คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อเท็จจริงใหม่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 99 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: การยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกาที่ไม่เคยกล่าวอ้างในศาลล่าง
จำเลยให้การว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจะซื้อขายและจำเลยไม่เคยได้รับหนังสือจากโจทก์แจ้งกำหนดเวลาจดทะเบียนรับโอนที่ดินพิพาท ดังนั้น ที่จำเลยฎีกาว่าหนังสือบอกกล่าวที่แจ้งกำหนดเวลาให้จำเลยไปรับโอนที่ดินพิพาทไม่มีข้อความว่าหากจำเลยไม่ไปถือว่าเป็นอันเลิกสัญญาซื้อขาย จึงเป็นการฎีกาในข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาในศาลล่าง ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2609/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกา และแก้ไขโทษฐานหลบหนีไม่แจ้งเหตุตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
ในชั้นอุทธรณ์จำเลยได้ยกข้อเท็จจริงขึ้นอุทธรณ์แต่ศาลอุทธรณ์มิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย จำเลยก็ไม่ได้ฎีกาโต้แย้งว่าการที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยนั้น ไม่ชอบแต่อย่างไร แต่จำเลยกลับยกข้อเท็จจริงทำนองเดียวกับที่เคยยกขึ้นกล่าวในศาลอุทธรณ์ขึ้นฎีกาซ้ำอีก จึงเป็นข้อเท็จจริงที่เพิ่งยกขึ้นในชั้นฎีกาและถือไม่ได้ว่าเป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 216 ทั้งมิได้เป็นข้อความที่ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินไว้จึงไม่อาจใช้ดุลพินิจอนุญาตให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 221 ได้ ที่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาจึงเป็นการไม่ชอบ
จำเลยขับรถชนผู้ตายแล้วหลบหนีไม่ให้ความช่วยเหลือตามสมควร การหลบหนีของจำเลยไม่เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย เนื่องจากผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะถูกรถชนไปก่อนแล้ว จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 160 วรรคสอง แต่มีความผิดตามมาตรา 160 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9225/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่อาจรับวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกา หากไม่ได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในชั้นอุทธรณ์จำเลยได้ยกข้อเท็จจริงทำนองว่าจำเลยมิได้กระทำความผิดตามฟ้องขึ้นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์มิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย จำเลยเองก็ไม่ได้ฎีกาโต้แย้งว่าการที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยนั้นไม่ชอบแต่อย่างใด แต่จำเลยกลับยกข้อเท็จจริงว่ามิได้กระทำผิดทำนองเดียวกับที่เคยยกขึ้นว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์ขึ้นฎีกาซ้ำอีก ถือได้ว่าข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นฎีกาเป็นข้อเท็จจริงที่เพิ่งยกขึ้นในชั้นฎีกา และถือไม่ได้ว่าฎีกาดังกล่าวเป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 216 ทั้งมิได้เป็นข้อความที่ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินไว้ จึงไม่อาจใช้ดุลพินิจอนุญาตให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 221 ได้ ดังนั้นที่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาดังกล่าวมาจึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7894/2547 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ที่ไม่ได้อุทธรณ์ในชั้นศาลอุทธรณ์ และยืนตามศาลล่างที่ไม่รอการลงโทษจำเลย
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นเพียงผู้เดินโพยสลากกินรวบส่งให้แก่เจ้ามือ มิได้เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ซึ่งในชั้นอุทธรณ์จำเลยได้ยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉับ จำเลยก็ไม่ได้ฎีกาโต้แย้งว่าการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ไม่ได้วินิจฉัยนั้นไม่ชอบแต่อย่างไร การที่จำเลยยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นฎีกาซ้ำอีก ถือได้ว่าเป็นข้อเท็จจริงที่เพิ่งยกขึ้นในชั้นฎีกาและไม่ได้เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 216 ทั้งมิได้เป็นข้อความที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้ตัดสินไว้ จึงไม่อาจใช้ดุลพินิจอนุญาตให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 221 ได้ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7894/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัย เหตุข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกา ไม่ใช่การคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นเพียงผู้เดินโพยสลากกินรวบส่งให้แก่เจ้ามือ มิได้เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ซึ่งในชั้นอุทธรณ์จำเลยได้ยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย จำเลยก็ไม่ได้ฎีกาโต้แย้งว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ไม่ได้วินิจฉัยนั้นไม่ชอบแต่อย่างไร การที่จำเลยยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นฎีกาซ้ำอีก ถือได้ว่าเป็นข้อเท็จจริงที่เพิ่งยกขึ้นในชั้นฎีกาและไม่ได้เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 216 ทั้งมิได้เป็นข้อความที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้ตัดสินไว้ จึงไม่อาจใช้ดุลพินิจอนุญาตให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 221 ได้ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6558/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาข้อเท็จจริงใหม่, ลดโทษมาตรา 75, และรอการลงโทษสำหรับเยาวชน
ฎีกาของจำเลยที่ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดฐานรับของโจรซึ่งขัดกับคำให้การรับสารภาพของจำเลยและไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 7 จึงเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ในชั้นฎีกา ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 15
การที่ศาลล่างใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำเลยโดยไม่ลดมาตราส่วนโทษให้ตาม ป.อ. มาตรา 75 ซึ่งเป็นการไม่ถูกต้องนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความมิได้ยกขึ้นฎีกา แต่ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3061/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ข้อเท็จจริงใหม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และการใช้ พ.ร.บ.ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดหลังฟ้อง
จำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามฟ้องโจทก์ ต่อมาจำเลยอุทธรณ์ว่าน้ำหนักเมทแอมเฟตามีนและปริมาณที่คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่ถูกต้อง ถือเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่และมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 15
ตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดฯ มาตรา 22 ให้คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจัดให้มีแผนการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแก่ผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามมาตรา 19 ที่คณะอนุกรรมการดังกล่าววินิจฉัยว่าเป็นผู้เสพหรือติดยาเสพติด และให้แจ้งผลการตรวจพิสูจน์ให้พนักงานอัยการทราบเพื่อพิจารณามีคำสั่งชะลอการฟ้อง ซึ่งเป็นวิธีการก่อนการฟ้อง แต่คดีนี้พนักงานอัยการยื่นฟ้องและดำเนินคดีแก่จำเลยต่อศาลชั้นต้นแล้ว จึงไม่อาจนำ พ.ร.บ.ดังกล่าวมาใช้ให้เป็นคุณแก่จำเลยไม่ว่าในทางใดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม – การบังคับคดี – ไม่ขายทรัพย์สินรวม – ราคาต่ำเกินสมควร
อุทธรณ์ของผู้ร้องมีอยู่ 2 ประเด็น คือ เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้บังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษารวมกันไปทั้งหมด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 309 วรรคสอง และเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินในราคาต่ำเกินสมควร เป็นการกระทำไม่สุจริตตามมาตรา 296 วรรคสอง ประกอบมาตรา 309 ทวิวรรคสอง ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 7 รับวินิจฉัยให้เฉพาะประเด็นที่สอง โดยรับฟังไม่ได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย คำวินิจฉัยดังกล่าวจึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิ วรรคสี่ ฉะนั้น การที่ผู้ร้องฎีกาว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการบังคับคดีฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 309 วรรคสอง จึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 7 ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7317/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ข้อเท็จจริงใหม่นอกเหนือจากที่ยกขึ้นว่ากันในศาลล่าง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์โดยยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่า ที่พิพาทไม่ใช่เป็นของจำเลยแต่เป็นของผู้ร้อง โดยผู้ร้องชำระราคาครบถ้วนแล้วในวันทำสัญญาซื้อขายหลังจากนั้นผู้ร้องได้ครอบครองทำประโยชน์จนได้สิทธิครอบครองประเด็นตามคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้อง จึงมีว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของที่พิพาทโดยซื้อมาจากจำเลยแล้วหรือไม่การที่ผู้ร้องอุทธรณ์ว่า หลังจากทำสัญญาซื้อขายที่พิพาทแล้ว จำเลยสัญญาว่าจะดำเนินการจดทะเบียนโอนที่พิพาทต่อเจ้าพนักงานที่ดินให้แก่ผู้ร้องในภายหลัง เท่ากับอ้างว่าสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ร้องกับจำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขายมิใช่สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดตามที่อ้างมาในคำร้องขัดทรัพย์ จึงเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่นอกเหนือไปจากข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาในคำร้องขัดทรัพย์ ถือได้ว่าเป็นอุทธรณ์ในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ทั้งมิใช่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องจึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ร้องไม่มีสิทธิฎีกา แม้ต่อมาผู้ร้องฎีกาก็ถือว่าเป็นฎีกาในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยฎีกาของผู้ร้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9519/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตามมาตรา 249 วรรคแรก กรณีข้อเท็จจริงใหม่ที่มิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลล่าง แม้มีเหตุจำเป็นก็ไม่อาจใช้ข้อ ยกเว้นมาตรา 249 วรรคสองได้
ปัญหาที่โจทก์จะยกขึ้นฎีกาเพราะพฤติการณ์ไม่เปิดช่องให้กระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคสองมิได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น
of 10