พบผลลัพธ์ทั้งหมด 68 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดเจ้าพนักงานทุจริต แม้ฟ้องเป็นตัวการ ศาลลงโทษฐานสมรู้ได้
การที่เจ้าพนักงานสมคบกับราษฎรร่วมกันกระทำผิดฐานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริต ราษฎรย่อมมีผิดฐานสมรู้
คดีโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานเป็นตัวการ ทางพิจารณาได้ความว่ามีผิดฐานสมรู้ ศาลก็ลงโทษได้
(อ้างฎีกา 620/2490)
คดีโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานเป็นตัวการ ทางพิจารณาได้ความว่ามีผิดฐานสมรู้ ศาลก็ลงโทษได้
(อ้างฎีกา 620/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดของราษฎรเมื่อเจ้าพนักงานกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่
การที่เจ้าพนักงานสมคบกับราษฎรร่วมกันกระทำผิดฐานใช้อำนาจ และตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจจริต ราษฎรย่อมมีผิดฐานสมรู้
คดีโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานเป็นตัวการ ทางพิจารณาได้ความว่ามีผิดฐานสมรู้ ศาลก็ลงโทษได้.
(อ้างฎีกา 620/2490)
คดีโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานเป็นตัวการ ทางพิจารณาได้ความว่ามีผิดฐานสมรู้ ศาลก็ลงโทษได้.
(อ้างฎีกา 620/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานสมรู้เมื่อฟ้องฐานตัวการ ศาลไม่ถือว่านอกฟ้องเกินคำขอ
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานตัวการ แต่ศาลเห็นว่า จำเลยมีผิดฐานสมรู้เท่านั้น ศาลก็ลงโทษฐานสมรู้ ซึ่งมีโทษเบากว่าตัวการได้ หาเป็นการนอกฟ้องเกินคำขอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากตัวการเป็นสมรู้: ศาลลงโทษได้หากมีเหตุผลรองรับ
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานตัวการ แต่ศาลเห็นว่า จำเลยมีผิดฐานสมรู้เท่านั้น ศาลก็ลงโทษฐานสมรู้ ซึ่งมีโทษเบากว่าตัวการได้ หาเป็นการนอกฟ้องหรือเกินคำขอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับการพนัน แม้ฟ้องในฐานตัวการ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นการพนันโปปั่นทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นผู้สมรู้ในการจัดให้มีการเล่นการพนันดั่งนี้ ลงโทษจำเลยฐานสมรู้ได้ (อ้างฎีกา 205/2483)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบปืนให้ผู้อื่นยิงเป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดฐานสมรู้ร่วมคิด
ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันเป็นตัวการลงมือฆ่าเขาตายแต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้คบคิดกันแล้วมอบปืนให้อีกคนหนึ่งไปยิงเขา โดยตนเองไม่ได้ไปด้วย ดังนี้จะลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้ใช้ไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงในข้อที่ว่าได้ลงมือทำเองหรือเป็นแต่ผู้ใช้นั้นเป็นข้อสำคัญที่ต่างกันมาก โดยวันเวลาและสถานที่ล้วนต่างกันทั้งนั้น
แต่การที่มอบปืนให้คนอื่นไปยิงเขาตายนั้น เป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดถือว่าสมรู้ตามมาตรา 65 และศาลลงโทษฐานสมรู้ได้
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2491
แต่การที่มอบปืนให้คนอื่นไปยิงเขาตายนั้น เป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดถือว่าสมรู้ตามมาตรา 65 และศาลลงโทษฐานสมรู้ได้
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2491
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดร่วมสมคบกันเรียกรับเงินจากผู้ต้องหา แม้ผู้รับเงินไม่ใช่เจ้าพนักงาน แต่ความผิดฐานสมรู้ยังคงมีอยู่
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยที่ 1 เป็นพนักงานสอบสวน จำเลยที่ 2 เป็นตำรวจประจำกอง 2 ตำรวจสันติบาล สมคบกันทำผิดกฎหมายโดยจำเลยที่ 1 เรียกเงินเป็นสินน้ำใจจากผู้ต้องหา ในการที่อุปการะแก่การที่จำเลยที่ 1 ให้คุณแก่ผู้ต้องหาตามอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ส่วน จำเลยที่ 2 เป็นผู้ไปรับเงินมาจากผู้ต้องหา มาเป็นอาณาประโยชน์ของจำเลยทั้ง 2 ดังนี้ แม้ศาลจะวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 ไม่ใช่เจ้าพนักงานมีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนและถือว่า อยู่ในฐานะเสมือนราษฎร ทำผิดร่วมกับเจ้าพนักงาน ควรมีผิดเพียงฐานสมรู้เท่านั้นก็ดี ศาลก็ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมรู้ได้ ไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสมคบกันเรียกรับเงินจากผู้ต้องหา แม้ผู้รับเงินไม่ใช่เจ้าพนักงานสอบสวน
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยที่ 1 เป็นพนักงานสอบสวน จำเลยที่ 2 เป็นตำรวจ ประจำกอง 2 ตำรวจสันติบาลสมคบกันทำผิดกฎหมาย โดยจำเลยที่ 1 เรียกเงินเป็นสินน้ำใจจากผู้ต้องหา ในการที่อุปการะแก่การที่จำเลยที่ 1 ให้คุณแก่ผู้ต้องหาตามอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้ไปรับเงินมาจากผู้ต้องหา มาเป็นอาณาประโยชน์ของจำเลยทั้ง 2 ดังนี้ แม้ศาลจะวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ไม่ใช่เจ้าพนักงานมีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนและถือว่า อยู่ในฐานะเสมือนราษฎร ทำผิดร่วมกับเจ้าพนักงาน ควรมีผิดเพียงฐานสมรู้เท่านั้นก็ดี ศาลก็ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมรู้ได้ ไม่เรียกว่า ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมรู้ร่วมคิดลักตัดสายโทรศัพท์: ความผิดฐานอุปการะ
จำเลยแจวเรือไปส่งคนร้ายขึ้นลักตัดสายโทรเลขโทรศัพท์แล้วไปจอดเรือรอคอยห่างที่เกิดเหตุ 20 เส้น เพื่อจะบรรทุกสายโทรเลขโทรศัพท์ที่จะลักตัดมาได้นั้นเป็นการกระทำอุปการะแก่การกระทำผิดของคนร้ายมีผิดฐานสมรู้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 65
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรู้ร่วมคิดรับสินบน: ผู้ช่วยรับเงินจากผู้ถูกเกณฑ์ถือเป็นอุปการะการกระทำผิด
พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นการกระทำอันเป็นอุปการะแก่การกระทำผิดฐานรับสินบลและต้องรับผิดในฐานะเป็นผู้สมรู้