คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อแพ้ชนะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12183/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าตรวจลายมือชื่อเป็นข้อแพ้ชนะคดี หากผลตรวจยืนยันลายมือชื่อจำเลย
โจทก์จำเลยท้ากันว่า ให้ศาลส่งลายมือชื่อของจำลยในสัญญากู้กับตัวอย่างลายมือชื่อของจำเลยไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ ถ้าผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่าลายมือชื่อในสัญญากู้เป็นลายมือชื่อของจำเลยจริง จำเลยยอมแพ้คดี ถ้าไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย โจทก์ยอมแพ้คดี ศาลส่งเอกสารดังกล่าวไปให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจพิสูจน์แล้ว ผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่า น่าจะเป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน ดังนี้ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นการยืนยันหรือทำนองยืนยันว่าเป็นลายมือชื่อของจำเลยตรงตามคำท้าของโจทก์จำเลยแล้ว จำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7339/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงให้ผลคดีอาญาเป็นข้อแพ้ชนะในคดีแพ่ง ศาลต้องถือตามข้อตกลงหากคำพิพากษาคดีอาญาตรงกับข้อตกลง
คดีนี้คู่ความตกลงท้ากันให้ถือเอาผลของคำพิพากษาคดีอาญาเป็นข้อแพ้ชนะโดยตกลงกันว่า หากคดีดังกล่าวศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 คดีนี้ไม่มีความผิดและยกฟ้อง ให้ถือว่าจำเลยทั้งสองในคดีนี้พ้นจากความรับผิด แต่หากศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ในคดีนี้มีความผิดตามข้อกล่าวหา จำเลยทั้งสองจะต้องร่วมกันรับผิดชำระเงินเต็มตามฟ้องแก่โจทก์ กรณีจึงเป็นเรื่องที่คู่ความตกลงกันในประเด็นแห่งคดีมาเป็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 วรรคหนึ่ง ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 หาใช่เป็นกรณีที่การวินิจฉัยในคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ไม่
คดีอาญาที่คู่ความท้ากัน ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมายังไม่มั่นคงเพียงพอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้แสดงว่าตามคำพิพากษาคดีอาญาดังกล่าว ศาลได้วินิจฉัยแล้วว่าจำเลยไม่มีความผิด ดังนี้ การที่ศาลแรงงานวินิจฉัยว่าคดีนี้ต้องถือเอาคำพิพากษาคดีอาญาของศาลในคดีดังกล่าวเป็นข้อแพ้ชนะ และฟังว่าจำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดในเงินที่สูญหายไปตามฟ้องตามคำท้านั้นชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7339/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงให้ผลคดีอาญาเป็นข้อแพ้ชนะในคดีแพ่ง: ศาลต้องถือตามข้อตกลง ไม่ใช่แค่ข้อเท็จจริงในคำพิพากษา
คดีนี้คู่ความตกลงท้ากันให้ถือเอาผลของคำพิพากษาคดีอาญาเป็นข้อแพ้ชนะโดยตกลงกันว่า หากคดีดังกล่าวศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 คดีนี้ไม่มีความผิดและยกฟ้อง ให้ถือว่าจำเลยทั้งสองในคดีนี้พ้นจากความรับผิด แต่หากศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ในคดีนี้มีความผิดตามข้อกล่าวหา จำเลยทั้งสองจะต้องร่วมกันรับผิดชำระเงินเต็มตามฟ้องแก่โจทก์ กรณีจึงเป็นเรื่องที่คู่ความตกลงกันในประเด็นแห่งคดีมาเป็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 วรรคหนึ่ง ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 หาใช่เป็นกรณีที่การวินิจฉัยในคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ไม่
คดีอาญาที่คู่ความท้ากัน ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมายังไม่มั่นคงเพียงพอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้แสดงว่าตามคำพิพากษาคดีอาญาดังกล่าว ศาลได้วินิจฉัยแล้วว่าจำเลยไม่มีความผิด ดังนี้ การที่ศาลแรงงานวินิจฉัยว่าคดีนี้ต้องถือเอาคำพิพากษาคดีอาญาของศาลในคดีดังกล่าวเป็นข้อแพ้ชนะ และฟังว่าจำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดในเงินที่สูญหายไปตามฟ้องตามคำท้านั้นชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5406/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ผลการตรวจลายมือชื่อผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะในคดี และการรับฟังค่าอ้างเอกสารที่ชำระภายหลัง
โจทก์อ้างสัญญายืมข้าวเปลือกเป็นพยาน ต่อมาคู่ความท้ากันให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูสจน์ลายมือชื่อจำเลยในเอกสารดังกล่าวโดยให้ถือความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีโดยอาศัยผลจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ดังนี้ การที่ไม่่ได้เสียค่าอ้างเอกสารจึงเป็นเรื่องนอกเหนือคำท้า ไม่มีผลทำให้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นเสียไป เมื่อได้ความว่าโจทก์เสียค่าอ้างเอกสารดังกล่าวแล้ว แม้จะเสียภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2274/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับข้อเท็จจริงจากผลตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญ ไม่ถือเป็นการยอมรับข้อแพ้ชนะ
ตามรายงานกระบวนพิจารณาปรากฏว่าจำเลยที่ 2 แต่ฝ่ายเดียวเป็นผู้แถลงรับและต่อสู้ตลอดจนยอมรับข้อเท็จจริงที่ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ได้ว่าผลเป็นอย่างไร ตนยอมรับตามนั้น โจทก์เพียงแต่แถลงไม่ค้าน ซึ่งหมายความเพียงว่าไม่ค้านการที่ศาลจะส่งเอกสารต่าง ๆ ไปให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจพิสูจน์เท่านั้นโจทก์หาได้ยอมรับผลการตรวจพิสูจน์เป็นข้อแพ้ชนะตามที่จำเลยที่ 2 แถลงด้วยแต่อย่างใดไม่
รายงานการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญที่ระบุว่า ไม่อาจจะลงความเห็นให้เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดได้นั้น แสดงให้เห็นว่าผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าวศาลไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดได้ จึงต้องรับฟังพยานหลักฐานอื่นต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเกี่ยวกับวันหย่าในคดีโกงเจ้าหนี้ ศาลวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ใช่ข้อแพ้ชนะสำคัญ
ในคดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 กับพวก ในข้อหาโกงเจ้าหนี้ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 รู้ว่าโจทก์จะใช้หรือได้ใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ แม้คดีดังกล่าวจำเลยที่ 1 เบิกความและนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จว่า จำเลยที่ 1 กับ ม.หย่ากันเมื่อใดก็ตาม ศาลไม่ได้หยิบยกข้อความที่ว่าจำเลยที่ 1 หย่ากันม.ขึ้นวินิจฉัยเป็นข้อแพ้ชนะ อันจะเป็นข้อสำคัญในคดีจำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ และนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาคดีอื่นเป็นข้อแพ้ชนะ: ต้องรอฟังผลถึงที่สุดก่อนพิจารณาคดีนี้
ข้อความที่คู่ความแถลงท้ากันว่า ปัญหาว่าจำเลยที่ 1ขับรถยนต์โดยสารประมาทหรือไม่นั้น คู่ความขอถือเอาผลคำพิพากษาของอีกคดีหนึ่งเป็นข้อแพ้ชนะ คำว่า ผลคำพิพากษาของอีกคดีหนึ่งนั้นมิได้ระบุว่าผลคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น จึงต้องหมายถึงผลคำพิพากษาอันถึงที่สุดแล้ว ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกาก็ตาม และเมื่อเป็นคำท้าคู่ความต้องผูกพันตามคำแถลงนั้น เมื่อคดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุดคดีที่คู่ความท้ากันนี้ต้องรอฟังผลคำพิพากษาถึงที่สุดของคดีนั้นเสียก่อน จึงจะพิจารณาประเด็นข้อพิพาทอื่นที่มิได้ท้ากันต่อไปได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าสืบพยานเป็นข้อแพ้ชนะใช้บังคับได้ การอ้างพยานเบิกความไม่สุจริตหลังเบิกความแล้วฟังไม่ได้
โจทก์จำเลยตกลงท้ากันขอให้สืบ ส.เป็นพยานหากส. เบิกความเจือสมฝ่ายใด ให้ฝ่ายนั้นชนะคดี ดังนี้ คำท้าของโจทก์จำเลยจึงเป็นคำท้าที่เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาท ใช้บังคับได้ เมื่อ ส. เบิกความเจือสมฝ่ายโจทก์โจทก์ก็เป็นฝ่ายชนะคดีตามคำท้า จำเลยจะกลับมายื่นคำร้องอ้างว่า ส. เบิกความโดยไม่สุจริต ขอให้ศาลไต่สวนและเพิกถอนคำท้าภายหลังที่ ส. ได้เบิกความต่อศาลไปแล้ว ย่อมไม่มีเหตุผลให้รับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงปูโฉนดเป็นข้อแพ้ชนะ ศาลต้องวินิจฉัยตามผลการรังวัด หากผลไม่ชัดเจน ศาลไม่อาจวินิจฉัยตามข้อตกลงได้
ในวันชี้สองสถาน โจทก์จำเลยตกลงกันต่างไม่ขอสืบพยานบุคคล โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินปูโฉนดที่ดินของโจทก์จำเลยและให้ศาลชี้ขาดตัดสินไปตามผลแห่งการปูโฉนดคือถ้าที่ดินพิพาทที่ฝ่ายหนึ่งหาว่าอีกฝ่ายหนึ่งบุกรุกอยู่ในเขตโฉนดของฝ่ายใดก็ให้ตกเป็นของฝ่ายนั้น ดังนี้ ข้อตกลงที่คู่ความท้าเป็นข้อแพ้ชนะกันก็คือให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการปูโฉนดของทั้งสองฝ่ายและให้ศาลพิพากษาไปตามผลของการปูโฉนด คือที่ดินพิพาทอยู่ในโฉนดของฝ่ายใดก็ให้ตกเป็นของฝ่ายนั้น แต่ตามแผนที่ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินทำส่งให้ศาลนั้นไม่ปรากฏว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตโฉนดของฝ่ายใด จึงยังถือไม่ได้ว่าเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการปูโฉนดแล้วดังที่โจทก์จำเลยตกลงท้ากัน ศาลจึงยังไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดให้เป็นไปตามข้อท้าของโจทก์จำเลยดังกล่าวนั้นได้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยถือเอาข้อเท็จจริงอื่นซึ่งไม่ได้อยู่ในข้อท้าของคู่ความมาวินิจฉัยนั้น ย่อมเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นที่คู่ความท้ากัน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่จึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงปูโฉนดเป็นข้อแพ้ชนะ ศาลต้องวินิจฉัยตามผลการปูโฉนด หากไม่ชัดเจน วินิจฉัยนอกประเด็นไม่ได้
ในวันชี้สองสถาน โจทก์จำเลยตกลงกันต่างไม่ขอสืบพยานบุคคลโดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินปูโฉนดที่ดินของโจทก์จำเลยและให้ศาลชี้ขาดตัดสินไปตามผลแห่งการปูโฉนดคือถ้าที่ดินพิพาทที่ฝ่ายหนึ่งหาว่าอีกฝ่ายหนึ่งบุกรุกอยู่ในเขตโฉนดของฝ่ายใดก็ให้ตกเป็นของฝ่ายนั้น ดังนี้ ข้อตกลงที่คู่ความท้าเป็นข้อแพ้ชนะกันก็คือ ให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการปูโฉนดของทั้งสองฝ่ายและให้ศาลพิพากษาไปตามผลของการปูโฉนด คือที่ดินพิพาทอยู่ในโฉนดของฝ่ายใดก็ให้ตกเป็นของฝ่ายนั้น แต่ตามแผนที่ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินทำส่งให้ศาลนั้นไม่ปรากฏว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตโฉนดของฝ่ายใด จึงยังถือไม่ได้ว่าเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการปูโฉนดแล้วดังที่โจทก์จำเลยตกลงท้ากันศาลจึงยังไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดให้เป็นไปตามข้อท้าของโจทก์จำเลยดังกล่าวนั้นได้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยถือเอาข้อเท็จจริงอื่นซึ่งไม่ได้อยู่ในข้อท้าของคู่ความมาวินิจฉัยนั้น ย่อมเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นที่คู่ความท้ากัน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่จึงชอบแล้ว
of 2