คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฆาตกรรม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 24 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3153/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นจากพยานแวดล้อมและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำผิด ได้ความจากมารดาพี่น้องและเพื่อนผู้ตายว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเคยปรับทุกข์ว่ามีเหตุทะเลาะกับจำเลย เพราะจำเลยติดพันฐานชู้สาวกับผู้หญิงอื่นขณะเกิดเหตุจำเลยขับรถมากับผู้ตายเพียงสองต่อสอง ผู้ตายถูกยิงภายนอกรถใกล้รถยนต์ที่จอดอยู่ถูกอวัยวะสำคัญในลักษณะจ่อยิง ทันใดจำเลยวิ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุขอความช่วยเหลือจาก ล. และ ค.ที่วัดบอกว่าขณะจอดรถปัสสาวะผู้ตายนั่งคอยอยู่ในรถ มีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์เข้ามายิง แต่เมื่อ ล. กับ ค. ไปถึงกลับพบว่าผู้ตายนอนตายอยู่ที่ไหล่ถนนติดประตูหน้ารถข้างซ้าย รถอยู่ในลักษณะที่ปิดประตูไว้ทั้งสองข้างเปิดไฟฟ้าภายในรถกับไฟหรี่หน้ารถไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจที่เกิดเหตุหลังรับแจ้งไม่พบร่องรอยที่จำเลยอ้างว่ายืนถ่ายปัสสาวะทางด้านท้ายรถประมาณ 3 เมตรไม่พบร่องรอยจุดซึ่งจำเลยอ้างว่าวิ่งไปหลบซ่อนคนร้าย ทั้ง ๆที่ดินบริเวณนั้นมีความอ่อนนุ่มถ้าเหยียบจะเป็นรอยเท้า และไม่พบร่องรอยกระสุนปืนภายในรถคันเกิดเหตุ ทั้ง ๆ ที่จำเลยอ้างในที่เกิดเหตุว่าคนร้ายขับรถจักรยานยนต์มาจอดด้านคนขับแล้วใช้อาวุธปืนลูกซองยิงผู้ตายซึ่งนั่งอยู่ภายในรถข้างที่นั่งคนขับจำเลยยืนถ่ายปัสสาวะอยู่ห่างจากรถซึ่งเปิดไฟฟ้าภายในรถประมาณ 3 เมตรจำเลยน่าจะเห็นและจดจำลักษณะรูปพรรณสัณฐานคนร้ายได้และรีบแจ้งให้ตำรวจสกัดจับหรือสืบจับคนร้ายทันที แต่จำเลยไม่ได้กระทำเช่นนั้นถ้าจำเลยและผู้ตายมีศัตรูที่จะทำอันตรายถึงชีวิต คนร้ายก็น่าจะเป็นฝ่ายขับรถจักรยานยนต์ติดตามหรือดักทำร้าย ไม่ใช่ขับรถสวนทางมา ทั้งจำเลยก็อ้างว่าคนร้ายเรียกชื่อจำเลยก่อนแสดงว่าคนร้ายมุ่งฆ่าจำเลย เหตุใดคนร้ายกลับใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายซึ่งคนร้ายสามารถมองเห็นจากไฟฟ้าภายในรถ โดยไม่ติดตามยิงจำเลยซึ่งยืนอยู่ห่างเพียง 3 เมตร และเมื่อมีการตรวจพิสูจน์เขม่าดินปืนที่มือของจำเลยก็พบธาตุแอนติโมนีและธาตุแบเรียม ซึ่งปกติพบในเขม่าดินปืน ดังนั้น พยานแวดล้อมกรณีดังกล่าวมั่นคงเพียงพอฟังได้ว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายจริง ข้ออ้างการนำสืบของจำเลยที่ว่าคนร้ายขับรถจักรยานยนต์เข้ามายิงผู้ตายขณะจำเลยยืนถ่ายปัสสาวะอยู่นั้นมีพิรุธไม่น่าเชื่อ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์ไปกลับ-ซ่อนตัวบ่งชี้เจตนา
จำเลยเคยกล่าวคำอาฆาตผู้ตายไว้เนื่องจากจำเลยซื้อ สลากกินรวบจากผู้ตายถูก รางวัล 20,000 บาท แต่ ผู้ตายจ่ายเพียง 1,000 บาทวันเกิดเหตุ ป. ชวนผู้ตายไปซื้อ สุรา จำเลยอาสาจะไปกับผู้ตายผู้ตายไม่ยอมไปด้วย จำเลยว่าถ้า ไปก็เรียบร้อย เมื่อ ป. คนเดียวไปซื้อ สุรา ผู้ตายกับจำเลยเกิดโต้เถียง กันอย่างรุนแรง มีผู้เข้ามาห้าม จำเลยกลับไปที่บ้านซึ่ง อยู่ห่างไปประมาณ 500 เมตร เอาปืนลูกซองสั้นแล้วย้อนกลับมาที่บ้าน ป. ลอด ใต้ถุน บ้านเข้าไปและยิงผู้ตาย ดังนี้ ระยะทางไปกลับจากบ้าน ป. กับบ้านจำเลยประมาณ1 กิโลเมตร จำเลยย่อมมีโอกาสคิดทบทวนว่าสมควรจะฆ่าผู้ตายหรือไม่พฤติการณ์ที่จำเลยลอด ใต้ถุน บ้านเข้าไปยิงผู้ตายก็เพื่อปกปิดมิให้ผู้อื่นเห็น การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าผู้ตายโดย ไตร่ตรอง ไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันภัยอุบัติเหตุ vs. ฆาตกรรม, การพิสูจน์เหตุการณ์, และดอกเบี้ยผิดสัญญา
แม้สัญญาประกันภัยจะไม่คุ้มครองการทำร้ายหรือฆาตกรรมก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าคนที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เอาประกันเป็นใครและยังฟังไม่ได้แน่ชัดว่าผู้เอาประกันถึงแก่ความตายเพราะถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนับว่าการตายของผู้เอาประกันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุผู้รับประกันภัยคุ้มครองมรณกรรมเนื่องจากอุบัติเหตุจะปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่.
เมื่อผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันได้แจ้งให้ผู้รับประกันทราบถึงอุบัติเหตุและได้ส่งหลักฐานความเสียหายไปให้ผู้รับประกันภัยครบถ้วนแล้ว ผู้รับประกันเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ผู้รับประโยชน์จึงมีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยของเงินที่ผู้รับประโยชน์มีสิทธิได้รับ นับแต่วันผิดนัด.
ในคดีที่โจทก์ฟ้องและดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาโดยตลอดค่าธรรมเนียมในศาลที่จำเลยจะต้องใช้แทนโจทก์ชั้นศาล ต้องสั่งให้จำเลยชำระต่อศาลในนามของโจทก์ ตามป.วิ.พ. มาตรา 158.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1803/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นการประกันภัยฆาตกรรม: การพิจารณาพฤติการณ์การเสียชีวิตเพื่อวินิจฉัยความรับผิดของผู้รับประกัน
สัญญาประกันคุ้มครองอุบัติเหตุมีข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยไว้ว่า จะไม่รับผิดชอบชดใช้ค่าทดแทนใด ๆ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยสาเหตุการถูกฆาตกรรม ดังนี้ หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต โดยมีพฤติการณ์แสดงว่าถูกคนร้ายฆ่าตายโดยเจตนา ถือได้ว่าการตายของผู้เอาประกันภัยเกิดจากการฆาตกรรมผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1803/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นความรับผิดในสัญญาประกันภัย: การฆาตกรรมไม่ถือเป็นอุบัติเหตุ
ผู้ตายได้ทำสัญญาประกันคุ้มครองอุบัติเหตุกับจำเลย โดยในสัญญาดังกล่าวมีข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยว่าจะไม่รับผิดชอบชดใช้ค่าทดแทนใด ๆ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยการถูกฆาตกรรมเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ตายถูกคนร้ายฆ่าตาย โดยเจตนา การตาย ของผู้ตายจึงเกิดจากการฆาตกรรมจำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันจึงไม่ต้องรับผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1803/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นสัญญาประกันอุบัติเหตุ: การเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม
สัญญาประกันคุ้มครองอุบัติเหตุมีข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยไว้ว่า จะไม่รับผิดชอบชดใช้ค่าทดแทนใด ๆ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยสาเหตุการถูกฆาตกรรม ดังนี้ หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต โดยมีพฤติการณ์แสดงว่าถูกคนร้ายฆ่าตายโดยเจตนา ถือได้ว่าการตายของผู้เอาประกันภัยเกิดจากการฆาตกรรมผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3874/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีอาญาเกี่ยวกับฆาตกรรม ศาลอุทธรณ์แก้ไขบทมาตราและโทษจำคุก โจทก์ฎีกาได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุก 15 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 72 จำคุก 3 ปี เป็นการแก้ทั้งบทกฎหมายและกำหนดโทษที่ลงโทษจำเลย เป็นการแก้ไขมาก คู่ความไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
จำเลยกับผู้ตายเป็นสามีภรรยากันมาประมาณ 7 ปีมีบุตรด้วยกัน 3 คน และมีปากเสียงทะเลาะกันเสมอ ๆ ขณะก่อนเกิดเหตุ จำเลยกับผู้ตายก็มีปากเสียงทะเลาะกันอีก การที่ผู้ตายบ่นว่ากล่าวหาจำเลยพาชายชู้มานอนที่เตียงนอนและไล่จำเลยออกจากบ้าน ทั้งขู่ว่าหากจำเลยไม่ไปจากบ้านจะฆ่าจำเลยนั้น ก็เป็นเรื่องสามีภรรยาเป็นปากเสียงทะเลาะกันตามปกติที่เคยเป็นมา จะถือว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหาได้ไม่ จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงมิใช่เหตุบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วม ฆาตกรรมไตร่ตรองไว้ก่อน การกระทำร่วมตั้งแต่ต้นบ่งชี้เจตนา
การที่จำเลยทั้งสามได้ไปด้วยกันตั้งแต่แรกที่ลวงผู้ตายให้ไปรับเงินชำระหนี้จากจำเลยที่ 1 และพาผู้ตายไปถึงที่เปลี่ยวเพื่อการฆ่าแล้วได้ฆ่าเสียแสดงว่า จำเลยทั้ง 3 คน คิดกันประกอบการฆาตกรรมนี้ จึงต้องผิดฐานเป็นตัวการด้วยกันทุกคนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,289 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ แม้การทำร้ายต่อเนื่อง ศาลยกฟ้องฆาตกรรม
ได้ความว่าผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายบิดจำเลย ๆ เข้าห้ามโดยไม่มีอาวุธติดตัว ผู้ตายตามไปจะทำร้ายจำเลย จนจำเลยถอยหนีไปจนมุมไม่มีทางหนีไปอีกแล้วพอดีจำเลยพบมีดวางอยู่ จึงเอามีดกวัดแกว่งและร้องห้ามผู้ตายไม่ให้เข้ามา ผู้ตายยังขืนเข้าไปจึงถูกมีดที่หน้าผาก ผู้ตายไม่ล้มเอามือซ้ายปิดท้ายทอยส่วนมือขวายังถือมีดเงื้อง่าอยู่ จำเลยเอามีดเหวี่ยงไปอีกทีหนึ่งถูกท้ายทอยแล้วโดดหนี ผู้ตายอยู่ต่อมา 5-6 วันก็ตายเพราะบาดแผลนั้น ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้วินิจฉัยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ เพราะการกระทำของจำเลยทั้ง 2 ครั้งเป็นการกระทำต่อเนื่องในขณะเดียวกัน การที่ผู้ตายถูกฟันครั้งแรก จะให้จำเลยซึ่งอยู่ในฐานะเช่นนั้นคาดหมายว่าผู้ตายได้รับบาดเจ็บเพียงไรและจะหวนกลับมาทำร้ายอีกหรือไม่ย่อมไม่ได้และที่จำเลยเหวี่ยงมีดไปยังท้ายทอยอีก 1 ทีเป็นการกระทำเพื่อให้โอกาสจำเลยหลีกพ้นจากภัยอันผู้ตายเป็นผู้ก่อแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1760/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจชันสูตรศพข้ามแดน: กรณีฆาตกรรมในเขตน่านน้ำและศพถูกเคลื่อนย้าย
+ถูกฆาตกรรมในเขตน่านน้ำ+จำเลยทั้งสองเป็นผู้ฆ่าเมื่อถูกฆ่าแล้ว+แล้วศพเคลื่อนย้ายไปอยู่ในรัฐกลันคัน+ปักนอกประเทศไทย นายอำเภอท้องที่เกิดเหตุย่อมมีอำนาจทำการชันสูตรศพได้ เมื่อ+ที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่คัดค้าน และทั้งศพผู้ตาย+เข้ามายังรัฐไทยแล้ว กรณีเช่นนี้ถือว่าการ+พลิกศพนั้นชอบด้วย ก.ม.แล้ว
of 3