พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนส่งประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานสนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยได้ประกอบการขนส่งประจำทาง โดยใช้รถยนต์นั่งซึ่งได้จดทะเบียนเข้าร่วมกิจการประกอบการขนส่งไม่ประจำทางกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง ขนส่งคนและสิ่งของเพื่อสินจ้างในเส้นทางที่ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางได้รับอนุญาต โดยจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 23,126 การที่จำเลยนำรถเข้าร่วมกิจการขนส่งไม่ประจำทางกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. จะถือว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางหาได้ไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามบทบัญญัติมาตรา 40,138 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ทั้งข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด บ.ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางเป็นตัวการผู้กระทำผิด จึงไม่อาจลงโทษจำเลยในฐานเป็นผู้สนับสนุนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนส่งประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก และการสนับสนุนความผิด
จำเลยได้ประกอบการขนส่งประจำทาง โดยใช้รถยนต์นั่งซึ่งได้จดทะเบียนเข้าร่วมกิจการประกอบการขนส่งไม่ประจำทางกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง ขนส่งคนและสิ่งของเพื่อสินจ้างในเส้นทางที่ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางได้รับอนุญาต โดยจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 23,126
การที่จำเลยนำรถเข้าร่วมกิจการขนส่งไม่ประจำทางกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. จะถือว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางหาได้ไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามบทบัญญัติมาตรา 40,138 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ทั้งข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด บ.ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางเป็นตัวการผู้กระทำผิด จึงไม่อาจลงโทษจำเลยในฐานเป็นผู้สนับสนุนได้.
การที่จำเลยนำรถเข้าร่วมกิจการขนส่งไม่ประจำทางกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. จะถือว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางหาได้ไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามบทบัญญัติมาตรา 40,138 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ทั้งข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด บ.ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางเป็นตัวการผู้กระทำผิด จึงไม่อาจลงโทษจำเลยในฐานเป็นผู้สนับสนุนได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ขับรถโดยสารประจำทาง ไม่ใช่ผู้ประกอบการขนส่ง หากเจ้าของรถร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นผู้รับผิดชอบ
รถยนต์ที่จำเลยขับเป็นรถยนต์ที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้ประกอบการขนส่งประจำทางร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ดังนั้น เจ้าของรถยนต์ร่วมกับองค์การ ฯ เป็นผู้รับผิดชอบในการใช้รถคันนี้ในการขนส่งประจำทาง จำเลยเป็นเพียงผู้ใช้รถยนต์ ในนามของเจ้าของรถร่วมกับองค์การ ฯ เท่านั้น จำเลยไม่ได้เป็น ผู้ประกอบการขนส่งประจำทางแต่อย่างใด แม้จำเลยจะนำรถยนต์ แล่นรับส่งคนโดยสารนอกเส้นทางที่ได้รับอนุญาตไว้ ก็ไม่เป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก ฯ มาตรา 23, 126
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ขับรถโดยสารประจำทาง ไม่ใช่ผู้ประกอบการขนส่ง การกระทำผิดจึงอยู่ที่เจ้าของรถและองค์การขนส่งมวลชน
รถยนต์ที่จำเลยขับเป็นรถยนต์ที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้ประกอบการขนส่งประจำทางร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพดังนั้น เจ้าของรถยนต์ร่วมกับองค์การฯเป็นผู้รับผิดชอบในการใช้รถคันนี้ในการขนส่งประจำทาง จำเลยเป็นเพียงผู้ใช้รถยนต์ ในนามของเจ้าของรถร่วมกับองค์การฯ เท่านั้น จำเลยไม่ได้เป็น ผู้ประกอบการขนส่งประจำทางแต่อย่างใด แม้จำเลยจะนำรถยนต์ แล่นรับส่งคนโดยสารนอกเส้นทางที่ได้รับอนุญาตไว้ ก็ไม่เป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ มาตรา 23,126
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2999/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชอบของฟ้องอาญา: การบรรยายองค์ประกอบความผิดฐานประกอบการขนส่งประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า 'เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม2524 เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ช.ม. 20-1034 วิ่งรับส่งคนโดยสารเพื่อสินจ้างประจำทางสายเวียงป่าเป้า-ดอยนางแก้ว อันเป็นการประกอบการขนส่งประจำทางโดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ฯลฯ' นั้น เป็นการบรรยายถึงองค์ประกอบความผิดตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก ฯมาตรา 23 แล้วจึงเป็นฟ้องที่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2834/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้รถผิดประเภทในการขนส่งประจำทาง แม้โจทก์ฟ้องผิดฐาน ศาลต้องยกฟ้องตามหลักประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยประกอบการขนส่งประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 23 แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรณีใช้รถผิดประเภทอันเป็นความผิดตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และความผิดตามมาตรา 27 นี้โจทก์มิได้บรรยายข้อเท็จจริงมาในฟ้องและมิได้อ้างบทมาตรามา ในคำขอท้ายฟ้องจึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ ศาลจึง ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแข่งขันทางธุรกิจขนส่งประจำทางและการละเมิดสิทธิรายได้
จำเลยเดินรถขนส่งสาธารณะทับเส้นทางที่โจทก์ได้รับอนุญาตขนส่งประจำทาง ไม่ใช่ลักษณะพาผู้โดยสารไปท่องเที่ยว ทำให้รายได้ของโจทก์ตกต่ำ เป็นละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแข่งขันขนส่งประจำทาง: การละเมิดสิทธิผู้ได้รับอนุญาตและการควบคุมการขนส่งเพื่อความปลอดภัย
โจทก์บรรยายฟ้องและนำสืบว่า โจทก์ได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถยนต์โดยสารบนเส้นทางสายหนึ่งและจำเลยได้นำรถยนต์มาวิ่งรับส่งผู้โดยสารบนเส้นทางดังกล่าว เป็นกรณีที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยละเมิดสิทธิของโจทก์โจทก์ชอบที่จะเสนอคดีต่อศาลเพื่อขจัดข้อโต้แย้งและแสดงสิทธิของโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 55 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
พระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14 บัญญัติห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะเข้าทำการขนส่งในเส้นทางใดในลักษณะที่เป็นการแข่งขันกับผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งประจำทางในเส้นทางสายนั้นมีความมุ่งหมายที่จะควบคุมการขนส่งคนโดยสารโดยรถยนต์โดยสาร เพื่อมิให้เกิดการแก่งแย่งกับรถโดยสารประจำทางแม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะตามมาตรา 11(2) แต่เมื่อจำเลยนำรถยนต์มาวิ่งรับคนโดยสารและเก็บค่าโดยสารเป็นรายตัวเช่นเดียวกับโจทก์เป็นการทับเส้นทางของโจทก์โดยมิใช่ในลักษณะเหมาทั้งคันหรือในลักษณะรถทัศนาจรย่อมถือว่าเป็นลักษณะของการแข่งขันและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติมาตรา 14ดังกล่าวจึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์
พระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14 บัญญัติห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะเข้าทำการขนส่งในเส้นทางใดในลักษณะที่เป็นการแข่งขันกับผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งประจำทางในเส้นทางสายนั้นมีความมุ่งหมายที่จะควบคุมการขนส่งคนโดยสารโดยรถยนต์โดยสาร เพื่อมิให้เกิดการแก่งแย่งกับรถโดยสารประจำทางแม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะตามมาตรา 11(2) แต่เมื่อจำเลยนำรถยนต์มาวิ่งรับคนโดยสารและเก็บค่าโดยสารเป็นรายตัวเช่นเดียวกับโจทก์เป็นการทับเส้นทางของโจทก์โดยมิใช่ในลักษณะเหมาทั้งคันหรือในลักษณะรถทัศนาจรย่อมถือว่าเป็นลักษณะของการแข่งขันและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติมาตรา 14ดังกล่าวจึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแข่งขันแย่งลูกค้าขนส่งประจำทางละเมิดสิทธิผู้ได้รับใบอนุญาต - ค่าเสียหายเหมาะสม
จำเลยเดินรถขนส่งทับเส้นทางเป็นการแข่งขันกับโจทก์ผู้ได้รับใบอนุญาตขนส่งประจำทาง โจทก์เดินรถตอนเช้าซึ่งมีคนโดยสารมาก จำเลยเดินรถในเวลาถัดไป ดังนี้ เป็นการละเมิดสิทธิต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2432/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแข่งขันขนส่งประจำทาง: การกระทำที่เป็นการละเมิดต่อผู้ได้รับอนุญาต
จำเลยเดินรถรับส่งผู้โดยสารในเส้นทางที่โจทก์ได้รับอนุญาต โดยมีกำหนดเวลาออกรถและสถานที่จอดรถที่แน่นอนประจำทุกวัน เมื่อรถจำเลยถึงปลายทางผู้โดยสารต่างคนต่างแยกย้ายกันไป รถจำเลยไม่ได้พาผู้โดยสารไปทัศนาจรที่ใดเลย และการจำหน่ายตั๋วโดยสารก็จำหน่ายเป็นรายบุคคล ในอัตราค่าโดยสารที่เป็นปกติธรรมดามิใช่เพื่อการทัศนาจรดังนี้ ย่อมถือได้ว่าจำเลยเดินรถในลักษณะที่เป็นการแข่งขันกับโจทก์ผู้มีสิทธิทำการขนส่งเดินรถประจำทางในเส้นทางสายที่โจทก์ได้รับอนุญาต ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์