คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศิลปสิทธิวินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมของผู้เช่าต่อการออกจากห้องเช่าตามมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า และผลต่อการฟ้องขับไล่
ผู้ให้เช่ายื่นคำร้องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าเอง ต่อคณะอนุกรรมการควบคุมค่าเช่าประจำจังหวัด อนุกรรมการได้เชิญให้ผู้ให้เช่าและผู้เช่ามาเพื่อแจ้งมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าให้ทราบ ผู้ให้เช่าและผู้เช่าจึงตกลงยินยอมตามกำหนดที่คณะกรรมการกำหนด คือให้ผู้เช่าออกจากห้องเช่าภายใน 8 เดือนและมีความว่าผู้เช่าตกลงยินยอมจะออกจากห้องเช่าของผู้ให้เช่าตามมติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าภายในกำหนด 8 เดือนฯลฯ ดังนี้ข้อตกลงเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นความยินยอมของผู้เช่าตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ มาตรา 16(5) แล้ว ฉะนั้นภายหลังอนุกรรมการควบคุมค่าเช่าประจำจังหวัดจะเสนอเรื่องนี้ขึ้นไปยังคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าสั่งตามอำนาจ คณะกรรมการได้ลงมติไม่ให้ผู้เช่าเข้าอยู่ห้องเช่าของผู้ให้เช่าตามคำร้องก็ตาม มติกรรมการก็ไม่ลบล้างความยินยอมดังกล่าวแล้ว ฉะนั้นเมื่อครบกำหนด 8 เดือนแล้วผู้เช่าไม่ออกจากห้องเช่า โจทก์ย่อมฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1798/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การและผลกระทบจากประกาศที่ขัดแย้งกับหมายเรียก ศาลพิจารณาความสุจริตของผู้ถูกฟ้อง
โจทก์ฟ้องจำเลยแต่ส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องให้จำเลยไม่ได้ ศาลจึงประกาศเรียกจำเลยทางหนังสือพิมพ์ในประกาศมีกำหนดไว้ว่าให้จำเลยยื่นคำให้การในวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 แต่จำเลยกลับมาขอรับสำเนาฟ้อง และหมายเรียกไปจากศาลเองในวันที่ 23 เมษายน 2492 แล้วเพิ่งมายื่นคำให้การเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ดังนี้แม้จะเกินกำหนด 8 วัน แต่เมื่อจำเลยยืนยันว่าเข้าใจโดยสุจริตว่ายื่นคำให้การได้ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ตามกำหนดในประกาศแลศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยอาจเข้าใจดังนั้นได้จริง ศาลก็มีอำนาจสั่งว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1798/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การ: การพิจารณาความสุจริตของผู้ถูกฟ้องและอำนาจศาล
โจทก์ฟ้องจำเลยแต่ส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องให้จำเลยไม่ได้ศาลจึงประกาศเรียกจำเลยทางหนังสือพิมพ์ในประกาศมีกำหนดไว้ว่าให้จำเลยยื่นคำให้การในวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 แต่จำเลยกลับมาขอรับสำเนาฟ้อง และหมายเรียกไปจากศาลเองในวันที่ 23 เมษายน 2492 แล้วเพิ่งมายื่นคำให้การเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ดังนี้แม้จะเกินกำหนด 8 วัน แต่เมื่อจำเลยยืนยันว่าเข้าใจโดยสุจริตว่ายื่นคำให้การได้ถึง วันที่ 9 พฤษภาคม 2492 ตามกำหนดในประกาศและศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยอาจเข้าใจดังนั้นได้จริง ศาลก็มีอำนาจสั่งว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายสลากทายผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการพนันผิดกฎหมาย
จำเลยจำหน่ายขายเลขสลาก 1000 ฉะบับมีตั้งแต่เลขหมาย 000 จนถึง 999 ให้แก่ผู้ซื้อ ซึ่งเรียกว่าผู้แทง ส่วนจำเลยเป็นเจ้ามือ ถ้าสลากของผู้ซื้อตรงกับเลขท้าย 3 ตัวของสลากรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาล ถือว่าทายถูกเป็นผู้ชนะ จำเลยจะต้องใช้ หรือจ่ายเงินให้แก่ผู้ซื้อที่ถูกสลากเป็นจำนวน 600 ต่อ ดังนี้ เป็นการเล่นที่เสี่ยงโชคให้เงินหรือประโยชน์อย่างอื่นแก่ผู้เล่นตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข.ลำดับเลข 16 ท้าย พ.ร.บ.การพะนัน 2478 เมื่อจัดการเล่นขึ้นโดยมิได้รับอนุญาต ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพะนัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายสลากทายผลเลขท้าย 3 ตัวเข้าข่ายการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน
จำเลยจำหน่ายขายเลขสลาก 1,000 ฉบับมีตั้งแต่เลขหมาย000 จนถึง 999 ให้แก่ผู้ซื้อซึ่งเรียกว่าผู้แทง ส่วนจำเลยเป็นเจ้ามือ ถ้าสลากของผู้ซื้อตรงกับเลขท้าย 3 ตัวของสลากรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาล ถือว่าทายถูกเป็นผู้ชนะ จำเลยจะต้องใช้ หรือจ่ายเงินให้แก่ผู้ซื้อที่ถูกสลากเป็นจำนวน 600 ต่อ ดังนี้ เป็นการเล่นที่เสี่ยงโชคให้เงินหรือประโยชน์อย่างอื่นแก่ผู้เล่นตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข.ลำดับ-เลข 16 ท้าย พระราชบัญญัติการพนัน 2478 เมื่อจัดการเล่นขึ้นโดยมิได้รับอนุญาตก็เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1680/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมขายส่วนของตนได้ แม้ไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วมอื่น หากระบุส่วนสัดชัดเจน
เจ้าของร่วมคนหนึ่ง ๆ ขายที่ดินให้ผู้อื่นโดยระบุส่วนสัดของคนบอกจำนวนเนื้อที่ไว้อย่างชัดแจ้ง มิได้เกินกว่าส่วนสิทธิของตนนั้น แม้เจ้าของร่วมคนอื่นจะมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ก็ตาม การซื้อขายนั้นก็ย่อมสมบูรณ์ตาม ป.ม.แพ่ง ฯมาตรา 1361 วรรค 1 ส่วนมาตรา 1361 วรรค 2 นั้น ท่านประสงค์ห้ามมิให้เจ้าของร่วมคนหนึ่ง ๆ จำหน่าย จำนำ หรือก่อให้เกิดภาระติดพันแก่ตัวทรัพย์สินนั้น โดยมิได้รับความยินยอมแห่งเจ้าของร่วมทุกคนเพราะเป็นการทำลายสิทธิของเจ้าของรวมคนอื่นด้วย มิใช่แต่เฉพาะส่วนของตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1674/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฐานะจำเลยและการฟ้องคดี: สิทธิการฟ้องคดีระงับ
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ศาลสั่งไม่รับฟ้อง โดยอ้างว่าสิทธิการฟ้องคดีระงับ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้ดำเนินการไต่สวนต่อไปนั้น จำเลยจะฎีกายังไม่ได้เพราะจำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย หากเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์เท่านั้น (อ้างฎีกาที่296/2480 และที่ 199/2483)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1674/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฐานะจำเลยยังไม่เกิดขึ้นก่อนศาลประทับฟ้อง: สิทธิฎีกา
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ศาลสั่งไม่รับฟ้อง โดยอ้างว่าสิทธิการฟ้องคดีระงับแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้ดำเนินการไต่สวนต่อไปนั้น จำเลยจะฎีกายังไม่ได้เพราะจำเลยยังไม่มีฐานะเป็นจำเลย หากเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์เท่านั้น
(อ้างฎีกาที่ 296/2480 และ ที่ 199/2483)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือกู้จากการพนันไม่สมบูรณ์ ไม่ถือเป็นหนังสือสำคัญทางกฎหมาย การทำลายจึงไม่ผิด
ทำหนังสือกู้ให้ไว้แทนเงินที่แพ้พะนันแก่เขานั้น ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 855 บัญญัติไว้ว่าหนังสือกู้เช่นนี้ ย่อมไม่สมบูรณ์ ฉะนั้นหนังสือกู้นี้จึงไม่มีผลเป็นสำคัญแก่การก่อตั้งกรรมสิทธิหรือหนี้สินตามกฎหมายอย่างไรเลย จึงขาดลักษณะการเป็นหนังสือสำคัญตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 6 (20) ฉะนั้นถ้าหลอกลวงให้เขาส่งหนังสือเช่นว่านี้มาให้ตนแล้ว ฉีกทำลายเสีย ก็ยังไม่เป็นความผิดฐานทำลายหนังสือสำคัญตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 304

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือกู้จากการพนัน: ไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นหนังสือสำคัญทางกฎหมายอาญา
ทำหนังสือกู้ให้ไว้แทนเงินที่แพ้พนันแก่เขานั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 855 บัญญัติไว้ว่าหนังสือกู้เช่นนี้ ย่อมไม่สมบูรณ์ ฉะนั้นหนังสือกู้นี้จึงไม่มีผลเป็นสำคัญแก่การก่อตั้งกรรมสิทธิหรือหนี้สินตามกฎหมายอย่างไรเลย จึงขาดลักษณะการเป็นหนังสือสำคัญตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 6(20) ฉะนั้นถ้าหลอกลวงให้เขาส่งหนังสือเช่นว่านี้มาให้ตนแล้ว ฉีกทำลายเสีย ก็ยังไม่เป็นความผิดฐานทำลายหนังสือสำคัญตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 304
of 164