คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศิลปสิทธิวินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์และการพิพากษาแก้เฉพาะบางส่วน ศาลฎีกาไม่รับฎีกาข้อเท็จจริงเนื่องจากเป็นการแก้น้อย
คดีร้องขัดทรัพย์ทั้งหมดมีราคาเพียง 520 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ถอนการยึดทรัพย์ทั้งหมด ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาให้ถอนการยึดเรือนราคา 20 บาทตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนที่ดิน 3 แปลงราคาไม่เกิน 500 บาท ให้โจทก์มีสิทธิยึดเพื่อขายทอดตลาดได้ ได้สุทธิเท่าใดมอบให้ผู้ร้องกึ่งหนึ่ง อีกกึ่งหนึ่งหักใช้หนี้ตามคำพิพากษา ดังนี้เป็นการพิพากษาแก้น้อยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์และการบังคับคดี: ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะบางส่วนของคำพิพากษาศาลชั้นต้น ถือเป็นการแก้น้อย ฎีกาไม่ได้
คดีร้องขัดทรัพย์ทั้งหมดมีราคาเพียง 520 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ถอนการยึดทรัพย์ทั้งหมด ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาให้ถอนการยึดเรือนราคา 20 บาทตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนที่ดิน 3 แปลงราคาไม่เกิน 500 บาทให้โจทก์มีสิทธิยึดเพื่อขายทอดตลาดได้ ได้สุทธิเท่าใดมอบให้ผู้ร้องกึ่งหนึ่ง อีกกึ่งหนึ่งหักใช้หนี้ตามคำพิพากษา ดังนี้เป็นการพิพากษาแก้น้อยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องตามศาลชั้นต้น แม้ฟังข้อเท็จจริงต่างกัน
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ตามศาลชั้นต้น แม้จะฟังข้อเท็จจริงต่างกันมา ผลแห่งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก็คงยกฟ้องโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้นนั่นเอง ดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 (และตามตัวอย่างฎีกาที่ 497/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องตามศาลชั้นต้น แม้ข้อเท็จจริงต่างกัน
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ตามศาลชั้นต้น แม้จะฟังข้อเท็จจริงต่างกันมา ผลแห่งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก็คงยกฟ้องโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้นนั่นเอง ดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 248 (และตามตัวอย่างฎีกาที่ 497/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตฟ้องจำกัด - การลงโทษเกินเลยจากข้อกล่าวหาเดิม
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยทำร้ายร่างกายเขามีบาดเจ็บถึงสาหัสแล้วเขาทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมานั้นเอง ไม่มีข้อความว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเขาแม้ท้ายฟ้องจะระบุ ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา คงถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 251 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฟ้องคดีอาญา - การลงโทษเกินฟ้อง และการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยทำร้ายร่างกายเขามีบาดเจ็บ ถึงสาหัสแล้ว เขาทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมานั้นเอง ไม่มีข้อความว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเขาแม้ท้ายฟ้องจะระบุ กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ก็ถือไม่ได้ว่า เป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาคงถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 251 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายเงินรางวัลให้เจ้าพนักงานผู้จับกุม แม้คำขอท้ายฟ้องไม่ได้ระบุชัดเจน ศาลสามารถพิจารณาจากอำนาจของพนักงานอัยการได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรและขอให้จ่ายรางวัลด้วย ตามคำบรรยายฟ้องกล่าวแต่ว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้แต่คำขอท้ายฟ้องขอให้จ่ายเงินรางวัลแก่พลตำรวจผู้หนึ่ง โดยระบุชื่อตำรวจผู้นั้นลงไปโดยไม่ได้กล่าวยืนยันว่าตำรวจผู้นั้นเป็นผู้จับจำเลยด้วยหรือไม่ดังนี้ศาลก็พิพากษาให้จ่ายเงินรางวัลให้แก่เจ้าพนักงานผู้จับจำเลยได้ โดยไม่ต้องระบุชื่อว่าจ่ายให้ใคร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายเงินรางวัลให้เจ้าพนักงานผู้จับกุมจาก พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร แม้ฟ้องไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรและขอให้จ่ายรางวัลด้วย ตามคำบรรยายฟ้องกล่าวแต่ว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้ แต่คำขอท้ายฟ้องขอให้จ่ายเงินรางวัลแก่พลตำรวจผู้หนึ่งโดยระบุชื่อตำรวจผู้นั้นลงไปโดยไม่ได้กล่าวยืนยันว่าตำรวจผู้นั้นเป็นผู้จับจำเลยด้วยหรือไม่ดังนี้ ศาลก็พิพากษาให้จ่ายเงินรางวัลให้แก่เจ้าพนักงานผู้จับจำเลยได้ โดยไม่ต้องระบุชื่อว่า จ่ายให้ใคร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดราคาฝิ่นและมูลฝิ่นตาม พ.ร.บ.ฝิ่น: ศาลฎีกาชี้ขาดการตีความมาตรา 6
โจทก์ฟ้องจำเลยรับสารภาพได้ความว่าจำเลยมีเนื้อฝิ่นและมูลฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เนื้อฝิ่นรัฐบาลจำหน่ายกรัมละ 4 บาท ส่วนมูลฝิ่นรัฐบาลจำหน่ายกรัมละเท่าใดไม่ได้ความดังนี้คงปรับจำเลยได้ 5 เท่าของราคาเนื้อฝิ่น ส่วนเกณฑ์ปรับฐานมีมูลฝิ่นต้องปรับอย่างสูง 50 บาทเท่านั้น เพราะโจทก์ไม่แจ้งราคามูลฝิ่น
(อ้างฎีกาที่ 1037/82, 914/87)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดราคาฝิ่นและมูลฝิ่นเพื่อการปรับโทษทางอาญาตามพระราชบัญญัติฝิ่น
โจทก์ฟ้องจำเลยรับสารภาพได้ความว่า จำเลยมีเนื้อฝิ่นและมูลฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เนื้อฝิ่นรัฐบาลจำหน่ายกรัมละ 4 บาท ส่วนมูลฝิ่นรัฐบาลจำหน่ายกรัมละเท่าใดไม่ได้ความ ดังนี้คงปรับจำเลยได้ 5 เท่าของราคาเนื้อฝิ่น ส่วนเกณฑ์ปรับฐานมีมูลฝิ่นต้องปรับอย่างสูง 50บาทเท่านั้น เพราะโจทก์ไม่แจ้งราคามูลฝิ่น (อ้างฎีกาที่ 1037/2482,914/2487)
of 164