คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าทำขวัญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าทำขวัญ: การวางเงิน ณ สำนักงานวางทรัพย์กลางถือเป็นการวางต่อศาล
การวางเงินค่าทำขวัญต่อศาลตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290ข้อ 24 วรรคแรก ย่อมหมายถึงการวางเงินค่าทำขวัญต่อ สำนักงานวางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เมื่อจำเลย ที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์กระทำในนามของ จำเลยที่ 1 นำเงินค่าทำขวัญสำหรับที่ดินที่โจทก์ถูกเวนคืนที่โจทก์ ไม่ยอมรับไปวางต่อสำนักงานวางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดี ย่อมถือว่า เป็นการวางเงินค่าทำขวัญต่อศาลแล้วดังนี้เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกเงิน ค่าทำขวัญที่โจทก์ควรจะได้เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ เจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์วางเงินค่าทำขวัญต่อศาล คดีโจทก์ จึงขาดอายุความตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 290 ข้อ 24 วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าทำขวัญเวนคืน: การวางเงินต่อสำนักงานวางทรัพย์กลางถือเป็นการวางต่อศาล
การวางเงินค่าทำขวัญต่อศาลอันเนื่องมาจากการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ข้อ 24 วรรคแรกหมายถึงการวางเงินค่าทำขวัญต่อสำนักงานวางทรัพย์กลางกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ นำเงินค่าทำขวัญสำหรับที่ดินของโจทก์ที่ถูกเวนคืนที่โจทก์ไม่ยอมรับไปวางต่อสำนักงานวางทรัพย์กลางเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2528 ถือได้ว่าเป็นการวางเงินค่าทำขวัญต่อศาลแล้ว โจทก์ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว และฟ้องเรียกเงินค่าทำขวัญส่วนที่โจทก์ควรจะได้เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2529พ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่เจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์วางเงินค่าทำขวัญต่อศาล จึงขาดอายุความตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 290 ข้อ 24 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1334/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเวนคืนที่ดิน: สิทธิในการรับค่าทำขวัญ, การหักราคาที่ดินที่สูงขึ้น, และดอกเบี้ยผิดนัดชำระ
ที่ดินของโจทก์ถูกเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงเทศบาล ทำให้ที่ดินส่วนที่เหลือของโจทก์มีราคาสูงขึ้นเป็นพิเศษ กรณีนี้พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2482 ไม่มีบทบัญญัติโดยเฉพาะ มาตรา 42 บัญญัติให้บังคับตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ จึงต้องบังคับตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 ซึ่งมาตรา 14บัญญัติให้เอาราคาที่สูงขึ้นนั้นหักกับค่าทดแทน จำเลยจึงมีสิทธิที่จะนำราคาที่ดินที่ทวีขึ้นเพราะการตัดถนนตามพระราชบัญญัติเวนคืนมาหักกับเงินค่าทำขวัญซึ่งจะจ่ายแก่โจทก์ได้
การเรียกเงินค่าทำขวัญตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2482 กับการขอรับเงินค่าทดแทนตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 เป็นคนละกรณีกัน เพราะตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2482 นั้น เจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นได้ แม้จะยังไม่ได้ชำระค่าทำขวัญ และการกำหนดค่าทำขวัญ มาตรา 53 ก็ให้กำหนดเท่าราคาทรัพย์สินตามราคาธรรมดาที่ซื้อขายกันในท้องตลาดในวันที่ประกาศใช้พระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาเวนคืน แต่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 เจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าครอบครองทรัพย์สินที่ต้องเวนคืนได้ก็ต่อเมื่อได้ใช้เงินหรือวางเงินทดแทน การกำหนดค่าทดแทนก็ให้ตกลงราคากันก่อนตามมาตรา 22 หากตกลงกันไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่มีหนังสือกำหนดราคาเด็ดขาดไปให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบตามมาตรา 23 ถ้าไม่มีคำสนองรับจากเจ้าของที่ดิน แต่ละฝ่ายจึงมีสิทธิขอเสนอตั้งอนุญาโตตุลาการ ถ้าผู้มีสิทธิที่จะได้รับค่าทดแทนไม่เสนอขอตั้งอนุญาโตตุลาการดังกล่าวภายในหกเดือน จึงให้ถือราคาเด็ดขาดที่เจ้าหน้าที่เสนอเป็นค่าทดแทนตามมาตรา 24 การกำหนดค่าทดแทนมีวิธีการเป็นลำดับดังกล่าวแล้ว ซึ่งเป็นคนละอย่างกับวิธีการเรียกเงินค่าทำขวัญ ฉะนั้น ในการเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงเทศบาล จึงต้องบังคับตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2482 จะนำบทบัญญัติมาตรา 23 และ 24 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 มาใช้บังคับหาได้ไม่
การเรียกดอกเบี้ยตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 นั้น เป็นเรื่องที่กฎหมายบัญญัติไว้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ไม่ใช้ค่าทดแทน จะนำมาบังคับในกรณีเรียกค่าทำขวัญมิได้ แต่เมื่อโจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าทำขวัญที่ดินจากจำเลยและโจทก์ได้มีหนังสือทวงถามกำหนดเวลาให้จำเลยชำระเงินแล้ว จำเลยไม่ยอมชำระ จึงเป็นฝ่ายผิดนัด โจทก์ย่อมคิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดได้ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1334/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเวนคืนที่ดิน: สิทธิการหักราคาที่ดินที่สูงขึ้นจากค่าทำขวัญ และดอกเบี้ยผิดนัดชำระ
ที่ดินของโจทก์ถูกเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงเทศบาล ทำให้ที่ดินส่วนที่เหลือของโจทก์มีราคาสูงขึ้นเป็นพิเศษ กรณีนี้พระราชบัญญัติทางหลวงพ.ศ. 2482 ไม่มีบทบัญญัติโดยเฉพาะ มาตรา 42 บัญญัติให้บังคับตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ จึงต้องบังคับตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 ซึ่งมาตรา 14บัญญัติให้เอาราคาที่สูงขึ้นนั้นหักกับค่าทดแทน จำเลยจึงมีสิทธิที่จะนำราคาที่ดินที่ทวีขึ้นเพราะการตัดถนนตามพระราชบัญญัติเวนคืนมาหักกับเงินค่าทำขวัญซึ่งจะจ่ายแก่โจทก์ได้
การเรียกเงินค่าทำขวัญตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2482กับการขอรับเงินค่าทดแทนตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์พ.ศ. 2497 เป็นคนละกรณีกัน เพราะตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2482 นั้น เจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นได้แม้จะยังไม่ได้ชำระค่าทำขวัญ และการกำหนดค่าทำขวัญ มาตรา 53 ก็ให้กำหนดเท่าราคาทรัพย์สินตามราคาธรรมดาที่ซื้อขายกันในท้องตลาดในวันที่ประกาศใช้พระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาเวนคืนแต่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 เจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าครอบครองทรัพย์สินที่ต้องเวนคืนได้ก็ต่อเมื่อได้ใช้เงินหรือวางเงินทดแทน การกำหนดค่าทดแทนก็ให้ตกลงราคากันก่อนตามมาตรา 22 หากตกลงกันไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่มีหนังสือกำหนดราคาเด็ดขาดไปให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบตามมาตรา 23 ถ้าไม่มีคำสนองรับจากเจ้าของที่ดิน แต่ละฝ่ายจึงมีสิทธิขอเสนอตั้งอนุญาโตตุลาการ ถ้าผู้มีสิทธิที่จะได้รับค่าทดแทนไม่เสนอขอตั้งอนุญาโตตุลาการดังกล่าวภายในหกเดือน จึงให้ถือราคาเด็ดขาดที่เจ้าหน้าที่เสนอเป็นค่าทดแทนตามมาตรา 24 การกำหนดค่าทดแทนมีวิธีการเป็นลำดับดังกล่าวแล้ว ซึ่งเป็นคนละอย่างกับวิธีการเรียกเงินค่าทำขวัญ ฉะนั้น ในการเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงเทศบาล จึงต้องบังคับตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2482 จะนำบทบัญญัติมาตรา 23 และ 24 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์พ.ศ. 2497 มาใช้บังคับหาได้ไม่
การเรียกดอกเบี้ยตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 นั้น เป็นเรื่องที่กฎหมายบัญญัติไว้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ไม่ใช้ค่าทดแทนจะนำมาบังคับในกรณีเรียกค่าทำขวัญมิได้ แต่เมื่อโจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าทำขวัญที่ดินจากจำเลยและโจทก์ได้มีหนังสือทวงถามกำหนดเวลาให้จำเลยชำระเงินแล้ว จำเลยไม่ยอมชำระ จึงเป็นฝ่ายผิดนัด โจทก์ย่อมคิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดได้ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเวนคืนและการขัดขวางการเข้าครอบครองทรัพย์สิน แม้ยังมิได้รับค่าทำขวัญ
พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2482 มาตรา 49 บัญญัติว่าเมื่อกำหนดเวลาที่เจ้าหน้าที่เวนคืนจะเข้าครอบครองตามที่กำหนดไว้ได้ล่วงพ้นไปแล้ว ให้เจ้าหน้าที่เวนคืนมีอำนาจเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นได้ แม้จะยังไม่ได้ชำระค่าทำขวัญ ฉะนั้น จำเลยจะมีสิทธิและได้รับค่าทำขวัญแล้วหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่เป็นข้อต่อสู้ที่จะยกขึ้นอ้างเพื่อขัดขวางไม่ยอมออกจากที่ที่ถูกเวนคืนได้ เมื่อจำเลยขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เวนคืนเข้าครอบครองทรัพย์ที่ถูกเวนคืนนั้น ก็ย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2497 มาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิขอคืนที่ดินเวนคืน หากไม่ตกลงค่าทำขวัญภายใน 5 ปี และที่ดินไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์
ที่ดินที่ถูกเวนคืนตาม พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ นั้นเมื่อไม่มีการตกลงเรื่องค่าทำขวัญภายใน 5 ปี โดยมิใช่ความผิดของเจ้าของที่ดิน และทางฝ่ายรัฐบาลก็ยังไม่ได้เคยใช้ หรือกำลังใช้ที่ดินนั้นตามความประสงค์ในการเวนคืนนั้นแล้ว เจ้าของที่ดินนั้นย่อยมีสิทธิได้รับคืนที่ดินนั้น
ที่ดินถูกเวนคืนตาม พ.ร.บ.เวนคืนอหังหาริมทรัพย์ ฯลฯ หลายเจ้าของด้วยกัน ถ้าที่ดินของใครมิได้ถูกใช้หรือถูกใช้แต่บางส่วน ก็ยังของคืนส่วนที่เหลือได้
การฟ้องนิติบุคคลเป็นจำเลยนั้นโจทก์เพียงแต่ระบุชื่อนิติบุคคลเป็นจำเลย ไม่ระบุชื่อบุคคลผู้แทนนิติบุคคลมาด้วย ก็ย่อมใช้ได้ เพราะนิติบุคคลย่อมมีผู้ดำเนินการอยู่ในตัวตามกฏหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1600/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหน้าที่ในการครอบครองที่ดินเวนคืนหลังจ่ายค่าทำขวัญ แม้เจ้าของที่ดินยังไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
โจทก์ซึ่งเป็นกระทรวงเจ้าหน้าที่ ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่ถูกเวนคืนโดยกล่าวอ้างว่าจำเลยได้ทำสัญญาให้ไว้ จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันรับเงินค่าทำขวัญซึ่งได้รับไปแล้ว บัดนี้เกินกำหนดเวลา จำเลยก็เพิกเฉย จึงขอให้ศาลขับไล่ อ้างสิทธิตามมาตรา 21 ตอนท้ายและมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2477 ดังนี้ แม้จำเลยจะต่อสู้ว่า ฝ่ายโจทก์มิได้เคยใช้ที่ดินแปลงนี้ จนเวลาล่วงพ้น 5 ปีเศษแล้ว จำเลยจึงขอคืน โจทก์ไม่ปฏิบัติตาม จำเลยจึงฟ้องคดียังอยู่ในระวห่างพิจารณา ก็ดีศาลก็ย่อมพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกไปจากที่ดินนั้นได้ โดยไม่ต้องสืบพยานฟังข้อต่อสู้ของจำเลยแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1600/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเวนคืนที่ดินและสิทธิการขับไล่ เมื่อผู้รับค่าทำขวัญไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามกำหนด
โจทก์ซึ่งเป็นกระทรวงเจ้าหน้าที่ ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่ถูกเวนคืนโดยกล่าวอ้างว่าจำเลยได้ทำสัญญาให้ไว้ จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันรับเงินค่าทำขวัญซึ่งได้รับไปแล้ว บัดนี้เกินกำหนดเวลา จำเลยก็เพิกเฉยจึงขอให้ศาลขับไล่ อ้างสิทธิตามมาตรา 21 ตอนท้ายและมาตรา 33 แห่ง พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2477 ดังนี้ แม้จำเลยจะต่อสู้ว่า ฝ่ายโจทก์มิได้เคยใช้ที่ดินแปลงนี้จนเวลาล่วงพ้น 5 ปีเศษแล้ว จำเลยจึงขอคืน โจทก์ไม่ปฏิบัติตาม จำเลยจึงฟ้อง คดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาก็ดี ศาลก็ย่อมพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกไปจากที่ดินนั้นได้ โดยไม่ต้องสืบพยานฟังข้อต่อสู้ของจำเลยแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งกรรมการเวนคืนเกินกำหนด และการวางเงินค่าทำขวัญที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
การตั้งกรรมการเวนคืนตาม พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์นั้น แม้จะตั้งภายหลังกำหนด 3 เดือนก็เป็นกรรมการที่ชอบด้วยกฎหมาย
การวางเงินค่าทำขวัญตามมาตรา 24 เป็นเรื่องหาตัวผู้รับเงินค่าทำขวัญไม่พบ หากรู้ตัวและตำแหน่งแหล่งที่ของผู้รับเงินค่าทำขวัญแล้ว จะขอวางเงินค่าทำขวัญไม่ได้
เงินค่าทำขวัญซึ่งตกลงกำหนดกันเอง หรืออนุญาโตตุลาการกำหนดให้แล้ว ผู้รับเงินค่าทำขวัญไม่ยอมรับ จึงจะวางศาลได้ตามมาตรา 30 หากเป็นเงินที่โจทก์ไม่ได้ตกลงด้วย หรืออนุญาโตตุลาการไม่ได้กำหนดแล้ว จะวางศาลมิได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งกรรมการเวนคืนหลัง 3 เดือนยังชอบด้วยกฎหมาย การวางเงินค่าทำขวัญต้องหาผู้รับไม่ได้ หรือเป็นไปตามข้อตกลง
การตั้งกรรมการเวนคืนตาม พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์นั้นแม้จะตั้งภายหลังกำหนด 3 เดือนก็เป็นกรรมการที่ชอบด้วยกฎหมาย
การวางเงินค่าทำขวัญตามมาตรา 24 เป็นเรื่องหาตัวผู้รับเงินค่าทำขวัญไม่พบ หากรู้ตัวและตำแหน่งแหล่งที่ของผู้รับเงินค่าทำขวัญแล้ว จะขอวางเงินค่าทำขวัญไม่ได้
เงินค่าทำขวัญซึ่งตกลงกำหนดกันเอง หรืออนุญาโตตุลาการกำหนดให้แล้ว ผู้รับเงินค่าทำขวัญไม่ยอมรับ จึงจะวางศาลได้ตามมาตรา 30 หากเป็นเงินที่โจทก์ไม่ได้ตกลงด้วยหรืออนุญาโตตุลาการไม่ได้กำหนดแล้ว จะวางศาลมิได้
of 2