คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 140

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 41 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาไม่ใช่คำบังคับ การวางเงินตามคำพิพากษาจึงไม่ถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ
เมื่อศาลได้พิพากษาอย่างใด ซึ่งจะต้องมีการบังคับคดีชอบที่ศาลจะต้องมีคำบังคับกำหนดวิธีที่จะปฏิบัติตามคำบังคับนั้นไว้. และให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาลงลายมือชื่อรับทราบคำบังคับไว้เป็นสำคัญ. เพียงแต่ศาลอ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟัง และให้คู่ความลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ ยังถือไม่ได้ว่าได้มีการออกคำบังคับแล้ว.
ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินที่ซื้อขายให้โจทก์. แต่อยู่ในเงื่อนไขที่ว่า โจทก์ต้องวางเงินค่าที่ดินที่ยังไม่ชำระต่อศาล เพื่อให้จำเลยรับไปเสียก่อนภายใน 1 เดือนนับแต่วันพิพากษา. เมื่อยังไม่มีการออกคำบังคับ. แม้โจทก์จะไม่นำเงินมาวางศาลภายในเวลาที่ระบุในคำพิพากษา. ก็ไม่เป็นการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา. และไม่เป็นการสละสิทธิในที่ดินที่ศาลพิพากษาให้จำเลยโอน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาไม่ใช่คำบังคับ การวางเงินตามคำพิพากษาไม่ใช่การปฏิบัติตามคำบังคับ
เมื่อศาลได้พิพากษาอย่างใด ซึ่งจะต้องมีการบังคับคดี ชอบที่ศาลจะต้องมีคำบังคับกำหนดวิธีที่จะปฏิบัติตามคำบังคับนั้นไว้ และให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาลงลายมือชื่อรับทราบคำบังคับไว้เป็นสำคัญ เพียงแต่ศาลอ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟัง และให้คู่ความลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ ยังถือไม่ได้ว่าได้มีการออกคำบังคับแล้ว
ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินที่ซื้อขายให้โจทก์ แต่อยู่ในเงื่อนไขที่ว่า โจทก์ต้องวางเงินค่าที่ดินที่ยังไม่ชำระต่อศาล เพื่อให้จำเลยรับไปเสียก่อนภายใน 1 เดือน นับแต่วันพิพากษา เมื่อยังไม่มีการออกคำบังคับ แม้โจทก์จะไม่นำเงินมาวางศาลภายในเวลาที่ระบุในคำพิพากษา ก็ไม่เป็นการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา และไม่เป็นการสละสิทธิในที่ดินที่ศาลพิพากษาให้จำเลยโอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษา: จำเป็นต้องมีคำบังคับที่ชัดเจนก่อน จึงจะถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาได้
เมื่อศาลได้พิพากษาอย่างใด ซึ่งจะต้องมีการบังคับคดีชอบที่ศาลจะต้องมีคำบังคับกำหนดวิธีที่จะปฏิบัติตามคำบังคับนั้นไว้และให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาลงลายมือชื่อรับทราบคำบังคับไว้เป็นสำคัญเพียงแต่ศาลอ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟัง และให้คู่ความลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ ยังถือไม่ได้ว่าได้มีการออกคำบังคับแล้ว
ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินที่ซื้อขายให้โจทก์แต่อยู่ในเงื่อนไขที่ว่า โจทก์ต้องวางเงินค่าที่ดินที่ยังไม่ชำระต่อศาล เพื่อให้จำเลยรับไปเสียก่อนภายใน 1 เดือน นับแต่วันพิพากษาเมื่อยังไม่มีการออกคำบังคับแม้โจทก์จะไม่นำเงินมาวางศาลภายในเวลาที่ระบุในคำพิพากษา ก็ไม่เป็นการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาและไม่เป็นการสละสิทธิในที่ดินที่ศาลพิพากษาให้จำเลยโอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์คณะผู้พิพากษาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นโมฆะ
ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นั่งฟังแถลงการณ์ 3 นาย แล้วลงชื่อพิพากษา 2 นาย กับมีผู้พิพากษาที่มีได้นั่งฟังแถลงการณืและมิใช่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ร่วมลงชื่อด้วยอีก 1 นายทำให้คำพิพากษานั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ชอบที่ศาลฎีกาจะยกเสียและให้พิพากษาใหม่
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 29/2503 และอ้างฎีกาที่ 1205/2473

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำถนนคอนกรีตบนทางภารจำยอมไม่ถือเป็นการเพิ่มภารจำยอม หรือสละสิทธิ หากยังคงสภาพเดิม และภารจำยอมยังไม่สิ้นสุด
การทำถนนคอนกรีตบนทางภารจำยอมไม่เป็นการเพิ่มภารจำยอม (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 33/2503)
จดทะเบียนภารจำยอมว่าเป็นทางเดินของผู้ที่อยู่ในโฉนดซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของ แต่แล้วใช้ทางนี้เป็นทางรถด้วยก็ดี หรือมีคนอื่นซึ่งอยู่ในที่ดินโฉนดของจำเลยได้ใช้เป็นทางเดินด้วยก็ดี ก็ยังไม่เป็นการเพิ่มภารจำยอม
เมื่อการจดทะเบียนภารจำยอมยังคงอยู่แม้ผู้ใช้ทางนั้นจะอ้างว่าเป็นทางสาธารณ ก็ไม่ถือว่าสละสิทธิภารจำยอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมไม่เพิ่มขึ้นจากการทำถนน หรือใช้ทางร่วม แม้จะอ้างเป็นทางสาธารณะ การใช้ทางของเจ้าของที่ดินติดกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
การทำถนนคอนกรีตบนทางภารจำยอมไม่เป็นการเพิ่มภารจำยอม (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 33/2503)
่จดทะเบียนภารจำยอมว่าเป็นทางเดิน ของผู้ที่อยู่ในโฉนดซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของ แต่แล้วใช้ทางนี้เป็นทางรถด้วยก็ดี หรือมีคนอื่นซึ่งอยู่ในที่ดินโฉนดของจำเลยได้ใช้เป็นทางเดินด้วยก็ดี ก็ยังไม่เป็นการเพิ่มภารจำยอม
เมื่อการจดทะเบียนภารจำยอมยังคงอยู่แม้ผู้ใช้ทางนั้น จะอ้างว่าเป็นทางสาธารณก็ไม่ถือว่าสละสิทธิภารจำยอม (ย่อ ก.ม. มาตรา 140 แห่ง ป.วิ.พ. อยู่ตอนท้าย)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์: คำสั่งมีผลเมื่อผู้ถูกอุทธรณ์ทราบ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเขียนคำสั่งลงวันที่ 8 มิ.ย. 96 แต่ไม่ปรากฏว่าศาลได้นำคำสั่งนั้นออกอ่านหรือเพื่ออ่านและไม่ปรากฏว่าได้มีการจดแจ้งว่าได้มีการอ่านคำสั่งนั้นในรายงานใดๆ ในวันที่ 8 นั้นเลย จำเลยเพิ่งเซ็นทราบคำสั่งนั้นในวันที่ 9 ดังนี้ต้องถือว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเมื่อวันที่ 9
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกิน 10 วันตามมาตรา 234 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ให้ยกคำร้องอุทธรณ์ของจำเลยเสียนั้นจำเลยฎีกาต่อศาลฎีกาว่าจำเลยยื่นอุทธรณ์ภายใน10 วันหาเกินไม่ ดังนี้ได้ ไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการพิจารณาข้อคัดค้านการตั้งผู้จัดการมฤดก และการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในเรื่องร้องขอเป็นผู้จัดมฤดก แม้ผู้คัดค้านไม่มีอำนาจศาลย่อมระลึกถึงข้องที่ผู้ร้องเรียกตลอดจนการเรียกพะยานเพื่อประกอบการพิจารณาได้
คำพิพากษาตามปกติย่อมเข้าใจว่า เป็นคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นหมดการพิจารณาสำหรับคดีนั้น ถ้ายังไม่ยุตติการพิจารณาคดีนี้ ก็ชอบที่จะใช้เป็นคำสั่งซึ่งในทางปฏิบัติเรียกว่าคำสั่งระหว่างพิจารณา
(ม.226 ป.ม.วิ.แพ่ง)
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ดำเนินคดีไปอย่างคดีมีข้อพิพาท ศาลชั้นต้นจะพิพากษาหรือสั่งว่าผู้คัดค้านไม่มีสิทธิเป็นคู่ความไม่ได้ เพราะขัดต่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินการพิจารณาไปอย่างคดีมีข้อพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจคัดค้านการจัดการมรดก และการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในเรื่องร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก แม้ผู้คัดค้านไม่มีอำนาจคัดค้านศาลย่อมระลึกถึงข้อที่ผู้ร้องเรียนตลอดจนการเรียกพยานเพื่อประกอบการพิจารณาได้
คำพิพากษาตามปกติย่อมเข้าใจว่า เป็นคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นหมดการพิจารณาสำหรับคดีนั้น ถ้ายังไม่ยุติการพิจารณาคดีนั้น ก็ชอบที่จะใช้เป็นคำสั่งซึ่งในทางปฏิบัติเรียกว่าคำสั่งระหว่างพิจารณา(มาตรา 226ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง)
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ดำเนินคดีไปอย่างคดีมีข้อพิพาทศาลชั้นต้นจะพิพากษาหรือสั่งว่าผู้คัดค้านไม่มีสิทธิเป็นคู่ความไม่ได้เพราะขัดต่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินการพิจารณาไปอย่างคดีมีข้อพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งต้องเกี่ยวข้องกับประเด็นเดิม ศาลไม่สั่งเลือกตั้งใหม่หากคะแนนไม่เปลี่ยนแปลง
การขอเพิ่มเติมฟ้องหรือข้อคัดค้านนั้น จะต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม หรือข้อคัดค้านเดิม จะขอเพิ่มเติมขึ้นใหม่ไม่ได้
คำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องเป็นเรื่องเกี่ยวแก่หน่วยเลือกตั้งอื่น ไม่เกี่ยวกับหน่วยเลือกตั้งซึ่งกล่าวในฟ้องดังนี้ ศาลไม่ยอมให้แก้ไขเพิ่มเติม
ความเห็นที่ศาลชั้นต้นทำส่งศาลสูง ไม่ถือว่าคำสั่งหรือคำบังคับ และไม่ต้องอ่านให้คู่ความฟัง
เมื่อร้องคัดค้านว่า หน่วยลงคะแนนมิได้มีการลงคะแนนถ้าศาลเห็นว่า คะแนนในหน่วยนั้น ไม่สามารถทำให้ผู้สมัคร์รับเลือกตั้งคนอื่นได้คะแนนสูงกว่าผู้สมัคร์รับเลือกตั้งคนที่ถูกคัดค้านดังนี้ ศาลไม่สั่งให้การเลือกตั้งใหม่
of 5