่าและบุตรตามคำสัญญาประนีประนอมเป็นเวลาปีเศษ โดยไม่มีเหตุจำเป็นอันใด ดังนี้ ภรรยเก่าฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากับชายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าเนื่องจากมีภรรยาใหม่ ละทิ้งภรรยาเก่า และไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
ชายมีภรรยาอยู่แล้ว ยังไปมีภรรยาใหม่อีกแล้วพาภรรยาใหม่ไปจดทะเบียนสมรส และไม่ถือว่าภรรยาเก่าเป็นภรรยา ซึ่งแสดงว่าชายหมดอาลัยใยดีต่อภรรยาเก่าแล้วถือได้ว่า ชายกระทำเป็นปฏิปักษ์ต่อลักษณะการเป็นสามีภริยากับภรรยาเก่าอย่างร้ายแรง และชายยังมิได้ส่งเสียเลี้ยงดูภรรยาเก่าและบุตรตามคำสัญญาประนีประนอมเป็นเวลาปีเศษ โดยไม่มีเหตุจำเป็นอันใด ดังนี้ ภรรยาเก่าฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากับชายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายข้าวเปลือกด้วยปากเปล่ามีผลผูกพันเมื่อมีการส่งมอบข้าว
ซื้อขายข้าวเปลือกราคากว่า 500 บาทกันด้วยปากเปล่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ และไม่ได้วางมัดจำกัน แต่ผู้ซื้อได้รับมอบข้าวที่ซื้อขายกันไปแล้วดังนี้ สัญญาซื้อขายย่อมบังคับกันได้ตามกฎหมาย
of 164