พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,027 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาฆ่าโดยพยาบาทมาดหมาย: ความแตกต่างระหว่างกฎหมายลักษณะอาญาและประมวลกฎหมายอาญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมายตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 ซึ่งต่างกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ข้อ 4 ที่ว่าฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 จึงเป็นกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลย เพราะจะต้องให้ได้ความว่า เป็นการฆ่าคนโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมายจึงจะมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา250 ที่โจทก์อ้าง (หมายเหตุ ตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 มีโทษสถานเดียวเท่ากัน คือประหารชีวิต)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างเหมาว่าความ: ค่าจ้างต้องจ่ายเมื่อคดีเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุด แม้วิธีการสิ้นสุดคดี
ข้อความในสัญญาจ้างว่าความตอนหนึ่งมีความชัดเจนว่า "ค่าจ้างทั้งสิ้นเป็นเงิน 9,000 บาท จ่ายเป็น 3 งวด ๆ ที่ 1 จ่าย 3,000 บาท หลังวันทำสัญญา 7 วัน งวดที่ 2 จ่ายในระหว่างคดี 3,000 บาท งวดที่ 3 อีก 3,000 บาท เมื่อคดีเสร็จเด็ดขาดเป็นอันหมดเงินค่าจ้าง " ข้อความแห่งสัญญาดังกล่าวเป็นการจ้างเหมาทั้งหมด เมื่อโจทก์ว่าความให้แก่จำเลยจนคดีเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว แม้จะถึงที่สุดโดยวิธีใดที่ศาลใดก็ตามจำเลยก็ต้องชำระค่าจ้างให้แก่โจทก์เต็มตามจำนวนที่กล่าวไว้ในสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างเหมาว่าความ: ค่าจ้างต้องจ่ายเมื่อคดีถึงที่สุด แม้ด้วยวิธีใดก็ตาม
ข้อความในสัญญาจ้างว่าความตอนหนึ่งมีความชัดเจนว่า"ค่าจ้างทั้งสิ้นเป็นเงิน 9,000 บาท จ่ายเป็น 3 งวดๆ ที่ 1 จ่าย 3,000 บาท หลังวันทำสัญญา 7 วัน งวดที่ 2 จ่ายในระหว่างคดี 3,000 บาท งวดที่ 3 อีก3,000 บาท เมื่อคดีเสร็จเด็ดขาดเป็นอันหมดเงินค่าจ้าง" ข้อความแห่งสัญญาดังกล่าวเป็นการจ้างเหมาทั้งหมดเมื่อโจทก์ว่าความให้แก่จำเลยจนคดีเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้วแม้จะถึงที่สุดโดยวิธีใดที่ศาลใดก็ตามจำเลยก็ต้องชำระค่าจ้างให้แก่โจทก์เต็มตามจำนวนที่กล่าวไว้ในสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1132/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยสุจริตและเจตนาเป็นเจ้าของ การพิสูจน์ภาระการนำสืบของผู้ถูกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้รับโอนที่ดินมีโฉนดมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน จำเลยบุกรุกขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยได้สิทธิมาโดยการครอบครอง โจทก์ได้รับโอนโดยไม่สุจริต เช่นนี้ จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนว่าโจทก์ได้รับโอนมาโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1132/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: โจทก์ซื้อโดยสุจริต จำเลยต้องพิสูจน์การครอบครองปรปักษ์
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้รับโอนที่ดินมีโฉนดมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน จำเลยบุกรุกขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยได้สิทธิมาโดยการครอบครอง โจทก์ได้รับโอนโดยไม่สุจริต เช่นนี้ จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนว่าโจทก์ได้รับโอนมาโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เครื่องหมายการค้าก่อนจดทะเบียน: การคุ้มครองเครื่องหมายการค้าเดิมเมื่อมีการจดทะเบียนภายหลัง
ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยได้ปรุงยาธาตุและใช้ฉลากชื่อยาของจำเลยจำหน่ายมาก่อนที่โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้ายาธาตุของโจทก์แล้ว แม้ฉลากจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่ก็แสดงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อว่าเป็นของบุคคลหรือบริษัทอื่นอันจะเป็นความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 237(หรือประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 274)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เครื่องหมายการค้าก่อนจดทะเบียน: จำเลยใช้ก่อนโจทก์ จดทะเบียนภายหลัง ไม่ถือเป็นละเมิด
ข้อเท็จจริงปรากฎว่าจำเลยได้ปรุงยาธาตุและใช้ฉลากชื่อยาของจำเลยจำหน่ายมาก่อนที่โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้ายาธาตุของโจทก์แล้ว แม้ฉลากจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่ก็แสดงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อว่าเป็นของบุคคลหรือบริษัทอื่น อันจะเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 237 (หรือประมวล ก.ม.อาญา มาตรา 274)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฎีกาในคดีที่ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย เริ่มนับแต่วันที่ถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษาแล้ว
อายุความฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในกรณีอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยนั้น ให้นับแต่วันถือว่าได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 182 ที่แก้ไขแล้ว แม้จับจำเลยได้มาแล้ว ศาลจะอ่านคำพิพากษานั้นให้ฟังอีก ก็หาทำให้จำเลยมีสิทธิฎีกาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฎีกาในคดีอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย เริ่มนับแต่วันที่ถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษา
อายุความฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในกรณีอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยนั้น ให้นับแต่วันถือว่าได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 182 ที่แก้ไขแล้วแม้จับจำเลยได้มาแล้ว ศาลจะอ่านคำพิพากษานั้นให้ฟังอีก ก็หาทำให้จำเลยมีสิทธิฎีกาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่ผู้เช่ากรณีค้างชำระค่าเช่าหลายงวด
ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่า โดยอ้างว่าผู้เช่าไม่ได้ชำระค่าเช่าซึ่งต้องชำระรายเดือนรวม 6 เดือนเศษ เป็นการผิดนัด 2 คราวติดๆ กัน ผู้เช่าต่อสู้เพียงว่าไม่เคยค้างชำระค่าเช่า เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าผู้เช่าไม่ได้ชำระค่าเช่าให้โจทก์เกินกว่า 2 เดือนติดๆ กันแล้ว ก็ย่อมถือว่าผู้เช่าผิดนัดชำระค่าเช่าเกินกว่า 2 คราวติดๆ กันด้วย