พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกโดยการแบ่งทรัพย์สินหรือชำระเป็นเงิน หากไม่สามารถทำได้ให้ขายทอดตลาด
ศาลตัดสินให้โจทก์ชนะคดีโดยให้จำเลยแบ่งมรดก ที่สวนที่นาและสวนมะพร้าวตามบัญชีท้ายฟ้องให้โจทก์ครึ่งหนึ่งหรือใช้เงินให้โจทก์ 15,000 บาท ถ้าไม่แบ่งหรือแบ่งแยกไม่ได้ หรือไม่ใช้เงินภายใน 1 เดือน ก็ให้ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันคนละครึ่ง เมื่อปรากฏว่าที่สวนมะพร้าวแพงขึ้นจำเลยจึงเลือกเอาทางนำเงิน 15,000 บาทมาวางศาลเพื่อชำระแก่โจทก์ ดังนี้ ถ้าโจทก์ไม่ตกลงด้วยศาลก็ต้องบังคับให้จำเลยแบ่งที่มรดกให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการเลือกวิธีชำระหนี้ตามคำพิพากษา: การแบ่งมรดกหรือชำระเป็นเงิน
ศาลตัดสินให้โจทก์ชนะคดีโดยให้จำเลยแบ่งมรดก ที่สวนที่นาและสวนมะพร้าวตามบัญชีท้ายฟ้องให้โจทก์ครึ่งหนึ่งหรือใช้เงินให้โจทก์ 15000 บาท ถ้าไม่แบ่งหรือแบ่งแยกไม่ได้ หรือไม่ใช้เงินภายใน 1 เดือน ก็ให้ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันคนละครึ่ง เมื่อปรากฎว่าที่สวนมะพร้าว แพงขึ้นจำเลยจึงเลือกเอาทางนำเงิน 15000 บาทมาวางศาลเพื่อชำรแก่โจทก์ ดังนี้ ถ้าโจทก์ไม่ตกลงด้วย ศาลก็ต้องบังคับให้จำเลยแบ่งที่มรดกให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333-1334/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: เหตุอันสมควรในการระบุสถานที่เกิดเหตุ แม้หลังจำเลยคัดค้าน
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร ขอให้ลงโทษ แต่ในฟ้องมิได้บรรยายว่าเหตุเกิด ณที่ใดจำเลยจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ในวันเดียวกันนั้นโจทก์จึงขอเพิ่มเติมฟ้องระบุว่า เกิดเหตุที่ตำบลใด ดังนี้ แม้ในคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องจะไม่แสดงเหตุอันสมควรที่จะขอเพิ่มเติมฟ้อง ศาลก็พิจารณาว่ามีเหตุอันสมควรได้เอง และอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333-1334/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: ศาลอนุญาตได้แม้ไม่มีเหตุผลสนับสนุน หากเห็นสมควร
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร ขอให้ลงโทษ แต่ในฟ้องมิได้บรรยายว่าเหตุเกิด ณ ที่ใด จำเลยจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ในวันเดียวกันนั้นโจทก์จึงขอเพิ่มเติมฟ้องระบุว่า เกิดเหตุที่ตำบลใด ดังนี้ แม้ในคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องจะไม่แสดงเหตุอันสมควรที่จะขอเพิ่มเติมฟ้อง ศาลก็พิจารณาว่ามีเหตุอันสมควรได้เองและอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉุดดึงบุตรบุญธรรมเพื่อพาไปอยู่ด้วย ไม่ถือเป็นการประทุษฐร้ายร่างกาย
ยกบุตรของตนอายุ 7 ขวบให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่นไปแล้ว ภายหลงไปฉุดแขนบุตรคนนั้นในขณะที่กำลังกลับจากโรงเรียน เพื่อจะพาไปอยู่ด้วย ดังนี้ไม่เป็นการบังอาจประทุษฐร้ายร่างกายบุตรของตน จึงยังไม่เป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 338 (3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉุดแขนบุตรหลังยกให้เป็นบุตรบุญธรรม ไม่เป็นประทุษร้ายร่างกาย
ยกบุตรของตนอายุ 7 ขวบให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่นไปแล้ว ภายหลังไปฉุดแขนบุตรคนนั้นในขณะที่กำลังกลับจากโรงเรียน เพื่อจะพาไปอยู่ด้วย ดังนี้ ไม่เป็นการบังอาจประทุษร้ายร่างกายบุตรของตน จึงยังไม่เป็นผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 338(3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายและการบังคับให้โอนกรรมสิทธิ์เมื่อรับเงินค่าตึกและที่ดินครบถ้วนแล้ว
ฟ้องว่า จำเลยขายตึกและที่ดินให้โจทก์ราคาสามพันบาท จำเลยรับเงินสามพันบาทค่าตึกกับที่ดินไปแล้ว จำเลยมอบตึกและที่ดินให้โจทก์ครอบครองแล้วจำเลยสัญญาว่า จะไปโอนทางทะเบียน แต่ต่อมากลับอาไปขายแก่คนอื่น จึงขอให้บังคับจำเลยโอนทางทะเบียนให้โจทก์ ดังนี้ ย่อมถือว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยสัญยาจะขายตึกกับที่ดินให้โจทก์ โดยจำเลยรับเงินค่าตึกและที่ดินไปแล้ว จะถือว่าเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาดแล้วไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขาย กับ สัญญาซื้อขาย: การรับเงินค่าตึก/ที่ดินยังไม่ถือเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาด
ฟ้องว่า จำเลยขายตึกและที่ดินให้โจทก์ราคาสามพันบาทจำเลยรับเงินสามพันบาทค่าตึกกับที่ดินไปแล้ว จำเลยมอบตึกและที่ดินให้โจทก์ครอบครองแล้วจำเลยสัญญาว่า จะไปโอนทางทะเบียน แต่ต่อมากลับเอาไปขายแก่คนอื่นจึงขอให้บังคับจำเลยโอนทางทะเบียนให้โจทก์ ดังนี้ย่อมถือว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยสัญญาจะขายตึกกับที่ดินให้โจทก์โดยจำเลยรับเงินค่าตึกและที่ดินไปแล้ว จะถือว่าเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาดแล้วไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้อง: การไม่ดำเนินการใดๆ หลังศาลสั่งให้จำเลยทราบเรื่อง
พฤติการณ์ที่ถือว่า ทิ้งฟ้องชั้นฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องฎีกา: ผลของการไม่จัดการเมื่อศาลสั่งให้ดำเนินการ
จำเลยยื่นฎีกา เจ้าพนักงานกองหมายนำหมายนัดและสำเนาฎีกาส่งแก่โจทก์แต่ส่งไม่ได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า"ให้จำเลยทราบและจะจัดการอย่างไร" ทนายจำเลยได้ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นลงวันที่ 10 มกราคม 2494 และจนถึงวันที่29 มกราคม 2494 ก็มิได้แถลงให้ศาลทราบ จนศาลชั้นต้นส่งสำนวนมาศาลฎีกา พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตามความในมาตรา 174 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามมาตรา 132 ประกอบมาตรา 247