พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5876/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาวางเงินค่าเสียหายตามคำสั่งทุเลาการบังคับ: ศาลอุทธรณ์มีอำนาจเฉพาะ และฎีกาไม่ได้
คำสั่งของศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าเสียหายตามเงื่อนไขที่ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้มีการทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์นั้นเป็นคำสั่งต่อเนื่องกับการทุเลาการบังคับ ซึ่งเป็นอำนาจโดยเฉพาะของศาลอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 231 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสามขยายระยะเวลาวางเงินที่จะต้องชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ดังนี้จำเลยทั้งสามจึงฎีกาคำพิพากษานั้นของศาลอุทธรณ์ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายในวิวาท: แม้ฟ้องว่าสมคบกัน แต่พิสูจน์ได้ว่าทำร้ายกันต่างหาก ก็ลงโทษได้
คดีที่ได้เกิดวิวาทกันแล้วทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน เมื่อได้ความว่าผู้ใดทำร้ายใครก็ลงโทษจำเลยที่ได้ทำร้างนั้น ได้ (อ้างฎีกาที่ 621/2460,ที่ 593/2484), การที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำความผิดโดยสมคบกันทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยได้ทำความผิดโดยต่างเข้าทำร้ายผู้เสียหายโดยมิได้สมคบกันมา ก็ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสินบน/สินจ้างเพื่อเอื้อประโยชน์ในหน้าที่ราชการ แม้ไม่ใช่การนอกหน้าที่ ก็ถือเป็นความผิด
สัญญาให้สินน้ำใจอันจะเป็นผิดตาม ม.1+7 นั้นจะต้องปรากฎว่าได้กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณแก่บุคคลผู้ให้สินน้ำใจ ความผิดตาม ม.137 นั้นผู้กระทำไม่จำเป็นต้องทำการนอกเหนือจากหน้าที่ เพียงแต่รับสินจ้างเพื่อช่วยเหลือกิจการในหน้าที่ก็เป็นผิดตามมาตรานี้ได้ ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.213 ฎีกาอุทธรณ์ อำนาจศาลฎีกา เหตุลักษณคดี ฟ้องหาว่าจำเลยให้แลรับสินน้ำใจซึ่งกันและกัน เมื่อไม่ปรากฎว่าสัญญานั้นเป็นสัญญารับสินบน แม้จำเลยคนใดคนหนึ่งจะมิได้ฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องตลอดถึงคนที่ไม่ฎีกาด้วยได้