คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศิลปสิทธิวินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,639 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 866/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาแบ่งที่ดินที่ทำขึ้นจากการข่มขู่ และผลกระทบต่อการเพิกถอนการโอนขายที่ดิน
ข่มขู่ให้เจ้าของที่ดินทำสัญญาแบ่งที่ดินให้ ภายหลังเจ้าของที่ดินทำสัญญาโอนขายที่ดินนั้นให้ผู้อื่น จึงฟ้องขอให้เพิกถอนการโอน เจ้าของที่ดินต่อสู้กรรมสิทธิ์ และขอบอกล้างโมฆียะกรรมนั้น เสียในชั้นให้การต่อสู้คดี ดังนี้ ศาลจะบังคับให้แบ่งที่ตามสัญญาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 866/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาแบ่งที่ดินที่ทำขึ้นจากการข่มขู่ และการบอกล้างโมฆียะกรรม การเพิกถอนนิติกรรม
ข่มขู่ให้เจ้าของที่ดินทำสัญญาแบ่งที่ดินให้ ภายหลังเจ้าของที่ดินทำสัญญาโอนขายที่ดินนั้นให้ผู้อื่น จึงฟ้องขอให้เพิกถอนการโอน เจ้าของที่ดินต่อสู้กรรมสิทธิ์ และขอบอกล้างโมฆียะกรรมนั้นเสียในชั้นให้การต่อสู้คดีดังนี้ศาลจะบังคับให้แบ่งที่ตามสัญญาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายระหว่างเมาสุรา: ความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
ขณะเกิดเหตุต่างเมาสุรากันทุกฝ่าย จำเลยคนหนึ่งตีผู้ตายทีหนึ่งแล้วต่อมาจำเลยอีกคนหนึ่งจึงได้ขึ้นเรือนมาเอาไม้ตีผู้ตายอีก ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ วินิจฉัยว่าเป็นการฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าโดยไม่เจตนาจากเหตุทะเลาะวิวาทขณะเมาสุรา
ขณะเกิดเหตุต่างเมาสุรากันทุกฝ่าย จำเลยคนหนึ่งตีผู้ตายทีหนึ่งแล้ว ต่อมาจำเลยอีกคนหนึ่งจึงได้ขึ้นเรือนมาไม้ตีผู้ตายอีก ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้วินิจฉัยว่าเป็นการฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินป่าถูกจดทะเบียนผิดพลาด การทำไม้ในที่ดินนั้นยังคงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
เอาที่ดินป่าไปจดทะเบียนบุริมสิทธิ ซื้อขายกันต่ออำเภอโดยอ้างว่าเป็นที่สวน จับจองเบิกบุกเอาเอง ซึ่งไม่ใช่ความจริง แม้เจ้าหน้าที่อำเภอจะจดทะเบียนบุริมสิทธิซื้อขายให้ก็ดี ก็ต้องถือว่ายังเป็นที่ดินซึ่งยังมิได้มีบุคคลได้มาตาม กฎหมายที่ดิน อีกนัยหนึ่งคือป่า ผู้ใดทำไม้ประเภทหวงห้ามในที่นี้โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องมีผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ 2484

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้ในพื้นที่ป่าสงวน แม้มีการจดทะเบียนที่ดินอย่างไม่ถูกต้อง ยังคงเป็นป่าตามกฎหมาย
เอาที่ดินไปจดทะเบียนบุริมสิทธิ์ ซื้อขายต่อกันอำเภอโดยอ้างว่าเป็นที่สวน จับจองเบิกบุกเอาเอง ซึ่งไม่ใช่ความจริง แม้เจ้าหน้าที่อำเภอจะจดทะเบียนบุริมสิทธิ์ซื้อขายให้ก็ดี ก็ต้องถือว่ายังเป็นยังดินซึ่งยังมิได้มีบุคคลได้มาตาม ก.ม.ที่ดิน อีกนัยหนึ่งคือป่า ผู้ใดทำไม้ประเภทหวงห้ามในที่นี้โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องมีผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ตึกส่วนควบที่ดิน & สัญญาเช่าที่เจ้าของร่วมไม่ได้ยินยอม
เจ้าของที่ดินทำสัญญากับผู้เช่าให้ผู้เช่าปลูกตึกคนกรีตลงในที่ดินของตนโดยให้ผู้เช่าเป็นผู้ออกเงินค่าปลูกสร้างเป็นเงินจำนวนหนึ่ง แล้วเจ้าของที่ดินยอมให้ผู้เช่าเช่าตึกนั้นมีกำหนด 3 ปี ดังนี้ เป็นเพียงผู้เช่าออกเงินค่าก่อสร้างไปแทนเจ้าของที่ดินเท่านั้น ตามลักษณะของทรัพย์ที่เป็นตึก จะแยกจากที่ดินไปได้ ย่อมเป็นส่วนควบของที่ดิน จึงตกเป็นของเจ้าของที่ดินด้วย
การที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้จัดการทรัพย์มาแต่แรกแต่คนเดียวเอาทรัพย์ให้ผู้อื่นเช่าแล้วเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งมาฟ้องขอให้ทำลายสัญญาเช่าโดยอ้างว่าไม่ได้รับความยินยอม จากตนและเจ้าของร่วมคนที่ฟ้องจะต้องนำสืบว่าตนและเจาของร่วมคนอื่นอีกคนหนึ่งไม่ได้ยินยอมและผู้เช่าผู้เป็นคู่สัญญาก็รู้ถึงความเห็นส่วนมากของเจาของร่วมนี้ด้วย ึงจะพ้นจากความรับผิดได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับเงินค่าก่อสร้างตึกที่จำเลยออกแทนไป เพื่อขับไล่จำเลยออกจากตึกนี้ แต่เมื่อโจทก์ไม่มีสิทธิจะขับไล่ทั้งจำเลยก็มิได้ขอเรียกเงินจำนวนนี้จากโจทก์จึงเป็นสิทธิของโจทก์ที่จะใช้เขาหรือไม่ ไม่ใช่คำบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์สินส่วนควบ สัญญาเช่าที่ไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วม และสิทธิในการเรียกค่าปลูกสร้าง
เจ้าของที่ดินทำสัญญากับผู้เช่าให้ผู้เช่าปลูกตึกคอนกรีตลงในที่ดินของตน โดยให้ผู้เช่าเป็นผู้ออกเงินค่าปลูกสร้างเป็นเงินจำนวนหนึ่งแล้วเจ้าของที่ดินยอมให้ผู้เช่าเช่าตึกนั้นมีกำหนด 3 ปี ดังนี้ เป็นเพียงผู้เช่าออกเงินค่าก่อสร้างไปแทนเจ้าของที่ดินเท่านั้น ตามลักษณะของทรัพย์ที่เป็นตึก จะแยกจากที่ดินไม่ได้ ย่อมเป็นส่วนควบของที่ดิน จึงตกเป็นของเจ้าของที่ดินด้วย
การที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้จัดการทรัพย์มาแต่แรกแต่คนเดียวเอาทรัพย์ให้ผู้อื่นเช่า แล้วเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งมาฟ้องขอให้ทำลายสัญญาเช่าโดยอ้างว่าไม่ได้รับความยินยอมจากตนและเจ้าของร่วมคนอื่นอีกคนหนึ่งนั้นเป็นหน้าที่เจ้าของร่วมคนที่ฟ้องจะต้องนำสืบว่าตนและเจ้าของร่วมคนอื่นอีกคนหนึ่งไม่ได้ยินยอมและผู้เช่าผู้เป็นคู่สัญญาก็รู้ถึงความเห็นส่วนมากของเจ้าของร่วมนี้ด้วยจึงจะปลีกพ้นจากความรับผิดได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับเงินค่าก่อสร้างตึกที่จำเลยออกแทนไปเพื่อขับไล่จำเลยออกจากตึกนี้ แต่เมื่อโจทก์ไม่มีสิทธิจะขับไล่ทั้งจำเลยก็มิได้ขอเรียกเงินจำนวนนี้จากโจทก์ จึงเป็นสิทธิของโจทก์ที่จะใช้เขาหรือไม่ไม่ใช่คำบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกตามส่วน ศาลไม่จำกัดจำนวนเงินตามที่โจทก์ขอ
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกตามส่วนแล้วกำหนดจำนวนเงินมาด้วย เมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกแล้ว ศาลจะไม่จำกัดจำนวนเงินคั่นสูงไว้ตามที่โจทก์มีคำขอก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกตามส่วน ศาลไม่จำกัดจำนวนเงินตามที่โจทก์ขอ แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาจำกัดไว้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกตามส่วนแล้วกำหนดจำนวนเงินมาด้วยเมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกแล้ว ศาลจะไม่จำกัดจำนวนเงินขั้นสูงไว้ตามที่โจทก์มีคำขอก็ได้
of 164