พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6602/2547 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขกฎหมายระหว่างพิจารณาคดี และอำนาจศาลในการพิพากษาเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ
แม้ขณะเกิดเหตุข้อหาตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้องจำเลยจะมีกำหนดโทษจำคุกขั้นต่ำตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปก็ตาม แต่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นได้มีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวโดยกำหนดโทษจำคุกขั้นต่ำเป็นตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป เมื่อกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะศาลทำการพิจารณาเป็นเช่นนี้ ในการวินิจฉัยกรณีตาม ป.วิ.อ. มาตรา 176 จึงต้องถือตามนั้นการที่ศาลจะต้องฟังพยานโจทก์หรือไม่เป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายวิธีพิจารณา ดังนั้น เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้โดยไม่ต้องฟังพยานโจทก์ก่อน จึงเป็นการชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 176
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยข้อเท็จจริงในคดีวินัยร้ายแรง: การงดสืบพยานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ตามคำฟ้องและคำให้การคดีมีประเด็นหลักที่ต้องฟังข้อเท็จจริงให้ได้ว่าโจทก์กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือไม่ การที่ศาลแรงงานกลางจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า คู่ความแถลงรับกันว่าข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นมีอยู่เป็นไปตามคำฟ้องคำให้การ เอกสารท้ายฟ้องท้ายคำให้การ......แล้วสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษาคดีไปนั้น เห็นได้ว่า ข้อเท็จจริงย่อมจะเป็นไปตามข้ออ้างข้อหาในคำฟ้องและขณะเดียวกันก็เป็นไปตามคำให้การด้วยไม่ได้ ลำพังเอกสารที่ศาลแรงงานกลางหยิบยกขึ้นอ้าง ยังไม่เพียงพอแก่การที่จะวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นในคดี จึงเป็นกรณีที่ศาลแรงงานกลางมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายวิธีพิจารณาความว่าด้วยการพิจารณา ต้องย้อนสำนวนไปให้พิจารณาพิพากษาใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลชี้ขาดแล้ว ต้องห้ามตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและแพ่ง
ผู้ประกันยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไม่ให้ลดค่าปรับเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา198 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคำร้องของผู้ประกันในกรณีดังกล่าวถึงที่สุดแล้วผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นลดค่าปรับโดยอ้างเหตุเดิมอีก จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลชั้นต้นได้มีคำวินิจฉยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องของผู้ประกันฉบับหลังว่า ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม และผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็ไม่มีอำนาจที่จะรับวินิจฉัยให้ ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยมานั้นเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาเด็กและเยาวชน เกินกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการ
จำเลยเป็นเยาวชนถูกควบคุมอยู่ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางพนักงานสอบสวนไม่ขอผัดฟ้อง ศาลจึงปล่อยตัวจำเลยไป แม้ต่อมาเมื่อจำเลยพ้นเกณฑ์เยาวชนแล้วโจทก์ก็จะฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาโดยมิได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการหาได้ไม่.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาเด็กและเยาวชน เกินกำหนดเวลาตามกฎหมายวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน และต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการ
จำเลยเป็นเยาวชนถูกควบคุมอยู่ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางพนักงานสอบสวนไม่ขอผัดฟ้องศาลจึงปล่อยตัวจำเลยไปแม้ต่อมาเมื่อจำเลยพ้นเกณฑ์เยาวชนแล้วโจทก์ก็จะฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาโดยมิได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการหาได้ไม่.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1952/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลังฝ่ายตรงข้ามสืบพยานเสร็จสิ้น และผลกระทบต่อการรับฟังพยานหลักฐาน
โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน จำเลยนำเอกสารหมาย ล.1(หนังสือโจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลย) มาอ้างภายหลังจากที่โจทก์ได้สืบพยานบุคคลเสร็จสิ้นไปแล้ว ในขณะที่โจทก์เบิกความจำเลยก็มิได้ถามค้านถึงเอกสารหมาย ล.1 และโจทก์ได้คัดค้านไว้แล้วฉะนั้นเอกสารหมาย ล.1 จึงรับฟังไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1622-1623/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยทั้งอาญาและแพ่ง เนื่องจากฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา/แพ่ง
ฎีกาว่า การที่จำเลยเข้าทำนาพิพาทไม่เป็นการบุกรุก เพราะเมื่อจำเลยเห็นว่าโจทก์กับพวกสมคบกันฉ้อโกง จะกระทำการเป็นปรปักษ์เกี่ยวแก่ที่ดินพิพาทว่าเป็นของตน จำเลยจึงเข้าป้องกันทรัพย์พิพาทโดยเข้าปลูกข้าวโดยเข้าใจโดยสุจริตว่าจำเลยมีความชอบธรรมที่จะทำได้ตามกฎหมายดังนี้เท่ากับโต้เถียงว่าจำเลยไม่มีเจตนาทางอาญาในการบุกรุกอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ลงโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 400 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ ฎีกาดังกล่าวจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
ฎีกาในเรื่องค่าเสียหาย ที่ไม่กล่าวโต้แย้งข้อเท็จจริง ไม่ยกเหตุผลให้ชัดแจ้งว่า เหตุใดที่ไม่ควรให้จำเลยรับผิดตามจำนวนที่ศาลล่างให้ชดใช้และมีเหตุผลใดที่จะให้รับผิดเพียงเท่าที่ฎีกา ดังนี้ เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
ฎีกาในเรื่องค่าเสียหาย ที่ไม่กล่าวโต้แย้งข้อเท็จจริง ไม่ยกเหตุผลให้ชัดแจ้งว่า เหตุใดที่ไม่ควรให้จำเลยรับผิดตามจำนวนที่ศาลล่างให้ชดใช้และมีเหตุผลใดที่จะให้รับผิดเพียงเท่าที่ฎีกา ดังนี้ เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงกฎหมายวิธีพิจารณาคดีและการบังคับใช้กับคดีที่ฟ้องร้องไว้แล้ว
แม้ขณะที่ฟ้องคดีศาลชั้นต้นกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งใช้อยู่ขณะนั้นจะให้อำนาจคู่ความฎีกาได้เพราะทุนทรัพย์ถึง4,000 บาท แต่ถ้าหากต่อมาเมื่อคดีนั้นจะฎีกา มีกฎหมายแก้ไขทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาให้มากขึ้น โดยกำหนดว่าถ้าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนในข้อเท็จจริง ทุนทรัพย์ต้องเกิน 5,000 บาท จึงจะฎีกาได้ก็ต้องถือเอาตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่เพราะกฎหมายอันเกี่ยวด้วยระเบียบวิธีพิจารณานั้นบังคับได้ทันที
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ยื่นฟ้องก่อนแก้กฎหมายวิธีพิจารณา ต้องใช้กฎหมายเดิมบังคับ หากส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ให้จำหน่ายคดี
คดีที่ได้ยื่นฟ้องฎีกาก่อนวันประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาที่แก้ไขใหม่นั้น ต้องใช้ประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาที่ใช้อยู่เดิมบังคับ.เมื่อส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ ต้องจำหน่ายคดี.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ยื่นก่อนกฎหมายวิธีพิจารณาใหม่ ใช้กฎหมายเดิมบังคับ แม้ส่งสำเนาฎีกาไม่ได้
คดีที่ได้ยื่นฟ้องฎีกาก่อนวันประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาที่แก้ไขใหม่นั้น ต้องใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาที่ใช้อยู่เดิมบังคับเมื่อส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ต้องจำหน่ายคดี(ประชุมใหญ่ครั้งที่5/2499)