คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พิบูลย์ไอศวรรย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,027 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446-447/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาต้องเป็นไปตามปกติ ไม่ใช่ความเสียหายไกลเกินเหตุ ศาลไม่อาจบังคับใช้ค่าเสียหายที่ไม่ได้รับการฟ้องขอ
สัญญายอมความในคดีก่อนมีความว่า เมื่อปลูกสร้างโรงภาพยนต์เสร็จแล้วจำเลยจะจัดให้โจทก์ได้เช่าตั้งร้านขายเครื่องดื่มที่หน้าโรงภาพยนต์นั้น ตามสัญญาไม่ได้ระบุว่าที่ ๆ จะจัดให้โจทก์เช่านั้นจะต้องเป็นห้องใช้เป็นที่อยู่อาศัยอย่างใด คงเพียงแต่จะจัดที่เพื่อตั้งร้านขายเครื่องดื่มหน้าโรงภาพยนต์เท่านั้น เมื่อจำเลยผิดสัญญายอมความแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องเรียกเอาค่าเสียหายที่ไปเซ้งห้องผู้อื่นเพื่ออยู่อาศัยและประกอบการค้าเพียงประการเดียวเช่นนี้ เป็นการไกลกว่าเหตุ ไม่ใช่เป็นค่าเสียหายซึ่งตามปกติย่อมเกิดขึ้นแก่การผิดสัญญาอันโจทก์พึงจะได้ตามกฎหมาย
ค่าเสียหายที่โจทก์ควรจะได้ในการผิดสัญญารายนี้ก็คือค่าขาดประโยชน์ที่เคยได้จากการเช่าขายเครื่องดื่มอยู่เดิม หรือที่จะได้เช่าใหม่ตามสัญญายอมความนั้น แต่โจทก์ไม่ได้ฟ้องตั้งประเด็นเรียกค่าเสียหายในข้อนี้อย่างใดเลย และเพราะเหตุที่โจทก์ไม่ได้ฟ้องตั้งประเด็นเรียกค่าเสียหายอันควรจะได้ตามกฎหมายดังกล่าวมานี้ ศาลก็ไม่อาจจะกำหนดค่าเสียหายในข้อนี้ให้โจทก์ตามสมควรได้ เพราะว่าเป็นการนอกประเด็นตามคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีทรัพย์มรดก: ศาลฎีกาพิจารณาว่าโจทก์มิได้เป็นคู่ความในคดีก่อน จึงไม่ผูกพันตามคำพิพากษา
ภรรยาโจทก์คดีนี้ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีก่อนขอแบ่งมรดกศาลฎีกาตัดสินคดีนั้นว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นมรดกให้แบ่งระหว่างภรรยาโจทก์กับจำเลยทั้งสามในคดีนี้คนละส่วนดังนี้ โจทก์ผู้เป็นสามีกลับมาฟ้องขอให้ห้ามจำเลยทั้งสามเกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาทนั้นได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 เพราะในคดีก่อนโจทก์ไม่ได้เข้าเป็นคู่ความด้วย และในคดีก่อนก็มิใช่คดีที่ศาลได้มีคำสั่งให้ขับไล่ภรรยาโจทก์ตามมาตรา 142(1) ฉะนั้นจะใช้คำพิพากษาในคดีก่อนบังคับตลอดถึงบริวารด้วยย่อมไม่ตรงกับเรื่อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องซ้ำในคดีทรัพย์สินมรดก: เมื่อโจทก์มิได้เป็นคู่ความในคดีก่อน แม้ภรรยาจะเป็นคู่ความ
ภรรยาโจทก์คดีนี้ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีก่อนขอแบ่งมรดกศาลฎีกาตัดสินคดีนั้นว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นมรดกให้แบ่งระหว่างภรรยาโจทก์กับจำเลยทั้งสามในคดีนี้คนละส่วน ดั่งนี้ โจทก์ผู้เป็นสามีกลับมาฟ้องขอให้ห้ามจำเลยทั้งสามเกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาทนั้นได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 148 เพราะในคดีก่อนโจทก์ไม่ได้เข้าเป็นคู่ความด้วย และในคดีก่อนก็มิใช่คดีที่ศาลได้มีคำสั่งให้ขับไล่ภรรยาโจทก์ตามมาตรา 142 (1) ฉะนั้น จะใช้คำพิพากษาในคดีก่อนบังคับตลอดถึงบริวารด้วยย่อมไม่ตรงกับเรื่อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งป่วยผ่านตัวแทนและการยกเว้นการตรวจเลือกทหาร
การที่จำเลยซึ่งอยู่ต่างจังหวัดมีจดหมายล่วงหน้าถึงนายอำเภอซึ่งเป็นกรรมการตรวจคัดเลือกทหารอยู่ด้วยคนหนึ่งว่า จำเลยป่วย มาให้คณะกรรมการตรวจคัดเลือกไม่ได้ เพื่อให้แจ้งต่อคณะกรรมการด้วยนั้น ถือได้ว่าจำเลยได้จัดให้มีผู้แทนมาแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจคัดเลือกในวันตรวจคัดเลือกตามความหมายของ ม. 16 แล้ว จำเลยย่อมได้รับการยกเว้นโทษาตาม ม.27(7) แห่ง พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ส่วนการที่นายอำเภอหลงลืมไม่ได้แจ้งต่อคณะกรรมการตรวจคัดเลือกทหารนั้นมิใช่ความผิดของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งป่วยผ่านตัวแทนเพื่อขอผัดผ่อนการตรวจเลือกทหาร ถือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
การที่จำเลยซึ่งอยู่ต่างจังหวัดมีจดหมายล่วงหน้าถึงนายอำเภอซึ่งเป็นกรรมการตรวจคัดเลือกทหารอยู่ด้วยคนหนึ่งว่าจำเลยป่วยมาให้คณะกรรมการตรวจคัดเลือกไม่ได้ เพื่อให้แจ้งต่อคณะกรรมการด้วยนั้นถือได้ว่าจำเลยได้จัดให้มีผู้แทนมาแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจคัดเลือกในวันตรวจคัดเลือกตามความหมายของ มาตรา16 แล้ว จำเลยย่อมได้รับการยกเว้นโทษตาม มาตรา27(7) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ส่วนการที่นายอำเภอหลงลืมไม่ได้แจ้งต่อคณะกรรมการตรวจคัดเลือกทหารนั้นมิใช่ความผิดของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าตามกฎหมายภาษีอากร การยึดทรัพย์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้แจ้งประเมินให้โจทก์เสียภาษีร้านค้าสำหรับสถานีบ่มใบยาของจำเลย ๆ อุทธรณ์คำสั่ง แต่ถูกสั่งยกอุทธรณ์ และจำเลยยึดทรัพย์ของโจทก์เพื่อเสียภาษี จำเลยต่อสู้ว่าสถานีบ่มใบยาไม่เป็นร้านค้าต้องเสียภาษี ดังนี้ประเด็นมีว่า สถานีบ่มใบยาของโจทก์เป็นร้านค้าหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ร้านค้า ก็อยู่นอกอำนาจและหน้าที่ของจำเลยที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง ยึดทรัพย์ผิดพลาดอาจเป็นละเมิดโจทก์จึงฟ้องคดีได้ไม่เกี่ยวกับการอุทธรณ์คำสั่ง
สถานีบ่มใบยา ไม่เป็นร้านค้าอันจะต้องเสียภาษาตาม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2494 มาตรา 78 แต่เป็นร้านค้าตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าตามกฎหมายภาษีอากร การยึดทรัพย์เป็นละเมิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้แจ้งประเมินให้โจทก์เสียภาษีร้านค้าสำหรับสถานีบ่มใบยาของจำเลย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งแต่ถูกสั่งยกอุทธรณ์และจำเลยยึดทรัพย์ของโจทก์เพื่อเสียภาษีจำเลยต่อสู้ว่าสถานีบ่มใบยาไม่เป็นร้านค้าต้องเสียภาษีดังนี้ ประเด็นมีว่าสถานีบ่มใบยาของโจทก์เป็นร้านค้าหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ร้านค้า ก็อยู่นอกอำนาจและหน้าที่ของจำเลยที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องยึดทรัพย์ผิดพลาดอาจเป็นละเมิดโจทก์จึงฟ้องคดีได้ไม่เกี่ยวกับการอุทธรณ์คำสั่ง
สถานีบ่มใบยา ไม่เป็นร้านค้าอันจะต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2494 มาตรา 78 แต่เป็นร้านค้าตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณา 'ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง' เพื่อการจ่ายบำนาญตกทอดกรณีวิวาท การกระทำที่เกิดจากบันดาลโทสะไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรง
ต่างฝ่ายต่างสมัครใจทำร้ายกัน ซึ่งปรากฏว่าฝ่ายนายทหารเรือถูกนายเงินกับพวกยิงมีบาดเจ็บหลายแห่งถึงแก่ความตาย ฝ่ายนายเงินกับพวกไม่มีบาดเจ็บอย่างไรเลย ที่เกิดเหตุเป็นที่สาธารณะ ตามพฤติการณ์เช่นนี้ยังไม่ถือว่านายทหารเรือผู้นั้นประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามความในมาตรา 48 พ.ร.บ. บำเหน็จบำนาญฯ พ.ศ. 2494 เพราะรูปเรื่องเหตุที่จะเกิดเนื่องจากการโต้เถียงท้าทายกันอันไม่ปรากฏว่าเป็นความผิดของฝ่ายนายทหารเรือ ทำให้เกิดบันดาลโทสะขึ้นโดยปัจจุบัน ไม่ทันยั้งคิด ซึ่งย่อมอาจจะมีได้ แก่สามัญชนทั่ว ๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความร้ายแรงของการประพฤติชั่วเพื่อการจ่ายบำนาญตกทอด กรณีวิวาททำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
ต่างฝ่ายต่างสมัครใจทำร้ายกัน ซึ่งปรากฏว่าฝ่ายนายทหารเรือถูกนายเงินกับพวกยิงมีบาดเจ็บหลายแห่งถึงแก่ความตายฝ่ายนายเงินกับพวกไม่มีบาดเจ็บอย่างไรเลยที่เกิดเหตุเป็นที่สาธารณะตามพฤติการณ์เช่นนี้ยังไม่ถือว่านายทหารเรือผู้นั้นประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามความในมาตรา 48 พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญฯ พ.ศ.2494 เพราะรูปเรื่องเหตุที่จะเกิดเนื่องจากการโต้เถียงท้าทายกันอันไม่ปรากฏว่าเป็นความผิดของฝ่ายนายทหารเรือ ทำให้เกิดบันดาลโทสะขึ้นโดยปัจจุบัน ไม่ทันยั้งคิด ซึ่งย่อมอาจจะมีได้แก่สามัญชนทั่วๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทายาทบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรอง รวมถึงทารกในครรภ์ขณะบิดาเสียชีวิต
บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองตาม มาตรา1627 นั้นย่อมหมายตลอดถึงทารกซึ่งยังอยู่ในครรภ์มารดาในขณะที่บิดาตายมีสิทธิเป็นทายาทได้ ถ้าหากภายหลังได้เกิดและรอดอยู่ด้วย
of 103