พบผลลัพธ์ทั้งหมด 20 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ทำร้ายพร้อมคำขู่ แสดงเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นเหตุพยายามฆ่า
ก่อนเกิดเหตุจำเลยถือมีดอยู่ที่หน้าบ้านร้องตะโกนว่า วันนี้กูจะต้องฆ่าคนก่อนคดีนี้จำเลยเคยบุกรุกเข้าทำร้ายผู้เสียหายแล้วถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกและปรับโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ และเมื่อจำเลยกลับไปบ้านได้พูดอาฆาตผู้เสียหายว่า ถ้าหมดระยะเวลาที่ศาลรอลงอาญาจำเลยจะมาฆ่าผู้เสียหาย นอกจากนี้พฤติการณ์ที่จำเลยตรงเข้าทำร้ายผู้เสียหายทันทีพร้อมกับพูดว่าวันนี้กูจะฆ่ามึงเมื่อผู้เสียหายจอดรถที่หน้าบ้านโดยไม่มีการพูดจาอะไรกัน แสดงให้เห็นถึงมูลเหตุและการตระเตรียมของจำเลยเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3916/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การขู่ด้วยอาวุธปืนและการเมาสุรา ไม่ถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้อาวุธปืนจี้ที่ขมับผู้เสียหายพร้อมกับพูดว่า กูจะฆ่ามึงทิ้ง ถ้ามึงไปถึงกิ่งอำเภอเมื่อไรกูจะฆ่าเมื่อนั้น ดังนี้คำพูดของจำเลยขณะที่ใช้อาวุธปืนจี้ผู้เสียหายมีความหมายชัดเจนว่าจำเลยจะยิงผู้เสียหายเมื่อไปถึงกิ่งอำเภอไม่ใช่ยิงในขณะนั้นเป็นการกระทำในลักษณะขู่ผู้เสียหายมากกว่า หากจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายก็คงใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้เสียหายทันทีโดยไม่ต้องใช้อาวุธปืนจี้และมีการพูดถึงเหตุการณ์ในอนาคตเช่นนั้น ประกอบกับผู้เสียหายกับจำเลยไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน และจำเลยกระทำในขณะเมาสุรา การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3916/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การขู่ด้วยอาวุธปืนและการกระทำภายหลังเมาสุรา
จำเลยใช้อาวุธปืนจี้ที่ขมับผู้เสียหายพร้อมกับพูดว่า กูจะฆ่ามึงทิ้ง ถ้ามึงไปถึงกิ่งเมื่อไรกูจะฆ่าเมื่อนั้น ดังนี้ คำพูดของจำเลยขณะที่ใช้อาวุธปืนจี้ผู้เสียหายมีความหมายชัดเจนว่าจำเลยจะยิงผู้เสียหายเมื่อไปถึงกิ่งอำเภอไม่ใช่ยิงในขณะนั้นเป็นการกระทำในลักษณะขู่ผู้เสียหายมากกว่า หากจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ก็คงใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้เสียหายทันทีโดยไม่ต้องใช้อาวุธปืนจี้และมีการพูดถึงเหตุการณ์ในอนาคตเช่นนั้น ประกอบกับผู้เสียหายกับจำเลยไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน และจำเลยกระทำในขณะเมาสุรา การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2403/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าต้องประเมินจากพฤติการณ์ยิง แม้ใช้ปืนประสิทธิภาพสูง แต่หากกระสุนไม่ตรงเป้าหรือไม่รัวยิงต่อเนื่อง อาจฟังได้แค่ขู่
ผู้เสียหายมาพบเห็นจำเลยกำลังลักสังกะสีบนหลังคาจึงร้องถามจำเลย จำเลยกระโดดลงมาจากหลังคาคว้าเอาอาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงมายังผู้เสียหาย 2 นัด ขณะอยู่ห่างผู้เสียหายประมาณ 3 วา กระสุนปืนถูกดินห่างจากผู้เสียหายประมาณครึ่งเมตร ผู้เสียหายคลานหลบหนีมาได้ 5 วา ก็ได้ยินเสียงปืนดังมาจากจำเลยอีก 2 นัด และ 3 นัดตามลำดับ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงใช้ยิงทีละนัดก็ได้หรือจะยิงทีละหลายนัดก็ได้ยิงมายังผู้เสียหายครั้งแรก 2 นัด โดยไม่ปรากฏสิ่งกำบังระหว่างจำเลยกับผู้เสียหาย หากจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายก็อาจยิงรัวไปที่ผู้เสียหายโดยไม่ต้องเล็ง กระสุนปืนย่อมจะถูกผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้โดยง่าย แต่การที่จำเลยยิงไปที่ผู้เสียหายกระสุนปืนตกห่างผู้เสียหายเพียงครึ่งเมตร และยิงครั้งต่อไปกระสุนปืนไม่ถูกผู้ใดเลย แสดงว่าจำเลยยิงขู่เพื่อการพาทรัพย์ที่ลักไป ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5957/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและการร่วมกระทำความผิด: จำเลยเพียงขู่ ไม่ได้มีส่วนร่วมในการยิง
จำเลยกับพวกพากันไปที่บ้านผู้ตายเพื่อต่อว่าน้องของผู้ตายไม่ได้มีเจตนาจะไปฆ่าใคร น้องของผู้ตายออกจากบ้านมาชกต่อยกับล.พวกของจำเลย จำเลยกับคนอื่นเพียงแต่ยืนดูเฉย ๆ เมื่อผู้ตายออกจากบ้านเดินเข้าไปที่คู่ต่อสู้ จำเลยก็เพียงแต่ชักอาวุธปืนออกมาขู่ไม่ให้ผู้ตายเข้าไปช่วยน้องเท่านั้น หากจำเลยมีเจตนาฆ่าก็คงยิงผู้ตายตั้งแต่ผู้ตายออกจากบ้านแล้วการที่ ล. ยิงผู้ตาย เป็นการกระทำของล.แต่ผู้เดียว ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5548/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงปืนเพื่อขู่ภัยก่อให้เกิดอันตรายแก่กายเข้าข่ายประมาท
จำเลยถูกผู้เสียหายด่าจึงยิงปืนเพื่อขู่ไม่ให้ผู้เสียหายด่าจำเลยอีกต่อไป แต่จำเลยไม่เลือกยิงขึ้นฟ้า กลับยิงไปที่ลูกกรงไม้ชานบ้านห่างจากจุดที่ ผู้เสียหายยืนประมาณ 2วา ทำให้เศษไม้กระเด็นไปถูกผู้เสียหายได้รับ อันตรายแก่กายจำเลยมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่น ได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2412/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การกระทำจ่อปืนขู่ ไม่ถึงขั้นลงมือจริง
จำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองยาวกระชากลูกเลื่อนให้กระสุนปืนเข้ารังเพลิงพร้อมยิงแล้วจ่อปืนที่หน้าอกผู้เสียหายห่างราว 1 คืบพร้อมกับพูดว่า มึงตาย เสียเถอะ ขณะนั้นผู้เสียหายนั่งดู โทรทัศน์อยู่กับพื้น หากจำเลยจะยิงจริงก็ยิงได้ จำเลยกับผู้เสียหายนับถือกันเพิ่งมีเรื่องขัดใจกันเพียงเล็กน้อยเพราะผู้เสียหายทวงเงินค่าเบียร์ 30 บาท การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงแต่มีเจตนาขู่ให้ผู้เสียหายตกใจกลัว ไม่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยประมาทไม่ใช่การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จะมีการขู่ก่อนเกิดเหตุ
การกระทำซึ่งจะเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา68ต้องเป็นการกระทำโดยเจตนาจำเลยเอาอาวุธปืนออกมาขู่ผู้ตายและทำปืนลั่นโดยประมาทถูกผู้ตายถึงแก่ความตายไม่ใช่กระทำโดยเจตนาการกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการป้องกัน.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ้องปืนขู่ไม่ถึงขั้นพยายามฆ่า ศาลยกฟ้อง
จำเลยใช้ปืนจ้องไปทางผู้เสียหายเป็นเวลานานประมาณ15วินาทีแต่ก็ไม่ได้ลั่นไกปืนยิงถ้าจำเลยมีเจตนาจะยิงผู้เสียหายก็ยิงได้ทันเป็นจำนวน1นัดก่อนที่ผู้เสียหายจะวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังคนอื่นการกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงการจ้องปืนขู่ผู้เสียหาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า: การจ้องปืนขู่โดยไม่ลั่นไก ไม่ถึงขั้นพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนจ้องไปทางผู้เสียหายเป็นเวลานานประมาณ15วินาทีแต่ก็ไม่ได้ลั่นไกปืนยิงถ้าจำเลยมีเจตนาจะยิงผู้เสียหายก็ยิงได้ทันเป็นจำนวน1นัดก่อนที่ผู้เสียหายจะวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังคนอื่นการกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงการจ้องปืนขู่ผู้เสียหาย