คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พิบูลย์ไอศวรรย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,027 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 147/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลระหว่างพิจารณาไม่อุทธรณ์ฎีกาได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226(1) กรณีจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาจำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ เพราะต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 (1) ประกอบด้วย มาตรา 247 (อ้างฎีกา ที่ 416/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 75/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่เป็นความผิดตามฟ้อง ศาลไม่อาจลงโทษจำเลยได้
การที่จะลงโทษจำเลยในคดีที่จำเลยรับสารภาพ ต้องอาศัยคำฟ้องการกระทำของจำเลยที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องนั้นไม่เป็นความผิด เพราะโจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยออกเช็คในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2500 ให้จ่ายเงินแก่นางจารุวรรณย้อนหลังไปในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2500 และในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2500 นั้น นางจารุวรรณได้นำเช็คดังกล่าวไปขอรับเงินจากธนาคาร เมื่อฟ้องคงเป็นอยู่เช่นนี้ แม้จำเลยจะรับสารภาพ ก็เป็นการรับสารภาพตามฟ้องที่ไม่เป็นความผิดย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 75/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่เป็นความผิดตามฟ้อง: เช็คลงวันที่ขัดแย้งกัน
การที่จะลงโทษจำเลยในคดีที่จำเลยรับสารภาพ ต้องอาศัยคำฟ้อง การกระทำของจำเลยที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องนั้น ไม่เป็นความผิด เพราะโจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยออกเช็คในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2500 ให้จ่ายเงินแก่นางจารุวรรณย้อนหลัง ไปในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2500 และในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2500 นั้น นางจารุวรรณได้นำเช็คดังกล่าวไปขอรับเงินจากธนาคาร เมื่อฟ้องคงเป็นอยู่เช่นนี้ แม้จำเลยจะรับสารภาพ ก็เป็นการรับสารภาพตามฟ้องที่ไม่เป็นความผิด ย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่สาธารณะ ไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(4) และอำนาจศาลในการนับโทษ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(4) บัญญัติถึงกรณีที่ว่าได้มีการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม แล้วได้มีการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมในเรื่องนั้นๆ
จำเลยพูดกล่าวถ้อยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่ประชุมสาธารณะ จำเลยจะยก มาตรา 329(4) มาเพื่อให้พ้นผิดหาได้ไม่
การนับโทษจำเลยต่อ เป็นอำนาจศาลที่จะสั่งให้โทษจำคุกในคดีหนึ่งๆเริ่มนับแต่วันใดได้ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่สาธารณะ ไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 329(4) และอำนาจศาลในการนับโทษ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา329 (4) บัญญัติถึงกรณีที่ว่า ได้มีการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุมแล้วได้มีการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมในเรื่องนั้น ๆ
จำเลยพูดกล่าวถ้อยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่ประชุมสาธารณะจำเลยจะยก มาตรา 329(4) มาเพื่อให้พ้น ผิดหาได้ไม่
การนับโทษจำเลยต่อ เป็นอำนาจศาลที่จะสั่งให้โทษจำคุกในคดีหนึ่ง ๆ เริ่มนับแต่วันใดได้ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 35/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าเป็ด: ความผิดตามมาตรา 358 ไม่ใช่ความผิดตามมาตรา 359
จำเลยเจตนาฆ่าเป็ดของผู้เสียหาย โดยโปรยข้าวเปลือกผสมยาพิษให้เป็ดกินเป็ดตายเพราะเหตุนี้ 33 ตัว การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม มาตรา 358 ไม่ผิดตามมาตรา 359 เพราะเป็ดไม่ใช่ปศุสัตว์ตาม มาตรา 359(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 35/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าเป็ด: ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 และการใช้ดุลพินิจกำหนดโทษ
จำเลยเจตนาฆ่าเป็ดของผู้เสียหาย โดยโปรยข้าวเปลือกผสมยาพิษให้เป็ดกิน เป็ดตาย เพราะเหตุนี้ 33 ตัว การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม มาตรา 358 ไม่ผิดตามมาตรา 259 เพราะเป็ดไม่ใช่ปศุสัตว์ตาม มาตรา 359(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11-13/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมต้องเพื่อประโยชน์ของอสังหาริมทรัพย์อื่น การฟ้องไม่ชัดแจ้ง และการสืบพยานสุขภาพ
อสังหาริมทรัพย์อาจตกอยู่ในภารจำยอมก็เพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่นเท่านั้น จะอ้างว่าใช้ที่ดินนั้นเพื่อประโยชน์แก่การค้าน้ำแข็งหาได้ไม่
ผู้ที่ต้องยอมรับภารจำยอม คือ เจ้าของทรัพย์ จำเลยเป็นเพียงผู้เช่าที่ดินของวัด จำเลยย่อมไม่มีหน้าที่จะเรียกวัดเข้ามาเป็นจำเลย
โจทก์ฟ้องอ้างภารจำยอม โดยกล่าวว่าโจทก์ได้ใช้ที่ดินนั้นเข้าออกเพื่อประโยชน์อื่น เช่นนี้ เป็นการฟ้องเคลือบคลุม ไม่แจ้งชัดว่าประโยชน์ใด โจทก์จะนำสืบมิได้เพราะไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง
ประเด็นในคดีเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของโจทก์ภายหลังการกั้นรั้วของจำเลยหรือเพราะเหตุที่กั้นรั้วนั้นว่าโจทก์ยังสุขสบายตามสมควรหรือไม่ เช่นนี้ ศาลไม่จำเป็นต้องสืบพยานถึงความสุขสบายของโจทก์ตั้งแต่ครั้งที่จำเลยยังไม่กั้นรั้วและศาลยังไม่ไปเดินเผชิญสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11-13/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมต้องเพื่อประโยชน์แก่ทรัพย์อื่น การฟ้องเคลือบคลุม และหน้าที่ของผู้เช่า
อสังหาริมทรัพย์อาจตกอยู่ในภาระจำยอม ก็เพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่นเท่านั้น จะอ้างว่าใช้ที่ดินนั้นเพื่อประโยชน์แก่การค้าน้ำแข็งหาได้ไม่
ผู้ที่ต้องยอมรับภารจำยอมคือ เจ้าของทรัพย์ จำเลยเป็นเพียงผู้เช่าที่ดินของวัด จำเลยย่อมไม่มีหน้าที่จะ ยกวัดเข้ามาเป็นจำเลย
โจทก์ฟ้องอ้างภาระจำยอม โดยกล่าวว่า โจทก์ได้ใช้ที่ดินนั้นเข้าออกเพื่อประโยชน์อื่น เช่นนี้ เป็นการฟ้องเคลือบคลุม ไม่แจ้งชัดว่าประโยชน์ใด โจทก์จะนำสืบมิได้ เพราะไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรค 2
ประเด็นในคดีเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของโจทก์ภายหลังการกั้นรั้วของจำเลยหรือเพราะเหตุที่กั้นรั้วนั้น ว่าโจทก์ยังสุขสบายตามสมควรหรือไม่ เช่นนี้ ศาลไม่จำเป็นต้องสืบพยานถึงความสุขสบายของโจทก์ ตั้งแต่ครั้งที่จำเลยยังไม่กั้นรั้วและศาลยังไม่ไปเดินเผชิญสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานจากการตรวจพิสูจน์สัญญากู้ แม้จำเลยไม่ยินยอมชำระค่าอ้างรายงาน
โจทก์อ้างสัญญากู้และเสียค่าอ้างสำหรับสัญญากู้ไว้แล้วโดยชอบ จำเลยขอให้ศาลส่งสัญญากู้ไปให้ผู้ชำนาญตรวจพิสูจน์และขออ้างรายงานผลการตรวจพิสูจน์นั้นด้วย ทั้งจำเลยได้ยอมชำระค่าธรรมเนียมการตรวจพิสูจน์โดยครบถ้วน ถึง 2,000 บาท รายงานผลการตรวจพิสูจน์จึงเป็นเอกสารอันแท้จริง ในสำนวนเมื่อรายงานผลการตรวจพิสูจน์นั้นเป็นพิรุธแก่จำเลย และขัดแย้งกับคำพยานบุคคลของจำเลยจำเลยจึงไม่ยอมเสียค่ารายงานผลการตรวจพิสูจน์นั้น โดยจำเลยเห็นว่า ศาลจะได้ไม่รับฟังรายงานผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว ถึงกระนั้นก็ตาม เมื่อรายงานผลการพิสูจน์นี้ปรากฏต่อศาล ศาลก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ ตามนัย ป.วิ.พ. มาตรา 86 วรรคท้าย
of 103