คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 156

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 22 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต่อศาล แม้ไม่ระบุความสำคัญของความเท็จ ฟ้องสมบูรณ์หากเป็นประเด็นสำคัญในคดี
ความผิดฐานเบิกความเท็จ โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยสาบานตัวเบิกความต่อศาลว่าโจทก์เป็นคนร้ายปล้นกระบือตามฟ้องของพนักงานอัยการโดย จำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จแม้โจทก์จะมิได้บรรยายว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ก็ย่อมเข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีทีเดียว เพราะการเป็นคนร้ายตามฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรงของคดีที่กล่าวหากันดังนี้ ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต่อศาล ความเท็จเป็นข้อสำคัญในคดี ฟ้องสมบูรณ์
ความผิดฐานเบิกความเท็จ โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยสาบาลตัวเบิกความต่อศาลว่าโจทก์เป็นคนร้ายปล้นกระบือตามฟ้องของพนักงานอัยการ โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ แม้โจทก์จะมิได้บรรยายว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ก็ย่อมเข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีทีเดียว เพราะการเป็นคนร้ายตามฟ้องของพนักงานอัยการหรือไม่ เป็นประเด็นโดยตรงของคดีที่กล่าวหากัน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จต้องพิสูจน์การสาบานตนของพยาน การอ้างแบบพิมพ์ไม่เพียงพอต่อการลงโทษ
ในคดีฟ้องหาว่าเบิกความเท็จนั้นถึงแม้โจทก์จะอ้างคำเบิกความของจำเลยในคดีที่เป็นเหตุให้จำเลยถูกฟ้องฐานเบิกความเท็จ และปรากฏมีข้อความในคำเบิกความนั้นว่า'ข้าพเจ้าพยานได้สาบานตนแล้ว' ก็ตาม ข้อความดังกล่าวก็เป็นแต่เพียงแบบพิมพ์ซึ่งได้ตีพิมพ์ไว้ก่อนและเพราะในการเบิกความเป็นพยานในศาลก็หามีกฎหมายบังคับให้พยานทุกคนต้องสาบานหรือปฏิญาณตัวก่อนเบิกความไม่ฉะนั้นเมื่อจำเลยปฏิเสธและโจทก์ไม่ได้นำสืบพยานบุคคลถึงความข้อนี้เลย ก็ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จ/แจ้งความเท็จ: การกล่าวอ้างวันผิดพลาดไม่ถือเป็นเจตนาทุจริต
จำเลยเบิกความเป็นพยานต่อศาลว่า โจทก์กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้พิพากษา ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 5 แต่ปรากฎว่าวันที่ 5 นั้นศาลปิด หยุดราชการ ดังนี้ เมื่อคดีฟังได้ว่าโจทก์ได้กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้พิพากษาให้จำเลยฟังจริง แต่เป็นวันอื่นไม่ใช่วันที่ 5 ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างวันผิดไป มิใช่มูลเหตุหรือสาระสำคัญแห่งเนื้อเรี่องที่จำเลยกล่าวนั้นเป็นเท็จ จำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จหรือแจ้งความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความคลาดเคลื่อนวันกล่าวคำหมิ่นประมาท ไม่ใช่สาระสำคัญแห่งความเท็จ
จำเลยเบิกความเป็นพยานต่อศาลว่า โจทก์กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้พิพากษา ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 5 แต่ปรากฏว่าวันที่ 5 นั้นศาลปิดหยุดราชการ ดังนี้ เมื่อคดีฟังได้ว่าโจทก์ได้กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้พิพากษาให้จำเลยฟังจริง แต่เป็นวันอื่นไม่ใช่วันที่ 5 ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างวันผิดไป มิใช่มูลเหตุหรือสาระสำคัญแห่งเนื้อเรื่องที่จำเลยกล่าวนั้นเป็นเท็จ จำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จหรือแจ้งความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเบิกความเท็จแม้คดีอาญาจบแล้ว ผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเอาความที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความเป็นพยานในข้อสำคัญในคดีอาญาที่โจทก์ถูกฟ้องว่ากระทำความผิด แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องในคดีนั้นจนถึงที่สุดไปแล้ว ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่า โจทก์เป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการที่จำเลยเบิกความเป็นพยานเท็จนั้นเพราะโจทก์อาจถูกศาลพิพากษาลงโทษได้ถ้าหากศาลเชื่อคำเบิกความเท็จของจำเลย โจทก์จึงเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 28

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องดำเนินคดีฐานเบิกความเท็จ แม้คดีอาญาที่เกี่ยวข้องยกฟ้องแล้ว โจทก์ก็ยังเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิฟ้องได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเอาความรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความเป็นพยานในข้อสำคัญในคดีอาญาที่โจทก์ถูกฟ้องว่ากระทำความผิด แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้องในคดีนั้นจนถึงที่สุดไปแล้ว ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่า โจทก์เป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการที่จำเลยเบิกความเสียหายเนื่องจากการที่จำเลยเบิกความเป็นพยานเท็จนั้นเพราะโจทก์อาจถูกศาลพิพากษาลงโทษได้ ถ้าหากศาลเชื่อคำเบิกความเท็จของจำเลย โจทก์จึงเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 28

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จ ข้อสำคัญในคดี: ศาลล่างวินิจฉัยแล้ว โจทก์ฎีกาไม่ได้ยกเหตุผลให้ฟัง
การที่จะวินิจฉัยว่าถ้อยคำที่เบิกความเท็จจะเป็นข้อสำคัญหรือไม่นั้น ย่อมต้องพิจารณาประเด็นในคดีที่ผู้นั้นเบิกความประกอบ เมื่อศาลล่าง 2 ศาลฟังว่าข้อความที่ผู้นั้นเบิกความเท็จไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีแล้ว การเป็นข้อสำคัญหรือไม่สำคัญ ย่อมเป็นข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความไม่สาบาน ไม่เป็นความเท็จ
เบิกความเป็นพยานในศาลโดยไม่ได้สาบานตัว ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 217/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การก่อนปฏิญาณแล้วจึงปฏิญาณ ศาลรับฟังได้ตามกฎหมาย
พยานให้การก่อนปฏิญาณหรือสาบานโดยพลั้งเผลอ เมื่อให้การแล้วจึงได้ปฏิญาณต่อหน้าศาลว่า คำให้การนั้นเป็นความจริงดังนี้ ถือว่าได้ปฏิบัติตามมาตรา 112 แล้ว คำให้การใช้ได้ตามกฎหมาย
of 3