คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พิบูลย์ไอศวรรย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,027 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องคดีแทน, ยาปลอม, การละเมิดเครื่องหมายการค้า: โจทก์ต้องมีอำนาจฟ้องชัดเจน และการแจ้งความโดยสุจริตไม่ถือเป็นการละเมิด
เมื่อโจทก์อ้างว่าได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนผู้อื่นมีเอกสารยืนยัน แต่กลับปรากฎแก่ศาลว่า เอกสารที่ว่านี้หามีการมอบอำนาจเช่นนั้นไม่ สิทธิฟ้องคดีแทนก็ตกไป คงเหลือแต่ที่ฟ้องในนามของตัวเอง
ในฟ้องโจทก์กล่าวแต่เพียงว่าสลาก กล่องใส่ยา สำลีในชวด ปลอมแต่ไม่กล่าวว่ายกที่จำเลยสั่งเข้ามาขายนั้นปลอม ดังนี้ เรื่องยาปลอมก็ไม่เป็นประเด็น กลับต้องถือว่าเป็นยาแท้
การที่โจทก์รับมอบให้ขายยาแต่ผู้เดียวนั้น เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบริษัทผู้มอบ โจทก์หามีสิทธิห้ามคนอื่นมิให้จำหน่ายยาเช่นนั้นไม่
อนึ่ง แม้ยาที่จำเลยจำหน่ายจะมีสลาก กล่อง และสำลีปลอม ก็ไม่ใช่เรื่องโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ซึ่งเป็นแต่ผู้จำหน่ายฟ้องโจทก์จึงไม่มีมูลที่จะว่ากล่าวกับจำเลย
การปลอมและเลียนแบบเครื่องหมายการค้า เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานจะจับกุมเอง แม้ไม่มีผู้แจ้งความ ฉะนั้น การที่โจทก์ไปแจ้งความ จึงเป็นการช่วยเหลือให้ความสดวกแก่เจ้าพนักงาน ถ้าทำโดยสุจริตไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง ย่อมไม่ต้องรับผิด การที่ตำรวจยึดยา เป็นเรื่องใช้ดุลพินิจของเขา การยึดยาก่อนพิพากษาก็เป็นอำนาจของศาลจะถือว่าโจทก์ละเมิดมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำหน่ายยาต่างประเทศ: ผู้รับมอบหมายจำหน่ายย่อมไม่มีสิทธิผูกขาดเหนือผู้อื่น
การที่โจทก์ได้รับมอบหมายจากบริษัทต่างประเทศให้จำหน่ายยาชนิดหนึ่งในประเทศไทยแต่ผู้เดียวนั้น เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบริษัทต่างประเทศ มิได้ก่อให้เกิดสิทธิเหนือคนทั่วไปที่จะไม่ให้ใครจำหน่ายยาของบริษัทต่างประเทศนั้นในประเทศไทย ฉะนั้น การที่จำเลยสั่งยาชนิดนั้นจากต่างประเทศมาขายในประเทศไทยบ้าง แม้ยาที่จำเลยสั่งมาขายจะมีสลากใส่กล่อง และใช้สำลีปลอม ก็ไม่ใช่เรื่องโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ซึ่งเป็นแต่ผู้จำหน่ายเท่านั้นโจทก์จะฟ้องหาว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ให้ใช้ค่าเสียหายและทำลายยากับกล่องบรรจุยา ห้ามจำหน่ายยาต่อไปไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงรายการสินค้าเพื่อเสียภาษีศุลกากร การกระทำไม่เข้าข่ายปกปิดหรือแสดงรายการเท็จ
ของที่จำเลยสั่งเข้ามาจากต่างประเทศอันจะต้องเสียภาษีศุลกากรนั้นเมื่อไม่ได้ความว่าจำเลยได้ปกปิดไม่แสดงรายการหรือแสดงรายการอันเป็นเท็จ หรือชักพาให้ผิดหลงแล้ว ก็ไม่มีการกระทำที่จะอ้างเป็นมูลความผิดเอาแก่จำเลยแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงรายการสินค้าเพื่อเสียภาษีศุลกากร หากไม่มีเจตนาปกปิดหรือแสดงเท็จ ไม่เป็นความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษี
ของที่จำเลยสั่งเข้ามาจากต่างประเทศอันจะต้องเสียภาษีศุลกากรนั้น เมื่อไม่ได้ความว่าจำเลยได้ปกปิด ไม่แสดงรายการหรือแสดงรายการอันเป็นเท็จ หรือชักพาให้ผิดหลงแล้ว ก็ไม่มีการกระทำที่จะอ้างเป็นมูลความผิดเอาแก่จำเลยแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1736-1737/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนรถยนต์เช่าซื้อ: สิทธิในทรัพย์สินและการพิพากษาคดีอาญาและแพ่งที่เกี่ยวเนื่อง
โจทก์ฟ้องคดีอาญาหาว่าจำเลยทุจริตโอนรถยนต์ให้ผู้มีชื่อไปโดยเจตนาไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ ขอให้ลงโทษฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 แล้วฟ้องจำเลยกับผู้รับโอนรถยนต์เป็นจำเลยคดีแพ่งขอให้เพิกถอนการโอนรถยนต์ด้วย ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นแต่ผู้เช่าซื้อรถยนต์มาแล้วจำเลยผิดสัญญาเช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อจึงโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์นั้นให้แก่ผู้รับโอนซึ่งชำระเงินค่าเช่าซื้อที่เหลือจนครบ โดยผู้รับโอนเป็นเจ้าหนี้จำเลยซึ่งกู้เงินไปชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์นั้นเองด้วย ดังนี้จำเลยไม่มีความผิดตามฟ้องและจะบังคับให้เพิกถอนการโอนก็ไม่ได้ เพราะจำเลยเป็นแต่ผู้เช่าซื้อ หากเพิกถอนได้ก็เป็นเรื่องที่จะต้องโอนกลับไปเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าซื้อตามเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงตัดสิทธิการฟ้องร้องเป็นโมฆะ สัญญาอนุญาโตตุลาการไม่ตัดสิทธิฟ้อง
เมื่อมีหนี้จะต้องรับผิดเกิดขึ้นแล้วคู่กรณีย่อมมีสิทธินำคดีมาฟ้องศาลได้ การตกลงตัดสิทธิไม่ให้นำคดีมาสู่ศาลย่อมเป็นโมฆะ ข้อตกลงเช่นนี้ไม่มีผล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงตัดสิทธิฟ้องร้องเป็นโมฆะ หนี้เกิดแล้วฟ้องได้ แม้มีข้อตกลงอนุญาโตตุลาการ
เมื่อมีหนี้จะต้องรับผิดเกิดขึ้นแล้ว คู่กรณีย่อมมีสิทธินำคดีมาฟ้องศาลได้ การตกลงตัดสิทธิไม่ให้นำคดีมาสู่ศาลย่อมเป็นโมฆะ ข้อตกลงเช่นนี้ไม่มีผล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1657/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกให้ที่ดินมีโฉนดต้องจดทะเบียนตามกฎหมายจึงสมบูรณ์ การครอบครองยังไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
การทำหนังสือยกให้ที่ดินมีโฉนดโดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สัญญายกให้นั้นย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำว่า "ทรัพย์สิน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 523 หมายถึงเฉพาะสังหาริมทรัพย์ ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น มิได้หมายถึงอสังหาริมทรัพย์ หรืออสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรค 1 ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรค 1 ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ดังระบุไว้ตาม มาตรา 456 วรรค 1 แล้ว การให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
คำสั่งของศาลชั้นต้นอันเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดี มิใช่เป็นการวินิจฉัยว่าฟ้องไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องแล้วในลักษณะอันแท้จริงจึงเป็นยกฟ้อง หาใช่ไม่รับฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1657/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกให้ที่ดินต้องจดทะเบียนตามกฎหมาย จึงจะสมบูรณ์ การฟ้องบังคับตามสัญญาที่ไม่สมบูรณ์ทำไม่ได้
การทำหนังสือยกให้ที่ดินมีโฉนดโดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สัญญายกให้นั้นย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำว่า "ทรัพย์สิน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 523 หมายถึงเฉพาะสังหาริมทรัพย์ทั่วๆไปเท่านั้น มิได้หมายถึงอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรคหนึ่ง ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ดังระบุไว้ตามมาตรา 456 วรรคหนึ่งแล้ว การให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
คำสั่งของศาลชั้นต้นอันเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีมิใช่เป็นการวินิจฉัยว่า ฟ้องไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องแล้ว ในลักษณะอันแท้จริงจึงเป็นการยกฟ้อง หาใช่ไม่รับฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1590/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนหุ้นและการรับผิดในค่าหุ้นค้างชำระ: ผู้โอนหุ้นหมดความรับผิดเมื่อบริษัทรับผู้รับโอนเป็นผู้ถือหุ้น
ผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดได้โอนขายหุ้นทั้งหมดให้ผู้อื่นไปแล้วและบริษัทก็ได้แก้ทะเบียนให้ผู้รับโอนเป็นผู้ถือหุ้นแล้ว ถึงแม้เงินค่าหุ้นนั้นจะยังส่งใช้ไม่ครบก็ดี โจทก์ผู้ชนะคดีบริษัทจำเลยจะขออายัดสิทธิเรียกร้องบังคับให้ผู้โอนขายหุ้นนั้นชำระเงินค่าหุ้นที่ยังส่งใช้ไม่ครบ ไม่ได้ เพราะบริษัทจำเลยหมดสิทธิจะเรียกร้องจากผู้โอนหุ้นไปแล้ว ผู้รับโอนย่อมรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ต่อบริษัท
ในคดีอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อบุคคลภายนอกให้ชำระเงินในปัญหาที่ว่าอายัดได้หรือไม่นั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ จึงเสียค่าขึ้นศาล 50 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2(ก) (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2503)
of 103