พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1581/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขายอสังหาริมทรัพย์ของผู้เยาว์ต้องได้รับอนุญาตจากศาลจึงมีผลผูกพัน
การที่มารดาเอาที่ดินของบุตร ซึ่งยังเป็นผู้เยาว์ไปทำสัญญาจะขายแก่ผู้อื่นนั้นเป็นสัญญาซึ่งตายนัยแห่ง ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1546(1) เป็นที่เข้าใจกันอยู่ว่าจะผูกพันเด็กได้ก็ต่อเมื่อศาลได้อนุญาตให้ขายตามสัญญานั้นแล้ว
(อ้างฎีกาที่ 462/2488)
(อ้างฎีกาที่ 462/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1581/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินของผู้เยาว์ต้องได้รับอนุญาตจากศาลจึงมีผลผูกพัน
การที่มารดาเอาที่ดินของบุตร ซึ่งยังเป็นผู้เยาว์ไปทำสัญญาจะขายแก่ผู้อื่นนั้นเป็นสัญญาซึ่งตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(1) เป็นที่เข้าใจกันอยู่ว่าจะผูกพันเด็กได้ก็ต่อเมื่อศาลได้อนุญาตให้ขายตามสัญญานั้นแล้ว (อ้างฎีกาที่ 462/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังข้อเท็จจริงจากฟ้องเดิม & งดสืบพยานเมื่อมีข้อเท็จจริงเพียงพอ
บิดาผู้ตายฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจำนองที่ผู้ตายจำนองเขาไว้โดยอ้างว่าเขารับจำนองไม่สุจริตเมื่อปรากฎว่าบิดาผู้ตายกับภรรยาผู้ตายเคยเป็นความกันเรื่องที่ดินแปลงนี้มาก่อนแล้ว และในคดีก่อนนั้นบิดาผู้ตายกล่าวในฟ้องว่าผู้รับจำนองรายที่กล่าวนี้รับจำนองจากผู้ตายโดยสุจริต ดังนี้ศาลย่อมรับฟังความข้อนี้จากฟ้องฉะบับก่อนได้ว่า ผู้รับจำนองรับจำนองโดยสุจริตโดยไม่ต้องสืบพยานต่อไปและแม้บิดาผู้ตายจะขอสืบว่าความจริงผู้รับจำนองรับจำนองไว้โดยไม่สุจริตศาลก็มีอำนาจงดสืบได้เพราะคดีฟังได้ดังกล่าวแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังข้อเท็จจริงจากฟ้องเดิมและการงดสืบพยานเมื่อมีข้อเท็จจริงเพียงพอต่อการวินิจฉัยคดี
บิดาผู้ตายฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจำนอง ที่ผู้ตายจำนองเขาไว้โดยอ้างว่าเขารับจำนองไม่สุจริต เมื่อปรากฏว่า บิดาผู้ตายกับภรรยาผู้ตายเคยเป็นความกันเรื่องที่ดินแปลงนี้มาก่อนแล้ว และในคดีก่อนนั้นบิดาผู้ตายกล่าวในฟ้องว่าผู้รับจำนองรายที่กล่าวนี้รับจำนองจากผู้ตายโดยสุจริตดังนี้ ศาลย่อมรับฟังความข้อนี้จากฟ้องฉบับก่อนได้ว่า ผู้รับจำนองรับจำนองโดยสุจริตโดยไม่ต้องสืบพยานต่อไป และแม้บิดาผู้ตายจะขอสืบว่า ความจริงผู้รับจำนองรับจำนองไว้โดยไม่สุจริต ศาลก็มีอำนาจงดสืบได้เพราะคดีฟังได้ดังกล่าวแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในพินัยกรรม: การยกทรัพย์เมื่อตาย มิใช่การยกทรัพย์โดยเสน่หา
ความในพินัยกรรมข้อหนึ่งกล่าวว่า ผู้ตายเจตนายกทรัพย์ให้ผู้มีชื่อตั้งแต่วันทำพินัยกรรมฉะบับนี้มีข้อความเริ่มต้นระบุไว้ชัดว่าขอทำหนังสือพินัยกรรมเป็นคำสั่งเผื่อตายไว้ และตอนท้ายก็ยังกล่าวยืนยันว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้ด้วยความเต็มใจและมีสติดีมีพยานลงชื่ออย่างพินัยกรรม ทุกประการเช่นนี้ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรมที่ผู้ตายมุ่งหมายจะยกทรัพย์ให้เมื่อผู้ตายตายลง หาใช่เป็นหนังสือยกทรัพย์ให้ดดยเสน่หาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายกทรัพย์โดยพินัยกรรม: การตีความพินัยกรรมสั่งให้ยกทรัพย์เมื่อเสียชีวิต มิใช่การยกทรัพย์โดยเสน่หา
ความในพินัยกรรมข้อหนึ่งกล่าวว่า ผู้ตายเจตนายกทรัพย์ให้ผู้มีชื่อตั้งแต่วันทำพินัยกรรมฉบับนี้ มีข้อความเริ่มต้นระบุไว้ชัดว่าขอทำหนังสือพินัยกรรมเป็นคำสั่งเผื่อตายไว้ และตอนท้ายก็ยังกล่าวยืนยันว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้ด้วยความเต็มใจและมีสติดี มีพยานลงชื่ออย่างพินัยกรรมทุกประการ เช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรมที่ผู้ตายมุ่งหมายจะยกทรัพย์ให้เมื่อผู้ตายตายลง หาใช่เป็นหนังสือยกทรัพย์ให้โดยเสน่หาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้รุกล้ำกรรมสิทธิ์ในที่ดินร่วมได้
เจ้าของร่วมที่ดินเพียงคนใดคนหนึ่ง ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้ที่แย่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นได้ตามมาตรา1359
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้แย่งกรรมสิทธิในที่ดินได้ตามกฎหมาย
เจ้าของร่วมที่ดินเพียงคนใดคนหนึ่งย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้ที่แย่งกรรมสิทธิในที่ดินนั้นได้ตามมาตรา 1359
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดฆ่า: การกระทำเกินเลยขอบเขตที่ขอความช่วยเหลือ ไม่ถือเป็นความผิดสมคบคิด
จำเลยกับผู้ตายเกิดวิวาทชกต่อยกันด้วยมือเปล่าก่อน จำเลยสู้ไม่ได้จึงร้องเรียกให้เพื่อนช่วย เพื่อนเข้ามาช่วยแล้วใช้มีดแทงผู้ตาย ดังนี้ เมื่อมีพฤติการณ์ประกอบให้เห็นว่าการแทงผู้ตายตายนั้น เป็นการกระทำของเพื่อนเอง ซึ่งเกินเลยจากที่จำเลยขอให้ช่วยแล้ว จำเลยก็ยังไม่ควรมีผิดฐานสมคบกับเพื่อนฆ่าผู้ตาย ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบฆ่า - การกระทำเกินเลย - ไม่มีความผิด
จำเลยกับผู้ตายเกิดวิวาทชกต่อยกันด้วยมือเปล่าก่อนจำเลยสู้ไม่ได้จึงร้องเรียกให้เพื่อนช่วย เพื่อเข้ามาช่วยแล้วใช้มีดแทงผู้ตาย ดังนี้เมื่อมีพฤติการณ์ประกอบให้เห็นว่าการแทงผู้ตายตายนั้น เป็นการกระทำของเพื่อนเอง ซึ่งเกินเลยจากที่จำเลยขอให้ช่วยแล้ว จำเลยก็ยังไม่ควรมีผิดฐานสมคบกันเพื่อฆ่าผู้ตายตาย