พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1302/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ต่างประเทศ: การแจ้งเป็นหนังสือตามอนุสัญญากรุงเบอร์ลิน และผลต่อการคุ้มครองลิขสิทธิ์ฮ่องกงในไทย
ประเทศภาคีแห่งอนุสัญญากรรมสารกรุงเบอร์ลิน ค.ศ. 1908และภาคีโปรโตคลเพิ่มเติม กรุงเบอร์น ค.ศ. 1914 ต้องแจ้งเป็นหนังสือต่อรัฐบาลแห่งสมาพันธรัฐสวิส และให้รัฐบาลแห่งสมาพันธรัฐสวิสแจ้งให้ประเทศที่เป็นสมาชิกแห่งสันนิบาตประเทศอื่น ๆ ทราบ เกี่ยวดินแดนของประเทศที่จะให้ได้รับความคุ้มครองตามข้อตกลง การที่ประเทศสหราชอาณาจักรประกาศให้ฮ่องกงเป็นภาคีอนุสัญญาดังกล่าว โดยไม่ปรากฏว่าได้แจ้งเป็นหนังสือไปให้รัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสทราบและสมาพันธรัฐสวิสได้แจ้งการประกาศของประเทศสหราชอาณาจักรให้ดินแดนฮ่องกงเข้าเป็นภาคีแห่งกรรมสารกรุงเบอร์ลิน ค.ศ. 1908 ไปให้ประเทศในภาคีรวมทั้งประเทศไทยทราบ การประกาศของประเทศสหราชอาณาจักรดังกล่าวไม่อาจฟังได้ว่าฮ่องกงมีฐานะเป็นภาคีตามบทบัญญัติของกรรมสารกรุงเบอร์ลิน ค.ศ. 1908 มาตรา 26 วรรคท้าย ประเทศไทยก็ไม่ต้องให้ความคุ้มครองงานอันมีลิขสิทธิ์ของฮ่องกงตามพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 42
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3776/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ: การคุ้มครองงานสร้างสรรค์และขอบเขตการละเมิดลิขสิทธิ์โดยทางอ้อม
ในคดีเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์พ.ศ. 2521 มาตรา 42 นั้น แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องแต่เพียงว่าประเทศไทยและฮ่องกงซึ่งเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษต้องให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของประเทศภาคีอื่น ๆแห่งอนุสัญญาดังกล่าว โดยไม่มีคำว่า "กฎหมาย" อยู่หน้าประเทศก็ตาม การกล่าวว่า ทั้งสองประเทศต่างให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของประเทศภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าวก็มีความหมายว่ากฎหมายของทั้งสองประเทศได้ให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์นั้นแล้ว เพราะทุกประเทศต้องปกครองโดยกฎหมาย ฟ้องของโจทก์ในส่วนนี้ชอบแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่าภาพยนตร์วีดีโอที่จำเลยนำออกให้เช่าเสนอให้เช่านั้นเป็นงานที่ทำขึ้นโดยละเมิดสิทธิของผู้อื่น การกระทำของจำเลยจึงหาเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์โดยทางอ้อมตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์มาตรา 27 ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2951/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองลิขสิทธิ์งานต่างประเทศ: ฟ้องต้องระบุชัดเจนว่ากฎหมายต่างประเทศให้ความคุ้มครองลิขสิทธิ์ของภาคีอื่นด้วย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าวีดีทัศน์ของโจทก์เป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายเมืองฮ่องกงซึ่งประเทศอังกฤษภาคีแห่งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรมทำ ณกรุงเบอร์น นำเมืองฮ่องกงซึ่งเป็นอาณานิคมของตนเข้าผูกพันตามอนุสัญญาดังกล่าว และประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย มิได้กล่าวในฟ้องว่ากฎหมายของเมืองฮ่องกงได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าวด้วย และถ้อยคำที่โจทก์บรรยายในฟ้องว่า ทั้งประเทศไทยและเมืองฮ่องกงต่างได้ให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ซึ่งกันและกันรวมถึงงานภาพยนตร์ วีดีทัศน์ด้วย จึงได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามกฎหมายไทยนั้น ก็ไม่อาจแปลไปได้ว่ากฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ของเมืองฮ่องกงได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญา ฟ้องโจทก์จึงขาดข้อความสำคัญที่จะแสดงให้เห็นว่าวีดีทัศน์ของโจทก์มีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการฟ้องคดีอาญา ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ: การบรรยายฟ้องตามมาตรา 42 พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ โดยใช้คำว่า 'ประเทศ' แทน 'กฎหมาย' ยังถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
แม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องโดยใช้ข้อความตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 ว่า "...และกฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าว ..." แต่ใช้คำว่า "ประเทศ"แทนคำว่า "กฎหมาย" ก็พอที่จะแปลความหมายตามฟ้องของโจทก์ได้ว่ารวมถึงกฎหมายของประเทศนั้นด้วย มิใช่กรณีที่โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องเสียเลยว่า กฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ ฟ้องของโจทก์จึงมีสาระสำคัญที่แสดงให้เห็นว่างานตามฟ้องเข้าหลักเกณฑ์ที่อาจได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 42 ดังกล่าว และเป็นฟ้องที่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ: การบรรยายฟ้องตามมาตรา 42 พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ และการตีความคำว่า 'ประเทศ' แทน 'กฎหมาย'
แม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องโดยใช้ข้อความตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 ว่า "...และกฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ ของภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าว..." แต่ใช้คำว่า "ประเทศ" แทนคำว่า "กฎหมาย" ก็พอที่จะแปลความหมายตามฟ้องของโจทก์ ได้ว่ารวมถึงกฎหมายของประเทศนั้นด้วย มิใช่กรณีที่โจทก์ไม่ได้ กล่าวในฟ้องเสียเลยว่ากฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครอง แก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ ฟ้องของโจทก์จึงมีสาระสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่างานตามฟ้องเข้าหลักเกณฑ์ที่อาจได้รับความคุ้มครอง ตามมาตรา 42 ดังกล่าว และเป็นฟ้องที่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4335/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองลิขสิทธิ์: การพิสูจน์สถานะภาคีของอังกฤษในกรรมสารกรุงเบอร์ลิน และการห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ฎีกาของจำเลยที่ว่า ประเทศอังกฤษได้นำเมืองฮ่องกงเข้าเป็นภาคีของกรรมสารกรุงเบอร์ลิน ค.ศ. 1908 หรือไม่อันจะเข้าเงื่อนไขที่จะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 หรือไม่ นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริงเพื่อที่จะนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายคือพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2521 มาตรา 42 ฎีกาจำเลยที่โต้เถียงว่า เมืองฮ่องกงเป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของประเทศจีน ไม่เป็นภาคีในกรรมสารกรุงเบอร์ลิน ค.ศ. 1908 นั้น เป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังมาแล้ว จึงต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5929/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองลิขสิทธิ์งานต่างประเทศ จำเป็นต้องพิสูจน์การคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศนั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยละเมิดลิขสิทธิ์งานสร้างสรรค์ประเภทโสตทัศนวัสดุแถบ บันทึกภาพ (วีดีโอ เทป) ภาพยนตร์มีชื่อภาษาไทยว่า คิงคอง ภาค 2 ของบริษัทอินเตอร์คอนติเนนตัล ฟิล์ม ดิสตริบิวเตอร์ส์ (ฮ่องกง) จำกัดผู้เสียหายซึ่งเป็นนิติบุคคล เป็นงานมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายฮ่องกง ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์และประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย กฎหมายของประเทศฮ่องกงได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าวเป็นคำบรรยายฟ้องที่มีข้อความสำคัญแสดงให้เห็นว่า แถบ บันทึกภาพยนตร์ของผู้เสียหายตามฟ้องเข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับความคุ้มครองตาม มาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มีข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการบรรยายฟ้องแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5010/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ต่างประเทศ: จำเป็นต้องพิสูจน์การคุ้มครองในประเทศต้นทางตามอนุสัญญาลิขสิทธิ์
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาฐานละเมิดงานสร้างสรรค์ ของ โจทก์ร่วมซึ่งเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ต่างประเทศ จำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์จึงต้องนำสืบว่ากฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาและเมืองฮ่องกงได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานวีดีโอเทปภาพยนตร์อันมีลิขสิทธิ์ของประเทศไทยซึ่งเป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ แต่ที่โจทก์นำสืบกฎหมายของต่างประเทศซึ่งมีคำแปลเพียงบางส่วนนั้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่แน่นอนว่ากฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาและเมืองฮ่องกงได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานวีดีโอเทปภาพยนตร์อันมีลิขสิทธิ์ของประเทศไทยซึ่งเป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ดัง ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521โจทก์ร่วมจึงไม่ได้รับความคุ้มครองดังกล่าวในประเทศไทยและลงโทษจำเลยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1637/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศต้องแสดงให้เห็นว่ากฎหมายของประเทศต้นทางคุ้มครองลิขสิทธิ์ของภาคีอื่นด้วย
คดีความผิดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศซึ่งโจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า ภาพยนตร์ตามฟ้องเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย แต่โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องเลยว่ากฎหมายของประเทศนั้นให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีแห่งอนุสัญญาดังกล่าวด้วย ฟ้องโจทก์จึงขาดข้อความสำคัญที่จะแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์ตามฟ้องมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการฟ้องคดีอาญาไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4026/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลิขสิทธิ์งานการ์ตูน: การคุ้มครองภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ และการพิจารณาความคล้ายคลึงกับเครื่องหมายการค้า
แม้ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน แต่เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นข้อเดียวว่าภาพการ์ตูนที่จำเลยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้เหมือนหรือคล้ายกับภาพการ์ตูนสนูปปี้ของโจทก์หรือไม่ หากเหมือนหรือคล้ายกันจะเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์หรือไม่ โดยโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพยานต่อไป เช่นนี้ ต้องถือว่าจำเลยได้สละข้อต่อสู้อื่นๆ แล้ว โจทก์จึงไม่ต้องสืบพยานว่าสิทธิของโจทก์ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไทยหรือไม่
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม ฯลฯ ลิขสิทธิในศิลปกรรมจะมีขึ้นได้ก็ต้องเป็นศิลปกรรมที่ทำขึ้นในแผนกศิลป เช่น รูปศิลป ดังนี้ รูปการ์ตูนสุนัขของโจทก์ซึ่งเป็นเพียงรูปคล้ายสุนัขธรรมดาทั่วๆ ไปที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ ซึ่งการขีดเขียนอาจเหมือนหรือคล้ายกันได้เป็นธรรมดา จึงไม่ใช่ลิขสิทธิ์ในศิลปกรรมตามความหมายของพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม ฯลฯ ลิขสิทธิในศิลปกรรมจะมีขึ้นได้ก็ต้องเป็นศิลปกรรมที่ทำขึ้นในแผนกศิลป เช่น รูปศิลป ดังนี้ รูปการ์ตูนสุนัขของโจทก์ซึ่งเป็นเพียงรูปคล้ายสุนัขธรรมดาทั่วๆ ไปที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ ซึ่งการขีดเขียนอาจเหมือนหรือคล้ายกันได้เป็นธรรมดา จึงไม่ใช่ลิขสิทธิ์ในศิลปกรรมตามความหมายของพระราชบัญญัติดังกล่าว